การประชุมสุดยอดระหว่างสหรัฐฯ และจีนแสดงให้เห็นถึงสัญญาณของความคืบหน้าในด้านการสื่อสารทางทหารและการต่อต้านยาเสพติด

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม

การกลับมาดำเนินการต่อในเรื่องการสื่อสารระหว่างกองทัพ ซึ่งเป็นความร่วมมือแบบทวิภาคีในการจัดการกับเฟนทานิลและยาผิดกฎหมายอื่น ๆ และการพูดคุยร่วมกันเกี่ยวกับความเสี่ยงของปัญญาประดิษฐ์ถือเป็นประเด็นสำคัญในการประชุมสุดยอดที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งระหว่างนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กับนายสี จิ้นผิง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่แคลิฟอร์เนียในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2566

การพูดคุยของผู้นำ “เป็นการหารือที่เป็นไปอย่างสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพมากที่สุดที่เราเคยมีมา” ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวในการแถลงข่าว “การประชุมของเราเปิดเผยและตรงไปตรงมาอยู่เสมอ เราไม่ได้เห็นพ้องกันเสมอไป แต่พวกเขาก็ตรงไปตรงมา และในวันนี้ ผมเชื่อว่าเรามีความก้าวหน้าที่สําคัญบางอย่างจากรากฐานที่เราได้สร้างมาตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาด้วยการทูตระดับสูงระหว่างทีมของเรา”

นอกเหนือจากการสื่อสารทางกองทัพระดับสูงแล้ว ทั้งสองประเทศยังกลับมาพูดคุยกันเรื่องการประสานงานนโยบายด้านกลาโหมแบบทวิภาคีและการประชุมข้อตกลงการปรึกษาทางทะเลในแง่การทหาร “ทั้งสองฝ่ายต่างก็กลับมาทำการสนทนากันทางโทรศัพท์ระหว่างผู้บัญชาการกองบัญชาการอีกครั้ง” ทำเนียบขาวระบุ

สาธารณรัฐประชาชนจีนออกจากช่องทางการสื่อสารทางทหารแบบทวิภาคีหลังจากที่คณะผู้แทนสหรัฐฯ ไปเยือนไต้หวันในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2565 ซึ่งไต้หวันเป็นเกาะปกครองตนเองที่รัฐบาลจีนอ้างว่าเป็นดินแดนของตนและขู่ว่าจะผนวกรวมเข้าด้วยกันโดยใช้กำลัง เจ้าหน้าที่กลาโหมของสหรัฐฯ เรียกร้องให้มีการสนทนากันอย่างจริงจัง โดยอ้างถึงข้อกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการเกิดการตัดสินใจผิดพลาดซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรง เมื่อคำนึงถึงการกระทำที่ก้าวร้าวของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในทะเลจีนใต้ที่เป็นข้อพิพาท ซึ่งการกระทำเหล่านั้นรวมไปถึงการสกัดกั้นอย่างไม่ปลอดภัยต่อเครื่องบินและเรือที่ปฏิบัติการอย่างถูกต้องตามกฎหมายในน่านฟ้าและน่านน้ำสากลโดยกองทัพปลดปล่อยประชาชน

“ความเข้าใจผิดคือต้นเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น” ประธานาธิบดีไบเดนกล่าว

ผู้นำทั้งสองคนยังได้ประกาศการประสานงานด้านการบังคับใช้กฎหมายต่อต้านยาเสพติด รวมถึงการยับยั้งกระแสของสารเคมีตั้งต้นที่ผิดกฎหมายจากจีน ซึ่งเป็นแหล่งที่มาหลักของเฟนตานีลและสารที่เกี่ยวกับเฟนตานีลที่ถูกลักลอบนำเข้าไปยังสหรัฐฯ ฝิ่นสังเคราะห์เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของชาวอเมริกาที่มีอายุ 18 ถึง 45 ปี ตามข้อมูลของหน่วยงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐฯ

