ความร่วมมือมองภูมิภาคแผนก

นโยบายใหม่ของญี่ปุ่น เพื่อให้เงินทุนด้านกลาโหมแก่ต่างประเทศ

ญี่ปุ่นวางแผนที่จะให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ประเทศต่าง ๆ เพื่อช่วยส่งเสริมการป้องกันประเทศ ซึ่งถือเป็นการละทิ้งกฎที่ห้ามใช้ความช่วยเหลือระหว่างประเทศเพื่อวัตถุประสงค์ทางทหารอย่างชัดเจนเป็นครั้งแรกของรัฐบาลญี่ปุ่น

นายฮิโรคาสึ มัตสึโนะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระบุในเดือนเมษายนพ.ศ. 2566 ว่า โครงการความช่วยเหลือด้านความมั่นคงในต่างประเทศของญี่ปุ่นจะได้รับการจัดการแยกต่างหากจากโครงการความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาในต่างประเทศ ซึ่งได้ให้เงินทุนสำหรับสนับสนุนการสร้างถนน เขื่อน และโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ของพลเรือนเป็นเวลาหลายทศวรรษ

“ด้วยการยกระดับขีดความสามารถด้านความมั่นคงและการป้องปราม โครงการความช่วยเหลือด้านความมั่นคงในต่างประเทศมีเป้าหมายที่จะกระชับความร่วมมือด้านความมั่นคงของเรากับประเทศต่าง ๆ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคง
ที่พึงประสงค์สำหรับญี่ปุ่น” กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นระบุในแถลงการณ์

การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ญี่ปุ่นดำเนินการเสริมสร้างการป้องกันครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่หันเหทิศทางออกจากสันตินิยมที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญญี่ปุ่น

กระทรวงการต่างประเทศระบุว่า โครงการความช่วยเหลือด้านความมั่นคงในต่างประเทศห้ามไม่ให้ใช้ความช่วยเหลือในการซื้ออาวุธร้ายแรงที่อาจนำไปใช้ในความขัดแย้งที่มีอยู่ ตามหลักการการควบคุมการส่งออกอาวุธ

โครงการเหล่านี้คาดว่าจะรวมถึงการสื่อสารผ่านดาวเทียมและระบบวิทยุสำหรับการเฝ้าระวังทางทะเล และมีแนวโน้มว่าผู้รับกลุ่มแรกจะเป็นบังกลาเทศ ฟิจิ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ กระทรวงการต่างประเทศวางแผนที่จะเริ่มศึกษาความเป็นไปได้
ของโครงการความช่วยเหลือด้านความมั่นคงในต่างประเทศของประเทศเหล่านั้น โดยมีเป้าหมายเพื่อการเสริมสร้างความมั่นคงทางทะเลของประเทศเหล่านั้น(ภาพ: เรือของกองกำลังรักษาชายฝั่งญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์ดำเนินการซ้อมต่อต้านการกระทำอันเป็นโจรสลัดใกล้กรุงมะนิลา)

ญี่ปุ่นกำลังพิจารณาที่จะส่งมอบเรดาร์ให้แก่ฟิลิปปินส์เพื่อช่วยตรวจสอบกิจกรรมของจีนในทะเลจีนใต้ที่มีการโต้แย้งสูง ตามรายงานของหนังสือพิมพ์โยมิอุริในเดือนเมษายน พ.ศ. 2566

โดยหลักการแล้ว มีเพียงประเทศกำลังพัฒนาเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ได้รับความช่วยเหลือโดยจะมอบให้เป็นเงินทุนสนับสนุน ตามรายงานของกระทรวงการต่างประเทศ

การตัดสินใจที่จะขยายขอบเขตของความช่วยเหลือระหว่างประเทศสำหรับโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทหารเกิดขึ้นหลังจากที่ญี่ปุ่นได้ประกาศในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2565 ว่าจะเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมอย่างมากในช่วงห้าปีต่อจากนี้เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นต้องการต่อต้านกองทัพของสาธารณรัฐประชาชนจีนที่กำลังเติบโตขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้น ญี่ปุ่นยังเพิ่มการมีส่วนร่วมกับประเทศกำลังพัฒนาเพื่อต่อต้านจีนอีกด้วย ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2566 นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้ประกาศว่าจะลงทุนเป็นจำนวนประมาณ 2.7 ล้านล้านบาท (7.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)ทั่วภูมิภาคอินโดแปซิฟิกเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รอยเตอร์

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button