การฝึกบาลิกาตัน พ.ศ. 2567 ช่วยเสริมความสามารถในการทำงานร่วมกันและความร่วมมือพหุภาคีระหว่างฟิลิปปินส์และสหรัฐฯ

มาเรีย ที. เรเยส

กองทัพฟิลิปปินส์และกองทัพสหรัฐอเมริกาเริ่มการซ้อมรบประจำปีครั้งใหญ่ที่สุดในช่วงปลายเดือนเมษายน พ.ศ. 2567 โดยมีผู้เข้าร่วมจากออสเตรเลียและฝรั่งเศส รวมถึงผู้สังเกตการณ์จากบรูไน แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไทย สหราชอาณาจักร และเวียดนาม

การฝึกบาลิกาตัน ซึ่งเป็นคำภาษาตากาล็อกที่มีความหมายว่าเคียงบ่าเคียงไหล่ ถือเป็นหนึ่งในการซ้อมรบระหว่างฟิลิปปินส์และสหรัฐฯ ที่มีแผนการซับซ้อนมากที่สุด การฝึกดังกล่าวจะยังคงดำเนินไปจนถึงวันที่ 10 พฤษภาคม และมีทหารเข้าร่วมมากกว่า 16,000 นาย นับเป็นครั้งแรกที่การฝึกครั้งนี้มีการปฏิบัติการทางเรือร่วมกันในเขตเศรษฐกิจพิเศษของฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลจีนใต้ที่ความตึงเครียดทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นในปีที่ผ่านมา จากการกระทำอันก้าวร้าวของสาธารณรัฐประชาชนจีนที่ต้องการผลักดันการอ้างสิทธิ์ในดินแดนตามอำเภอใจ

ฝรั่งเศสได้ส่งเรือฟริเกต เอฟเอส เวนเดอเมียเร ของกองทัพเรือเข้าร่วมการฝึกเป็นครั้งแรก ในขณะที่กองกำลังรักษาชายฝั่งฟิลิปปินส์และสหรัฐฯ ได้ส่งเรือเข้าร่วมการฝึกร่วมของกองทัพเรือเป็นครั้งแรก

เมื่อการฝึกบาลิกาตันครั้งที่ 39 เริ่มต้นขึ้น เจ้าหน้าที่ทหารฟิลิปปินส์ยังได้ประกาศอีกว่า ญี่ปุ่นจะเข้าร่วมการฝึกในฐานะผู้เข้าร่วมครั้งแรกใน พ.ศ. 2568

การซ้อมรบกำลังดำเนินไปทั่วทั้งฟิลิปปินส์ รวมถึงในพื้นที่ปฏิบัติการทางลูซอนเหนือ ลูซอนใต้ และทางตะวันตกของกองทัพฟิลิปปินส์ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ทางทะเลจีนใต้และไต้หวัน

“การฝึกในสถานที่เหล่านั้นดำเนินการบนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ และอยู่ภายใต้ขอบเขตสิทธิทางอธิปไตยและความรับผิดชอบของคุณ” พล.ท. วิลเลียม เจอร์นีย์ นาวิกโยธินสหรัฐฯ ผู้อำนวยการการฝึกบาลิกาตันของสหรัฐฯ กล่าวในการแถลงข่าว

กองทัพฟิลิปปินส์และสหรัฐฯ จะจมเรือที่ปลดประจำการและซ้อมยึดเกาะคืนในจังหวัดบาตาเนสและปาลาวัน ในการฝึกครั้งแรกอื่น ๆ เรือของกองทัพเรือฟิลิปปินส์จะยิงขีปนาวุธต่อต้านเรือ และกองทัพอากาศฟิลิปปินส์จะใช้ขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศในการฝึกซ้อมรบป้องกันแบบบูรณาการ

ก่อนที่จะเริ่มการฝึกบาลิกาตัน กองทัพสหรัฐฯ ได้ส่งระบบขีปนาวุธพิสัยกลางภาคพื้นดินระบบใหม่หรือที่เรียกว่า ระบบอาวุธไทฟอน ไปยังเกาะลูซอนเหนือ

