การลาดตระเวนในทะเลจีนใต้ช่วยเสริมความเข้มแข็งให้กับความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพเรือของฟิลิปปินส์และสหรัฐฯ

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม
กองทัพเรือฟิลิปปินส์และสหรัฐฯ ตอบโต้การกระทำอันไม่เป็นมิตรของจีนในทะเลจีนใต้ด้วยการจัดการฝึกทางทะเลสองวันในเดือนมกราคม พ.ศ. 2567 เพื่อเสริมความสามารถในการทำงานร่วมกันและแสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็ง
ทั้งฟิลิปปินส์และสหรัฐฯ ผู้เป็นพันธมิตรกันมายาวนานนั้นได้ดำเนินการลาดตระเวนร่วมกันในเขตเศรษฐกิจพิเศษของฟิลิปปินส์ ในพื้นที่ส่วนหนึ่งของทะเลจีนใต้ที่ชาวฟิลิปปินส์เรียกว่า ทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก การฝึกนี้ประกอบไปด้วยการแลกเปลี่ยนข้ามดาดฟ้าเรือและการฝึกแล่นเรือผ่าน และการแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับการตระหนักรู้ในขอบเขตทางทะเลและประเด็นด้านความมั่นคงอื่น ๆ กองเรือของฟิลิปปินส์ประกอบไปด้วยเรือลาดตระเวน บีอาร์พี เกรกอริโอ เดล พิลาร์ และ บีอาร์พี เรมอน อัลคาเรซ และเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่แบบอู่ลอย บีอาร์พี ดาเบา เดล ซูร์ เรือที่เข้าร่วมของสหรัฐฯ ประกอบไปด้วยเรือบรรทุกเครื่องบินหลักของกองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตี 1 ยูเอสเอส คาร์ล วินสัน และกองบินของเรือเอง เรือลาดตระเวนติดตั้งขีปนาวุธนำวิถี ยูเอสเอส พรินซ์ตัน และเรือพิฆาตติดตั้งขีปนาวุธนำวิถี ยูเอสเอส สเตเร็ตต์ และ ยูเอสเอส คิดด์
“กิจกรรมความร่วมมือทางทะเลนี้นับเป็นย่างก้าวที่สำคัญในพันธมิตรของเราและความสามารถในการทำงานร่วมกันกับสหรัฐอเมริกา” พล.อ. โรมิโอ บราวเนอร์ จูเนียร์ เสนาธิการกองทัพฟิลิปปินส์ กล่าว “อีกทั้งยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของเราในด้านขีดความสามารถและพัฒนาการทางกลาโหมในฐานะกองทัพระดับโลก”
การลาดตระเวนแบบทวิภาคีเกิดขึ้นหลังจากที่มีการเผชิญหน้ากันระหว่างเรือของสาธารณรัฐประชาชนจีนและฟิลิปปินส์เพิ่มสูงขึ้นใน พ.ศ. 2566 จีนอ้างสิทธิ์ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของทะเลจีนใต้ แม้ว่าจะมีการตัดสินโดยศาลระหว่างประเทศใน พ.ศ. 2559 ให้การอ้างสิทธิ์ในเขตแดนโดยพลการของรัฐบาลจีนเป็นโมฆะแล้วก็ตาม
การเผชิญหน้าส่วนหนึ่งเกิดขึ้นในระหว่างภารกิจของฟิลิปปินส์ในการเติมเสบียงไปยังสันดอนโทมัสที่สองในเขตเศรษฐกิจพิเศษของฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นที่ที่นาวิกโยธินประจำการอยู่บนเรือ บีอาร์พี เซียร์รา มาเดร ของกองทัพเรือที่เกยตื้นอยู่บนสันดอน ซึ่งขณะนี้ทำหน้าที่เป็นด่านทหารชั้นนอก เรือของกองกำลังรักษาชายฝั่งจีนได้พุ่งเข้าชน ยิงปืนฉีดน้ำแรงดันสูงใส่เรือเติมเสบียง และยังได้เล็งเป้าเลเซอร์ที่ได้มาตรฐานทางทหารไปยังเรือของกองกำลังรักษาชายฝั่งฟิลิปปินส์ที่มุ่งหน้าไปยัง บีอาร์พี เซียร์รา มาเดร เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 ซึ่งส่งผลให้ลูกเรือสูญเสียทัศนวิสัยชั่วขณะ
