การประชุมสัมมนาผู้บัญชาการกองทัพอากาศภาคพื้นแปซิฟิกที่ใหญ่ที่สุดช่วยยกระดับความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับหุ้นส่วน

จ. อ. นิก วิลสัน/กองทัพอากาศสหรัฐฯ ประจำภาคพื้นแปซิฟิก

ด้วยความมุ่งมั่นที่มีต่ออินโดแปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง ผู้บัญชาการกองทัพอากาศและผู้นำทหารชั้นประทวนอาวุโสร่วมประชุมในการประชุมสัมมนาผู้บัญชาการกองทัพอากาศภาคพื้นแปซิฟิก พ.ศ. 2566 ที่ศูนย์บัญชาการกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาประจำภาคพื้นแปซิฟิกที่ฐานทัพร่วมเพิร์ลฮาร์เบอร์-ฮิกคัมในรัฐฮาวาย ในวันที่ 13 – 16 พฤศจิกายน

การประชุมสัมมนานี้ส่งเสริมความมั่นคง เสถียรภาพ ความสามารถในการทำงานร่วมกัน การพัฒนาความเป็นผู้นำ และการแลกเปลี่ยนความรู้ในภูมิภาค ในขณะเดียวกันก็สร้างความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับความท้าทายทั่วทั้งอินโดแปซิฟิก

พล.อ.อ. เคน วิลส์บาค ผู้บัญชาการกองทัพอากาศสหรัฐฯ ประจำภาคพื้นแปซิฟิก เป็นผู้จัดการประชุมของผู้นำอาวุโสจากทั้ง 22 ประเทศ รวมถึง พล.อ.อ. เดวิด ออลวิน เสนาธิการกองทัพอากาศสหรัฐฯ และ พ.อ.อ. โจแอนน์ แบส

การบรรยายสรุปและเวทีการประชุมของการประชุมสัมมนาผู้บัญชาการกองทัพอากาศภาคพื้นแปซิฟิก พ.ศ. 2566 เน้นย้ำถึงคุณค่าของความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับพันธมิตรและหุ้นส่วน และวิเคราะห์ว่ากองกำลังผสมประสบความสำเร็จและแตกต่างจากคู่แข่งอย่างไร การประชุมสัมมนานี้ยังได้ค้นหาวิธีการนำบทเรียนจากสงครามในยูเครนมาปรับใช้เพื่อให้แน่ใจว่าอินโดแปซิฟิกมีการดำเนินการเพื่อป้องกันความขัดแย้ง

“การประชุมสัมมนานี้ไม่เพียงแต่เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับความสัมพันธ์กับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก แต่ยังเป็นเวทีการประชุมที่ใช้แบ่งปันแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด เสริมความได้เปรียบทางการแข่งขัน ส่งเสริมค่านิยมที่มีร่วมกัน และท้ายที่สุดคือการส่งเสริมความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก” พล.อ.อ. วิลส์บาคกล่าว”ความท้าทายที่เราเผชิญในอินโดแปซิฟิกมีความซับซ้อนเกินมากกว่าที่เคยมีมา แต่เราก็ไม่ได้กำลังแก้ไขปัญหานี้อยู่เพียงลำพัง”

ผู้นำอาวุโสหารือกันถึงความสำคัญของขีดความสามารถที่เป็นเลิศทางอากาศ การซ่อมแซมทางวิ่งเครื่องบินอย่างรวดเร็ว การส่งกำลังเพื่อทำการต่อสู้อย่างคล่องตัว และการกระจายยุทโธปกรณ์ รวมไปถึงหัวข้ออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการป้องปรามการรุกรานด้วยการปรับปรุงความทันสมัย การมีบทบาทในแนวหน้า และขีดความสามารถในการตอบสนองอย่างรวดเร็ว

เวทีการประชุมอื่น ๆ ได้ส่งเสริมความร่วมมือในการทำงานร่วมกันเพื่อเพิ่มความสามารถในการทำงานร่วมกันและการแบ่งปันข้อมูลและการพัฒนาสถาปัตยกรรมด้านความมั่นคงแบบเครือข่าย

“ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีการเห็นต่างเกิดขึ้นเลย เพราะนั่นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ สิ่งสำคัญคือวิธีการจัดการความแตกต่างของเรา นั่นคือด้วยการเจรจา ความไว้วางใจและความเข้าใจซึ่งกันและกัน และการทำงานร่วมกันอย่างเป็นโครงสร้างในจุดที่เรามีผลประโยชน์ร่วมกัน” พล.อ.ต. เคลวิน คอง ผู้บัญชาการกองทัพอากาศสิงคโปร์และรักษาการประธานการประชุมสัมมนา กล่าวในช่วงเวลาสับสนอลหม่านนี้ เราต้องเพิ่มความพยายามในการรักษาสันติภาพของเรา”

ในขณะที่การแข่งขันทางยุทธศาสตร์ในระยะยาวสร้างความท้าทายให้กับบรรทัดฐานระหว่างประเทศ ผู้นำอาวุโสของกองทัพอากาศสหรัฐฯ จะยังคงใช้กิจกรรมต่าง ๆ เช่น การประชุมสัมมนาผู้บัญชาการกองทัพอากาศภาคพื้นแปซิฟิก พ.ศ. 2566 เพื่อปรับปรุงวิธีการจัดการกับการแข่งขันอย่างมีความรับผิดชอบเพื่อป้องกันความขัดแย้งและส่งเสริมค่านิยมร่วมกันของเสรีภาพในการเดินเรือและการบินผ่านน่านฟ้า การปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ ตลอดจนการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค

“ในยุคแห่งการแข่งขันทางยุทธศาสตร์ในปัจจุบัน ก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่กองทัพอากาศสหรัฐฯ ต้องดำเนินการในสิ่งที่จำเป็นร่วมกับพันธมิตรและหุ้นส่วนเพื่อยกระดับความได้เปรียบในการแข่งขันและรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์ที่มีร่วมกัน” พล.อ.อ. ออลวินกล่าว “นั่นคือสิ่งที่ผมมาที่นี่เพื่อดำเนินการ และผมมั่นใจอย่างเต็มที่ว่าเราบรรลุเป้าหมายนั้นแล้ว”