ความเคลื่อนไหวของกองทัพปลดปล่อยประชาชนที่มุ่งเป้าไปยังไต้หวันเป็นอุปสรรคต่อเป้าหมายของนายสี
เจ้าหน้าที่ ฟอรัม
นักวิเคราะห์กล่าวว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนภายใต้การนำของนายสี จิ้นผิง เลขาธิการพรรค กำลังใช้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใกล้หมู่เกาะจินเหมินของไต้หวันเมื่อไม่นานมานี้เป็นข้ออ้างในการยกระดับยุทธวิธีบีบบังคับในพื้นที่สีเทา ความเคลื่อนไหวล่าสุดของรัฐบาลจีนเกิดขึ้นในรูปแบบของการเพิ่มความกดดันทางทหาร เศรษฐกิจ และขวัญกำลังใจ ซึ่งมุ่งเป้าไปยังไต้หวันที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนอ้างสิทธิ์และข่มขู่ว่าจะใช้กำลังเข้ายึดครอง
“ผลกระทบทางเศรษฐกิจ การเงิน และห่วงโซ่อุปทานอันเนื่องมาจากการไม่มีเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันจะเกิดขึ้นในทุกประเทศและทุกชุมชนที่เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลก” นักวิจัยแห่งศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์และการระหว่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา เขียน
แนวทางของนายสีสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามที่จะรังแกรัฐบาลไต้หวันก่อนหน้านี้ ซึ่งส่งผลในทางตรงกันข้ามเช่นเดียวกัน ผู้สังเกตการณ์กล่าว เนื่องด้วยมีเสถียรภาพของภูมิภาคเป็นเดิมพัน ประเทศต่าง ๆ เช่น ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้มีการรักษาสถานภาพที่เป็นอยู่มากขึ้น ซึ่งรวมถึงเสรีภาพในการเดินเรือในช่องแคบไต้หวันที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจด้วย องค์กรต่าง ๆ เช่น กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศและสหภาพยุโรปได้เน้นย้ำอย่างต่อเนื่องถึงความสำคัญของสันติภาพและเสถียรภาพทั่วทั้งช่องแคบไต้หวัน รวมถึงสนับสนุนให้มีการแก้ไขปัญหาในช่องแคบดังกล่าวด้วยสันติวิธี
“นอกจากนี้ กลุ่มที่มีเพียงไม่กี่ประเทศ แต่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ยังได้ดำเนินปฏิบัติการทางทหารใกล้กับไต้หวัน และอีกหลายประเทศได้ส่งคณะผู้แทนรัฐสภาและออกแถลงการณ์ต่อสาธารณะเพื่อสนับสนุนการรักษาสถานภาพที่เป็นอยู่” ตามรายงานของศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์และการระหว่างประเทศ
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การดำเนินการที่เพิ่มขึ้นนี้ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับความแน่วแน่ของไต้หวันในการปกป้องประชาธิปไตยจากภัยคุกคามของนายสี
ในช่องแคบไต้หวันที่อยู่ห่างจากแผ่นดินใหญ่ของสาธารณรัฐประชาชนจีนประมาณ 3 กิโลเมตร หมู่เกาะจินเหมินตกเป็นเหยื่อที่โชคร้ายจากการยั่วยุโดยไม่มีเหตุผลของรัฐบาลจีน
อาชญากรชาวจีนที่ถูกกล่าวหา 2 คนจมน้ำเสียชีวิตในระหว่างการพยายามหลบหนีจากกองกำลังรักษาชายฝั่งไต้หวันใกล้เกาะจินเหมินเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 รัฐบาลไต้หวันระบุว่าชายทั้งสองคนทำการประมงบนเรือยนต์ความเร็วสูงที่ไม่มีเครื่องหมายบ่งบอกสังกัดและไม่มีใบรับรองการลงทะเบียนหรือท่าเรือต้นทางที่ลงทะเบียน
การลาดตระเวนของไต้หวันโดยรอบหมู่เกาะดังกล่าวมุ่งเน้นไปที่การหยุดยั้ง “บุคคลกลุ่มเล็ก ๆ จากจีนแผ่นดินใหญ่ซึ่งได้รุกล้ำเข้ามาในน่านน้ำของไต้หวันเพื่อขุดทราย ทำการประมงโดยใช้ระเบิดและสารพิษ ทิ้งขยะในทะเล และมีส่วนร่วมในการกระทำอื่น ๆ ที่เป็นอันตรายต่อระบบนิเวศทางทะเล” คณะกรรมการกิจการจีนแผ่นดินใหญ่กล่าว
