ทรัพยากรส่วนรวมของโลกเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ

ผู้นำจีนเพิ่มการใช้จ่ายด้านกองทัพแม้ว่าจะประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจ

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม

สาธารณรัฐประชาชนจีนจะเพิ่มการใช้จ่ายด้านกองทัพร้อยละ 7.2 ใน พ.ศ. 2567 ซึ่งเป็นการเพิ่มการใช้จ่ายในด้านดังกล่าวต่อเนื่องกันมานาน 20 ปี ในขณะที่มีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของประเทศจะเติบโตขึ้นร้อยละ 5 ซึ่งเป็นอัตราที่ผู้สังเกตการณ์มองว่าเป็นการคาดการณ์ในแง่ดีเกินไป

นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีผู้มีอำนาจปกครองเป็นอันดับสองของจีน ได้สรุปแผนการใช้จ่ายด้านกองทัพและการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติที่กินเวลาทั้งสัปดาห์ในช่วงต้นเดือนมีนาคม พ.ศ. 2567 สมาชิกสภานิติบัญญัติและผู้แทนเกือบ 3,000 คนจากมณฑลและภูมิภาคต่าง ๆ ของจีนเข้าร่วมการประชุมประจำปีในกรุงปักกิ่งของสภานิติบัญญัติ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ที่มีหน้าที่แค่อนุมัติร่างกฎหมายไปตามพิธีของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

การจัดสรรด้านความมั่นคงแห่งชาติเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของนายสี จิ้นผิง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กองทัพปลดปล่อยประชาชนด้วยอาวุธและเทคโนโลยีขั้นสูง และนายสีก็ดำเนินการเช่นนี้แม้ว่าจีนจะประสบปัญหาทางเศรษฐกิจก็ตาม “นายสีเชื่อมั่นสุดใจว่าการมุ่งเน้นอย่างเคร่งครัดด้านความมั่นคงสามารถป้องกันภัยคุกคามใดก็ตามต่ออำนาจของตนที่เกิดขึ้นจากความท้าทายด้านเศรษฐกิจในปัจจุบัน” นายเครก ซิงเกิลตัน ผู้เชี่ยวชาญประเทศจีนอาวุโสที่มูลนิธิเพื่อการป้องกันประชาธิปไตย สถาบันวิจัยที่ตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. กล่าวกับหนังสือพิมพ์เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัลเมื่อเดือนมีนาคม

จีนกำลังจะเผชิญภาวะเงินฝืด การส่งออกที่ลดลง และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ซบเซา ความพยายามในการฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วยการสร้างความมั่นใจในกลุ่มสถาบันต่าง ๆ และประชาชนกว่า 1.4 พันล้านคนของประเทศเป็นวาระสำคัญของการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ ตามรายงานของเดอะ ดิโพลแมต ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนโน้มน้าวด้วย “การบริโภคแบบไร้กังวล” ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มที่ส่งเสริมให้ประชาชนใช้จ่ายมากขึ้น มีการขอให้หลาย ๆ ครัวเรือนขายทรัพย์สิน เช่น รถยนต์เก่าและเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่า และซื้อผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ ตามรายงานของดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส

นายหลี่ทราบดีว่าการบรรลุเป้าหมายการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศที่ร้อยละ 5 จะเป็นเรื่องยาก “รากฐานของการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนของจีนนั้นยังคงไม่มีเสถียรภาพ เนื่องจากยังมีอุปสงค์ที่มีประสิทธิภาพไม่เพียงพอ อุตสาหกรรมบางภาคส่วนที่มีกำลังผลิตมากเกินไป ความคาดหวังทางสังคมที่ต่ำ อีกทั้งยังคงมีความเสี่ยงและอันตรายซ่อนเร้นอยู่มากมาย” นายหลี่กล่าวในการใหญ่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ ในบรรดาอุปสรรคต่าง ๆ ประกอบด้วย: คนหนุ่มสาวที่ลาออกจากงาน หน่วยงานท้องถิ่นที่มีหนี้สินจำนวนมาก และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่แทบจะไม่ฟื้นฟูขึ้นเลยจากมาตรการปิดเมืองป้องกันโควิด-19 ตามรายงานของนิตยสารไทม์

การประชุมสิ้นสุดลงโดยไม่มีการจัดการแถลงข่าวปิดการประชุมจากนายหลี่ ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงอิทธิพลของนายหลี่ที่ลดลงและอำนาจครอบงำของนายสีในพรรคคอมมิวนิสต์จีน

นายสีได้รวบรวมอำนาจเข้าไว้ที่ตนเองอย่างมั่นคง รวมถึงการดำเนินการที่การประชุมสภาประชาชนแห่งชาติเพื่อแก้ไขคณะมนตรีรัฐกิจ ซึ่งเป็นองค์กรบริหารระดับสูงของรัฐบาล เพื่อให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีอิทธิพลมากขึ้น

เมื่อแทบไม่มีข่าวดีรายงาน การประชุมสภาประชาชนแห่งชาติครั้งนี้จึงสั้นกว่าการประชุมส่วนใหญ่ในครั้งก่อนหน้า และเกือบทั้งหมดดำเนินการไปอย่างราบเรียบ “ซึ่งตระเตรียมบทมาเป็นอย่างดีไม่ให้เกิดเรื่องผิดคาดขึ้นได้” เพื่อส่งเสริมความเป็นเอกภาพและยกย่องนายสี ตามรายงานของดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส ไม่เปิดโอกาสให้ถามคำถามหยั่งเชิง

การใช้จ่ายด้านกองทัพจำนวน 8.34 ล้านล้านบาท (ประมาณ 2.31 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) เป็นการใช้จ่ายที่มากเป็นอันดับสองของโลกรองจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นปีที่สามติดต่อกันที่สภาประชาชนแห่งชาติได้อนุมัติการจัดสรรงบประมาณด้านกลาโหมที่เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 7 และสอดคล้องกับเป้าหมายของนายสีในการสร้าง “กองทัพระดับโลก” ให้ได้ภายใน พ.ศ. 2592 ตามรายงานของเรดิโอฟรีเอเชีย

“แม้ว่ามีประเด็นเรื่องสถานการณ์เศรษฐกิจของจีนที่เป็นอยู่ตอนนี้ แต่ดูเหมือนว่ารัฐบาลจีนยังคงยืนกรานไม่ลดละกับการเสริมอำนาจให้แก่กองทัพปลดปล่อยประชาชน แม้จะมีความท้าทายด้านเศรษฐกิจก็ตามที” นายคอลลิน โกะ นักวิจัยอาวุโสที่วิทยาลัยนานาชาติศึกษา เอส. ราชารัตนัม ในสิงคโปร์ กล่าวกับเรดิโอฟรีเอเชีย

นอกจากนี้ ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนยังไม่มีความโปร่งใสเกี่ยวกับการใช้จ่ายด้านกลาโหมด้วย เช่น ใน พ.ศ. 2564 การใช้จ่ายด้านกองทัพของจีนอาจมากเป็นสองเท่าของงบประมาณที่ระบุไว้ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุ การใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าใช้จ่ายด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ส่งเสริมกองทัพ ไม่นับรวมอยู่ในตัวเลขงบประมาณดังกล่าว ตามรายงานของเดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button