“นี่ถือเป็นย่างก้าวที่สำคัญในความร่วมมือของเรากับฟิลิปปินส์” พล.จ. เบอร์นาร์ด แฮร์ริงตัน กล่าวในแถลงการณ์ “เราขอบคุณพันธมิตรของเราในกองทัพฟิลิปปินส์ และเรารู้สึกตื่นเต้นที่จะขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงของเราเมื่อเรานำพาขีดความสามารถใหม่นี้มาสู่ลูซอน”

การฝึกบาลิกาตันมีจุดประสงค์เพื่อการแก้ไข “การพัฒนาความสามารถในการทำงานร่วมกัน ความพยายามร่วมกัน การปกป้องกฎหมายระหว่างประเทศ และการทำให้แน่ใจว่าเสรีภาพในการเดินเรือในพื้นที่เหล่านี้ … ไม่ถูกกีดขวางโดยฝ่ายอื่น ๆ” พล.ต. มาร์วิน ลิซูไดน์ ผู้อำนวยการฝึกของฟิลิปปินส์ กล่าวกับผู้สื่อข่าว

จีนอ้างสิทธิ์ในพื้นที่เกือบทั้งหมดของทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นช่องทางสำหรับการค้าขายทางเรือที่มีมูลค่ามากกว่า 107 ล้านล้านบาท (ประมาณ 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ต่อปี ใน พ.ศ. 2559 ศาลระหว่างประเทศได้ตัดสินว่าการอ้างสิทธิ์ที่มากเกินไปของจีนในน่านน้ำที่เป็นข้อพิพาทไม่เป็นไปตามพื้นฐานด้านกฎหมาย อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนได้ปฏิเสธที่จะรับทราบถึงคำตัดสินดังกล่าว

พล.ต. ลิซูไดน์กล่าวว่า คาดว่าจีนจะส่งยุทโธปกรณ์ทางทหารเข้ามาใช้งานในบริเวณพื้นที่ของการฝึกบาลิกาตัน ซึ่งส่วนหนึ่งจะจัดขึ้นในพื้นที่ใกล้เคียงกับเกาะเทียมในทะเลที่รัฐบาลจีนสร้างขึ้นและจัดกำลังทหารเข้าไปในเกาะ ซึ่งเป็นเกาะที่อยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษของฟิลิปปินส์

ผู้เข้าร่วมการฝึกบาลิกาตันยังได้ดำเนินการฝึกอบรมเกี่ยวกับปฏิบัติการด้านความมั่นคงทางไซเบอร์และปฏิบัติการทางข้อมูล ตลอดจนการมีส่วนร่วมทางชุมชนและโครงการก่อสร้างต่าง ๆ

การฝึกนี้จัดขึ้นหลังจากการประชุมสุดยอดในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ระหว่างกลุ่มผู้นำของญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และสหรัฐฯ โดยมุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและความมั่นคง

พล.อ. โรมีโอ บราวน์เนอร์ จูเนียร์ ผู้บัญชาการกองทัพฟิลิปปินส์ กล่าวว่า การฝึกบาลิกาตันแสดงให้เห็นถึงความสามัคคี ความรับผิดชอบร่วมกัน และความร่วมมือกันอย่างยั่งยืน” ในฟิลิปปินส์ สหรัฐฯ และหุ้นส่วนรายอื่น ๆ

“นี่ไม่ใช่ความร่วมมือเพื่อให้เกิดความสะดวกสบายเท่านั้น แต่เป็นภาพสะท้อนที่ชัดเจนของประวัติศาสตร์ร่วมกันของเรา ความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ต่อประชาธิปไตย และการเคารพกฎหมายระหว่างประเทศในการแสวงหาสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก” พล.อ. บราวเนอร์ กล่าวในพิธีเปิด

มาเรีย ที. เรเยส เป็นผู้สื่อข่าวสมทบของ ฟอรัม รายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์