การสนับสนุนไต้หวันที่เพิ่มขึ้นของเกาหลีใต้ส่อแววถึงการเปลี่ยนแปลงในภูมิภาค
ฟีลิกซ์ คิม
เกาหลีใต้ได้เพิ่มการสนับสนุนไต้หวัน เมื่อต้องเผชิญกับภัยคุกคามจากรัฐบาลจีนที่ต้องการผนวกรวมไต้หวัน ซึ่งเป็นเกาะปกครองตนเองและเป็นศูนย์กลางการผลิตสารกึ่งตัวนำระดับโลก
การเดินทางไปเยือนไทเปอย่างเป็นทางการและกึ่งทางการของคณะผู้แทนจากกรุงโซล และการเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านกลาโหมระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐอเมริกา รวมถึงพันธมิตรและหุ้นส่วนอื่น ๆ แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งนักวิเคราะห์กล่าวว่าเกิดจากความต้องการของรัฐบาลเกาหลีใต้ที่จะรักษาความสมดุลของอํานาจในอินโดแปซิฟิก ส่งเสริมเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และหลีกเลี่ยงความขัดแย้งครั้งใหญ่ในภูมิภาค ตามแถลงการณ์ต่อสาธารณะของนายยุน ซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้
สาธารณรัฐประชาชนจีนอ้างว่าไต้หวันเป็นดินแดนของตนและพยายามบีบบังคับเกาะไต้หวันที่เป็นประชาธิปไตยแห่งนี้ด้วยการฝึกซ้อมทางทหารและกิจกรรมอื่น ๆ ที่ทำลายเสถียรภาพทั้งในและรอบ ๆ ช่องแคบไต้หวัน
ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2566 นายยุนกล่าวกับรอยเตอร์ว่า “ปัญหาของไต้หวันไม่ใช่แค่ปัญหาระหว่างจีนและไต้หวัน แต่เป็นปัญหาทั่วโลกเช่นเดียวกับปัญหาของเกาหลีเหนือ” เมื่อพูดถึงการใช้กําลังเพื่อเปลี่ยนแปลงสถานภาพที่เป็นอยู่ เช่นเดียวกับที่รัฐบาลจีนข่มขู่ว่าจะทํากับไต้หวัน นายยุนกล่าวว่า “เราและประชาคมโลกขอคัดค้านการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างเด็ดขาด”
ฝ่ายนิติบัญญัติของเกาหลีใต้และอดีตเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูง รวมถึงประธานคณะเสนาธิการร่วมเกาหลีใต้ที่เกษียณอายุ ได้เดินทางไปเยือนไทเปเพื่อแสดงการสนับสนุนของรัฐบาลเกาหลีใต้ต่อไต้หวัน
โดยถือว่าช่องแคบไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันไปสู่ “ภูมิภาคอินโดแปซิฟิกที่เสรี สงบสุข และเจริญรุ่งเรือง” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิก พ.ศ. 2565 ของเกาหลีใต้ “รัฐบาลเกาหลีใต้พยายามที่จะขยายฉันทามติในประเด็นที่เกี่ยวกับไต้หวันให้กับสหรัฐฯ และหุ้นส่วนรายสำคัญอื่น ๆ ในภูมิภาคนี้” ดร. คิม แจยอป นักวิจัยอาวุโสแห่งสถาบันซังกยุนเพื่อการศึกษายุทธศาสตร์ระดับโลก มหาวิทยาลัยซุงคยุนกวาน กล่าวกับ ฟอรัม
ภายใต้การนําของนายยุน เกาหลีใต้ได้กระชับความสัมพันธ์ด้านกลาโหมกับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรตามสนธิสัญญา รวมถึงพันธมิตรอื่น ๆ ของสหรัฐฯ อันได้แก่ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และฟิลิปปินส์
ดร. คิมกล่าวว่าผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากความขัดแย้งในช่องแคบไต้หวันต่อการป้องกันประเทศของเกาหลีใต้เป็นพื้นฐานต่อการเปลี่ยนแปลงทัศนคติของรัฐบาลเกาหลีใต้ต่อไต้หวัน เนื่องจากเกาหลีเหนือมีทีท่าจะหาประโยชน์จากวิกฤตนี้ “เพื่อพยายามสร้างการยั่วยุทางทหาร” ต่อเกาหลีใต้
นอกจากนี้ การปราบปรามไต้หวันจากน้ำมือจีน “อาจทำให้ฝ่ายต่อต้านการสืบทอดอำนาจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีข้อได้เปรียบเชิงกลยุทธ์อย่างมากในแง่การถ่วงดุลอำนาจ” ดร. คิมกล่าว “ดังนั้น สหรัฐฯ รวมถึงพันธมิตรและหุ้นส่วนอื่น ๆ ในภูมิภาค เช่น เกาหลีใต้ จะตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงมากขึ้น”
ปัจจัยที่สามที่รัฐบาลเกาหลีใต้สนับสนุนไต้หวันคือ บทบาทสําคัญของไต้หวันด้านการขนส่งสินค้าในภูมิภาคและเป็นผู้ให้บริการหลักของผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมขั้นสูง เช่น สารกึ่งตัวนำ
แม้ว่าจีนและเกาหลีใต้จะเป็นคู่ค้ารายใหญ่ แต่พฤติกรรมก้าวร้าวของรัฐบาลจีนได้กระทำการบีบบังคับทางเศรษฐกิจต่อชาวเกาหลีใต้ ใน พ.ศ. 2560 รัฐบาลจีนได้ทำการขับไล่ครั้งใหญ่ต่อบริษัท ลอตเต้ บริษัทค้าปลีกสัญชาติเกาหลีใต้ ออกจากดินแดนส่วนใหญ่ของตน ซึ่งส่งผลให้บริษัทสูญเสียเงินประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาท (ประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์) เพื่อตอบโต้เกาหลีใต้ที่ติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธเพื่อรับมือกับการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นจากเกาหลีเหนือ
จากการสำรวจเมื่อเร็ว ๆ นี้ ชาวเกาหลีใต้เกือบสองในสามเชื่อว่าเกาหลีใต้ควรให้การสนับสนุนทั้งทางตรงและทางอ้อมสำหรับการปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯ ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินในไต้หวัน ตามรายงานของสถาบันโกลบอลไต้หวัน ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
ฟีลิกซ์ คิม เป็นผู้สื่อข่าวสมทบของ ฟอรัม รายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้