การแพร่ขยายอาวุธความร่วมมือเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ

เกาหลีใต้และสหรัฐฯ เพิ่มแผนป้องปรามภัยคุกคามจากนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

ดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส

ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2566 เกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาได้ปรับปรุงข้อตกลงด้านความมั่นคงทวิภาคีเพื่อตอบโต้ภัยคุกคามจากนิวเคลียร์และขีปนาวุธที่พัฒนาขึ้นของเกาหลีเหนือได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การดำเนินการนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาได้จัดให้มีการเจรจาระดับสูงในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อหารือเกี่ยวกับการยกระดับการฝึกซ้อมด้านกลาโหมแบบไตรภาคีกับญี่ปุ่นและการปรับปรุงการแบ่งปันข้อมูลการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ

นายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้มีการเจรจาประจําปีกับเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ รวมถึงนายชิน วอนชิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ ที่กรุงโซล โดยมุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างการป้องปรามนิวเคลียร์ต่อเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ยังได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือในการแก้ปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์รวมถึงสงครามที่ไม่มีเหตุยั่วยุของรัสเซียในยูเครนและความก้าวร้าวของสาธารณรัฐประชาชนจีนในภูมิภาค นายออสตินกล่าว

ในการประชุมหารือด้านความมั่นคงครั้งที่ 55 นายออสตินและนายชินได้ลงนามในข้อตกลงยุทธศาสตร์การป้องปรามฉบับปรับปรุงของพันธมิตรเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ซึ่งได้รับการแก้ไขเป็นครั้งแรกในรอบสิบปีเพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากโครงการนิวเคลียร์ของรัฐบาลเกาหลีเหนือ

นายชินกล่าวว่าเอกสารดังกล่าวระบุว่าสหรัฐฯ จะระดมขีดความสามารถทางทหารในทุก ๆ ด้าน รวมทั้งยุทโธปกรณ์ด้านนิวเคลียร์ เพื่อปกป้องเกาหลีใต้ในกรณีที่มีการโจมตีด้วยนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ นอกจากนี้นายชินยังกล่าวอีกว่าเอกสารฉบับนี้จะเป็นแม่แบบให้กับพันธมิตรเกาหลีใต้และสหรัฐฯ กําหนดกลยุทธ์ว่าเกาหลีใต้จะใช้ขีดความสามารถตามแบบแผนของตนเพื่อช่วยเหลือปฏิบัติการนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ในเหตุการณ์ดังกล่าวได้อย่างไร

“ความมุ่งมั่นในการป้องปรามของเราที่มีต่อสาธารณรัฐเกาหลียังคงไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งรวมถึงความสามารถในการป้องกันนิวเคลียร์ การป้องกันตามแบบแผน และการป้องกันขีปนาวุธของเราอย่างรอบด้าน” นายออสตินกล่าวในการแถลงข่าว โดยกล่าวถึงสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งเป็นชื่ออย่างเป็นทางการของเกาหลีใต้

นายออสตินกล่าวว่า การส่งยุทโธปกรณ์ทางทหารของสหรัฐฯ ไปยังเกาหลีใต้เมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งรวมถึงเรือดำน้ำติดตั้งขีปนาวุธทิ้งตัวพลังงานนิวเคลียร์ เครื่องบินทิ้งระเบิดบี-52 ที่มีความสามารถด้านนิวเคลียร์ และเรือบรรทุกเครื่องบิน แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการป้องกันเกาหลีใต้ของสหรัฐฯ นายออสตินกล่าวว่าเรือบรรทุกเครื่องบินอีกกองหนึ่งของกองทัพเรือสหรัฐฯ จะเดินทางมาเยือนภูมิภาคนี้ในเร็ว ๆ นี้

นายชินกล่าวว่าการฝึกด้วยกระสุนจริงครั้งใหญ่ที่สุดของพันธมิตรเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ใน พ.ศ. 2566 จะช่วยขยายการฝึกซ้อมร่วมทางทหารเพื่อยับยั้งและตอบโต้ภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือต่อไป

ทั้งสองประเทศยังได้กระชับความร่วมมือด้านความมั่นคงกับญี่ปุ่น รวมถึงการฝึกซ้อมร่วมและแผนการป้องกัน เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากการพัฒนาอาวุธและความขัดแย้งทางนิวเคลียร์ที่เพิ่มขึ้นของเกาหลีเหนือ

นายออสตินและนายชินยังได้จัดการเจรจาแบบไตรภาคีกับนายมิโนรุ คิฮาระ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น ซึ่งเข้าร่วมการเจรจาผ่านทางวิดีโอ กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ระบุว่า เหล่าผู้นําเห็นพ้องให้มีการเริ่มแผนการแบ่งปันข้อมูลตามเวลาจริงเกี่ยวกับการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2566 และจัดทำแผนการดำเนินการหลายปีเพื่อเสริมสร้างการฝึกซ้อมทางทหารแบบไตรภาคี

นายออสตินยังได้พบปะกับนายยุน ซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ซึ่งแสดงความพึงพอใจต่อการเพิ่มการปรึกษาหารือทวิภาคีเกี่ยวกับแผนการป้องปรามนิวเคลียร์และการส่งยุทโธปกรณ์ทางทหารของสหรัฐฯ ไปยังคาบสมุทรเกาหลีบ่อยขึ้น ซึ่งนายยุนกล่าวว่านี่เป็นสิ่งที่มีความสําคัญอย่างยิ่งต่อการควบคุมภัยคุกคามจากนิวเคลียร์และขีปนาวุธของรัฐบาลเกาหลีเหนือ

นายยุนยังเน้นย้ำว่าพันธมิตรเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ควรเตรียมพร้อมสําหรับการยั่วยุทุกรูปแบบของเกาหลีเหนือ รวมถึง “การโจมตีอย่างฉับพลันแบบฮามาส” และยืนกรานว่าเกาหลีเหนือมีส่วนเกี่ยวข้องกับสงครามรัสเซียในยูเครนและการโจมตีของกลุ่มผู้ก่อการร้ายฮามาสในอิสราเอล “ทั้งทางตรงและทางอ้อม”

เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้และสหรัฐฯ กล่าวว่าเกาหลีเหนือกําลังจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารให้กับรัสเซีย เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ยังกล่าวอีกว่ากลุ่มฮามาสอาจใช้ระเบิดจรวดและอาวุธอื่น ๆ ที่เกาหลีเหนือผลิตในระหว่างการโจมตีอิสราเอลในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2566 และเกาหลีเหนืออาจกําลังพิจารณาขายอาวุธให้กับกลุ่มติดอาวุธอื่น ๆ ในตะวันออกกลาง

ก่อนที่นายออสตินจะจัดการประชุมที่เกาหลีใต้ นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เดินทางไปเยือนเกาหลีใต้ และได้พบกับนายยุนและผู้นําเกาหลีใต้คนอื่น ๆ เพื่อหารือเกี่ยวกับภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือและความร่วมมือด้านอาวุธที่อาจเกิดขึ้นระหว่างรัฐบาลเกาหลีเหนือและรัฐบาลรัสเซีย

เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้และสหรัฐฯ กล่าวว่า นายคิม จองอึน ผู้นําเกาหลีเหนืออาจขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลรัสเซียเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางทหารของรัฐบาลของตนเพื่อเป็นการตอบแทนในการจัดหาอาวุธให้กับรัสเซีย ซึ่งอาจรวมถึงความช่วยเหลือทางเทคนิคสําหรับความล้มเหลวของรัฐบาลเกาหลีเหนือในการส่งดาวเทียมสอดแนมทางทหารดวงแรก

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button