ความร่วมมือแปซิฟิก 24-1 เสร็จสิ้นหมุดหมายสุดท้ายของภารกิจเสริมสร้างการตอบสนองด้านมนุษยธรรมและภัยพิบัติ

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม

ตัวเลขข้อมูลของความร่วมมือดังกล่าวเป็นที่น่าพึงพอใจ ซึ่งได้แก่ การแจกแว่นสายตาจำนวน 7,667 อันและแว่นกันแดดอย่างน้อย 7,440 อัน ผ่าตัดทางทันตกรรมสำเร็จมากกว่า 6,847 ครั้ง จัดหาแรงงานสำหรับโครงการก่อสร้างเกือบ 4,000 ชั่วโมง มีการผ่าตัด 300 ครั้ง และการแสดงคอนเสิร์ต 38 ครั้ง นี่เป็นสถิติข้อมูลครั้งสุดท้ายของภารกิจความร่วมมือแปซิฟิก 24-1 ซึ่งเป็นการสิ้นสุดการเดินทางปฏิบัติภารกิจ 5 ครั้งในเมืองชูก สหพันธรัฐไมโครนีเซีย เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2567 หลังจากให้การดูแลทางการแพทย์และทันตกรรม ตลอดจนด้านวิศวกรรม ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติเป็นเวลา 4 เดือน

ภารกิจความร่วมมือแปซิฟิกที่นําโดยสหรัฐอเมริกานี้เกิดขึ้นหลังจากจากที่สึนามิทําลายเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บางส่วนในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2547 และความพยายามในครั้งนั้นได้พัฒนาจากการดูแลโดยตรงไปสู่การยกระดับความร่วมมือ นี่เป็นภารกิจการเตรียมความพร้อมประจำปีสำหรับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติแบบพหุชาติที่ใหญ่ที่สุดในอินโดแปซิฟิก โดยเป็นการทำงานร่วมกับประเทศเจ้าบ้านและประเทศหุ้นส่วนเพื่อยกระดับความสามารถในการทำงานร่วมกันและขีดความสามารถในการตอบสนองต่อภัยพิบัติ และเพิ่มความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาค

หัวใจสำคัญของภารกิจความร่วมมือแปซิฟิก 24-1 คือเรือโรงพยาบาลที่มีความจุ 1,000 เตียง ยูเอสเอ็นเอส เมอร์ซี ซึ่งความร่วมมือนี้ยังได้ปฏิบัติภารกิจในรัฐโปนเป ไมโครนีเซีย ตลอดจนหมู่เกาะมาร์แชลล์ ปาเลา และหมู่เกาะโซโลมอน

“ภารกิจความร่วมมือแปซิฟิกเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคีและความร่วมมือที่บ่งบอกถึงความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และสหพันธรัฐไมโครนีเซีย และเป้าหมายร่วมกันของเราในการสร้างภูมิภาคอินโดแปซิฟิกที่เปิดกว้าง เชื่อมโยงถึงกัน เจริญรุ่งเรือง มีความยืดหยุ่น และมั่นคง” นางเจนนิเฟอร์ จอห์นสัน เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำไมโครนีเซีย กล่าวในข่าวประชาสัมพันธ์

มีการแวะปฏิบัติภารกิจที่รัฐชูก โดยเกาะแห่งนี้มีประชากรประมาณ 53,000 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาชายฝั่ง ทหารเรือ และทหารบกจากออสเตรเลีย เยอรมนี อังกฤษ และสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่เหล่านี้ให้การรักษาทางทันตกรรม ทัศนมาตรศาสตร์ และหัตถการทางการแพทย์ รวมถึงการผ่าตัด 82 ครั้งบนเรือ ยูเอสเอ็นเอส เมอร์ซี

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสิ่งแวดล้อมของกองทัพเรือสหรัฐฯ ร่วมมือกับประชาชนผู้อยู่อาศัย ดำเนินการศึกษาวิธีการเก็บอาหารและดักจับหนูเพื่อป้องกันการติดเชื้อและลดโอกาสการเกิดโรคเลปโตสไปโรซิส ซึ่งเป็นโรคแบคทีเรียที่สามารถติดต่อผ่านหนูได้

สมาชิกของทีมภารกิจความร่วมมือแปซิฟิกยังร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินของรัฐชูกเพื่อเสริมสร้างการปฐมพยาบาล การค้นหาและกู้ภัย รวมไปถึงการส่งข้อความฉุกเฉินและการสื่อสารในช่วงภัยพิบัติ หน่วยผึ้งทะเลของกองทัพเรือสหรัฐฯ ได้ช่วยซ่อมแซมท่อน้ำที่โรงพยาบาลรัฐชูก พร้อมยกระดับอุปกรณ์ในสนามกีฬา

เจ้าหน้าที่จากกองกำลังของญี่ปุ่นและนิวซีแลนด์เองก็เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจความร่วมมือแปซิฟิก 24-1 เช่นกัน เหตุการณ์น่าประทับใจจำนวนหนึ่งของจุดหมายการปฏิบัติภารกิจก่อนหน้านี้ ได้แก่

• เจ้าหน้าที่ได้ให้การสนับสนุนสถาบันการแพทย์ท้องถิ่น 17 แห่งในหมู่เกาะโซโลมอน รวมถึงคลินิกและโรงพยาบาลรับผู้ปวยส่งต่อแห่งชาติ ในช่วงการแข่งขันกีฬาแปซิฟิกเกมส์ 2566 เจ้าหน้าที่ขนส่งน้ำแข็งประมาณ 27,000 กิโลกรัม ซึ่งจัดส่งโดยเรือ ยูเอสเอส เมอร์ซี ของกองทัพเรือสหรัฐฯ เพื่อป้องกันและรักษาความเครียดจากความร้อน และให้ความคุ้มครองการผ่าตัดเป็นเวลา 14 วัน แก่กองกำลังความมั่นคงข้ามชาติ 500 นาย ที่สนับสนุนการแข่งขันกีฬาครั้งนี้
• สมาชิกทีมแพทย์ล่องเรือกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขท้องถิ่นบนเรือโรงพยาบาล อาร์เอ็มไอเอส ลิวทูน-มัวร์ ในหมู่เกาะมาร์แชลล์เพื่อรณรงค์กำจัดวัณโรคเป็นเวลาสี่วัน นับเป็นครั้งแรกที่บุคลากรทางการแพทย์ของสหรัฐฯ ได้ทำการผ่าตัดจากเรือโรงพยาบาลของประเทศเจ้าภาพระหว่างปฏิบัติภารกิจหุ้นส่วนแปซิฟิก
• นักประดาน้ำได้เคลื่อนย้ายและกำจัดเรือบรรทุกสินค้าที่ถูกทิ้งร้างออกจากท่าเรือ เดเคห์ติก เมืองโปนเป เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ

ดังนั้นขอให้มิตรภาพสุดพิเศษนี้ … เป็นมิตรภาพที่ยั่งยืนและยาวนานไปหลายทศวรรษทั้งในหมู่เกาะและในประเทศต่าง ๆ” นายอเล็กซานเดอร์ นาร์รูห์น ผู้ว่าการรัฐชูก กล่าวในพิธีปิดภารกิจความร่วมมือแปซิฟิก “ขอให้นี่เป็นการปฏิบัติภารกิจด้วยความจริงใจ เพื่อที่เราจะได้เสริมสร้างความมั่นคง ความสามัคคี เสถียรภาพ ความร่วมมือ และมิตรไมตรีในภูมิภาค”