ตามข้อมูลของคณะมนตรี จีนเพิกเฉยต่อการเรียกร้องที่ห้ามมิให้กระทำการดังกล่าว และได้ตอบโต้ต่อเหตุการณ์เมื่อไม่นานมานี้ด้วยการปกป้องและอำนวยความสะดวกในกิจกรรมทางอาญา ซึ่งรวมถึงกิจกรรมของกองกำลังรักษาชายฝั่งจีนด้วย
“นอกจากนี้ยังมีการยกระดับอย่างมีนัยสำคัญทั้งในแง่ของการแสดงตนของจีนและกิจกรรม “การบังคับใช้กฎหมาย” โดยรอบหมู่เกาะรอบนอกของไต้หวัน ตลอดจนการยกระดับวาทศิลป์ของจีนเมื่อกล่าวถึงไต้หวันโดยตรง” นายจอห์น ดอทสัน รองผู้อำนวยการสถาบันโกลบอลไต้หวัน เขียนให้แก่มูลนิธิเจมส์ทาวน์
มีรายงานว่าเรือของกองกำลังรักษาชายฝั่งจีนมากถึง 5 ลำซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของทหาร ได้เข้าสู่น่านน้ำโดยรอบเกาะจินเหมินเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และได้รับคำเตือนจากทางการไต้หวัน นายดอทสันเขียน นอกจากนี้ บุคลากรของกองกำลังรักษาชายฝั่งจีนซึ่งไม่มีพื้นฐานทางกฎหมายที่ชัดเจน ยังได้รุกล้ำเข้าไปในน่านน้ำที่อยู่ในการควบคุมของไต้หวันและใช้กำลังบังคับเพื่อขึ้นเรือท่องเที่ยวของไต้หวันใกล้กับหมู่เกาะดังกล่าว
รัฐบาลจีนกำลังพยายามบ่อนทำลายสถานภาพที่เป็นอยู่ในช่องแคบไต้หวัน และการแสดงตนมากขึ้นในน่านน้ำโดยรอบไต้หวันซึ่งเป็นภัยต่อเสถียรภาพในภูมิภาค นักวิเคราะห์กล่าว
พรรคคอมมิวนิสต์จีนมักใช้ยุทธวิธีพื้นที่สีเทาดังกล่าวกับทั่วทั้งภูมิภาค กองทัพปลดปล่อยประชาชนได้เพิ่มการฝึกซ้อมอย่างเข้มข้นรอบไต้หวันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยมักจะส่งอากาศยานทางทหารเข้าไปในเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวันเป็นประจำ และข้ามเส้นค่ามัธยฐานของช่องแคบไต้หวันซึ่งทำหน้าที่เป็นเหมือนเส้นกั้นเขตเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการลุกลามบานปลายมานานหลายทศวรรษ
การบีบบังคับทางเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนนั้นรวมถึงการขึ้นภาษีหรือสั่งห้ามการส่งออกของไต้หวัน และการเก็บค่าปรับจากบริษัทไต้หวันซึ่งดำเนินงานในจีน
พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ดำเนินการโจมตีทางไซเบอร์และโครงการบิดเบือนข้อมูลเพื่อสร้างอิทธิพลสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาของไต้หวันในช่วงต้น พ.ศ. 2567 นอกจากนี้ สื่อที่รัฐบาลจีนควบคุมยังบิดเบือนเรื่องราวการจมน้ำเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ โดยเรียกเรือที่ผิดกฎหมายว่าเรือประมงและปกปิดความพยายามในการหลบหนีของลูกเรือ นายซือฟง ลี นักวิจัย เขียนให้แก่สถาบันโกลบอลไต้หวัน
การกระทำในพื้นที่สีเทาของพรรคคอมมิวนิสต์จีนมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไป “ควบคู่ไปกับการข่มขู่ทางทหารอย่างเปิดเผยมากขึ้น” นายดอทสันเขียน
การขัดขวางภัยคุกคามต่อสันติภาพในช่องแคบไต้หวันจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากแนวร่วมหุ้นส่วนที่ “ให้การสนับสนุนไต้หวันอย่างมีนัยสำคัญและเต็มใจที่จะส่งสัญญาณในการป้องปรามที่น่าเชื่อถือไปยังจีน” ตามรายงานของนักวิจัยแห่งศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์และการระหว่างประเทศ “การสร้างแนวร่วมดังกล่าวถือเป็นกุญแจสำคัญในการป้องปรามความขัดแย้งและรักษาพื้นที่ของไต้หวันให้เติบโตในฐานะประเทศประชาธิปไตยที่เจริญรุ่งเรืองและเข้มแข็ง”