หนึ่งเดือนถัดมา เรือของกองทัพเรือจีนหนึ่งลำและเรือที่ต้องสงสัยว่าเป็นเรือพลเรือนติดอาวุธทางทะเลของจีน 42 ลำ ถูกพบเห็นใกล้กับเกาะถิตู ซึ่งเป็นด่านทหารชั้นนอกอีกแห่งหนึ่งของฟิลิปปินส์ในทะเลจีนใต้ ตามรายงานของรอยเตอร์
หลาย ๆ ประเทศ รวมทั้งสหรัฐฯ ต่างสนับสนุนการอ้างสิทธิ์ทางทะเลของฟิลิปปินส์ และประณามการกระทำของรัฐบาลจีน ภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือด้านกลาโหมเพิ่มเติมที่ขยายขอบเขตออกไปของทั้งสหรัฐฯ และฟิลิปปินส์ ทำให้ใน พ.ศ. 2566 ฟิลิปปินส์ได้มอบสิทธิ์การเข้าถึงให้กับสหรัฐฯ ไปยังพื้นที่ทางทหารเพิ่มเติมอีกสี่แห่ง ซึ่งสามในสี่แห่งนี้เป็นที่ที่หันหน้าเข้าหาไต้หวัน ซึ่งเป็นเกาะที่ปกครองตนเองที่จีนอ้างว่าเป็นของตนเอง และยังข่มขู่ว่าจะผนวกรวมเข้าด้วยกันโดยใช้กำลัง ฟิลิปปินส์และสหรัฐฯ ร่วมจัดการฝึกทางทหารบาลิกาตันที่ใหญ่ที่สุดขึ้นมาในเดือนเมษายน พ.ศ. 2566 โดยมีบุคลากรกว่า 17,000 คนเข้าร่วม และเป็นครั้งแรกที่มีการซ้อมโดยใช้กระสุนจริงในทะเล
ทั้งบรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไต้หวัน และเวียดนามต่างก็มีการอ้างสิทธิ์ในทะเลจีนใต้ที่มีความขัดแย้งกับจีนด้วยเช่นกัน เส้นทางการเดินเรือที่สำคัญนี้มีแหล่งการทำประมงที่สำคัญ ตลอดจนทรัพยากรน้ำมันและก๊าซ
อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ตกลงกันในเดือนมกราคม พ.ศ. 2567 ว่าจะเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับความร่วมมือของทั้งสองประเทศในด้านความมั่นคงทางทะเล ตามรายงานของหนังสือพิมพ์นิกเคอิเอเชีย นายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ และนายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ร่วมประชุมกันในกรุงมะนิลา หลังจากที่นางเร็ตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย กล่าวว่ารัฐบาลอินโดนีเซียพร้อมที่จะทำงานร่วมกับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อื่น ๆ เพื่อจัดทำหลักปฏิบัติสำหรับทะเลจีนใต้ที่ยืดเยื้อมายาวนานให้เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติที่มีจุดประสงค์เพื่อแก้ไขข้อพิพาททางอาณาเขต
พันธมิตรและหุ้นส่วนดำเนินการฝึกซ้อมทางเรือในทะเลจีนใต้และที่อื่น ๆ เป็นประจำ เพื่อยกระดับความพร้อมและขีดความสามารถร่วมกัน กองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตี 1 ของกองทัพเรือสหรัฐฯ สามารถปฏิบัติภารกิจได้หลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การจู่โจมไปจนถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ และได้เข้าร่วมในกิจกรรมการฝึกเรือดาดฟ้าขนาดใหญ่และการฝึกซ้อมประจำปี พ.ศ. 2566 ในเดือนพฤศจิกายน โดยร่วมมือกับกองกำลังพันธมิตร เช่น กองทัพเรือออสเตรเลีย กองทัพเรือแคนาดา และกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีการลาดตระเวนโดยฟิลิปปินส์และสหรัฐฯ อีกครั้งหนึ่งในเดือนเดียวกันนั้นด้วย