กระทรวงการต่างประเทศจีนระบุว่าการประชุมสุดยอดที่จัดขึ้นเคียงคู่ไปกับการประชุมด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิกประจำปีในซานฟรานซิสโก “ผ่านไปด้วยดี ครอบคลุม และสร้างสรรค์ นี่เป็นสิ่งที่ปูทางแผนการเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ” 

กระทรวงการต่างประเทศจีนระบุว่า ทั้งจีนและสหรัฐฯ นั้น “มีผลประโยชน์ร่วมกันในหลายด้าน” เช่น การค้าขาย เกษตรกรรม ปัญญาประดิษฐ์ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อีกทั้งยังมีความก้าวหน้าเกิดขึ้นก่อนการประชุมสุดยอด โดยที่ทั้งสองประเทศได้ตกลงที่จะกระชับความร่วมมือในการเร่งรัดการใช้งานพลังงานหมุนเวียน ลดการปล่อยก๊าซมีเทน และแผนยุติการทำลายป่า

ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวว่าตนได้แสดงความกังวลกับนายสี รวมถึงการกักขังพลเมืองสหรัฐฯ การละเมิดสิทธิมนุษยชน และการกระทำเชิงบีบบังคับในทะเลจีนใต้ของรัฐบาลจีน “ผมเองก็เน้นย้ำถึงความสำคัญของสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน” นายไบเดนกล่าว

กองทัพปลดปล่อยประชาชนยังได้จัดการฝึกซ้อมด้วยกระสุนจริงรอบเกาะไต้หวันที่มีประชาชนอาศัยอยู่ 24 ล้านคนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และเครื่องบินและเรือของจีนก็เคลื่อนที่ข้ามเส้นมัธยฐานของช่องแคบที่มีความกว้างเพียง 180 กิโลเมตรอยู่เป็นประจำ ซึ่งเป็นช่องแคบที่ทำหน้าที่เป็นเส้นแบ่งเขตอย่างไม่เป็นทางการระหว่างไต้หวันและจีน เพียงไม่กี่วันหลังจากการประชุมด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก เจ้าหน้าที่ไต้หวันกล่าวว่าพวกเขาได้ใช้ยุทโธปกรณ์ของตนเพื่อเฝ้าติดตามเครื่องบินขับไล่และอากาศยานอื่น ๆ ของกองทัพปลดปล่อยประชาชนที่ข้ามจุดกึ่งกลางของน่านน้ำอีกครั้ง

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศไต้หวันกล่าวว่า รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย “แสดงความชื่นชมและขอบคุณอย่างจริงใจต่อประธานาธิบดีไบเดนที่ประกาศในที่สาธารณะอีกครั้งถึงการสนับสนุนอย่างแน่วแน่ของสหรัฐฯ ในการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพทั่วทั้งช่องแคบไต้หวัน” ตามรายงานของเซนทรัลนิวส์เอเจนซีของไต้หวัน

การประชุมสุดยอดนี้เป็นการประชุมครั้งแรกระหว่างประธานาธิบดีไบเดนและนายสีในรอบหนึ่งปี ซึ่งการประชุมสุดยอดนี้จัดขึ้นหลังจากช่วงเวลาแห่งความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้นหลายเดือนอันเกิดจากการที่รัฐบาลจีนปฏิเสธที่จะประณามการรุกรานยูเครนโดยไร้เหตุสมควรของรัสเซีย และการยิงบอลลูนสอดแนมขนาดใหญ่ของจีนโดยเครื่องบินขับไล่ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ซึ่งเป็นบอลลูนที่เคลื่อนที่เข้าสู่พื้นที่ทางทหารทั่วพื้นที่หลักของสหรัฐฯ

ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวว่าสหรัฐฯ “จะยังคงแข่งขันกับจีนอย่างเอาจริงเอาจัง แต่เราจะทำการแข่งขันดังกล่าวอย่างมีความรับผิดชอบ เพื่อไม่ให้การแข่งขันนี้เปลี่ยนทิศทางจนกลายเป็นความขัดแย้งหรือความขัดแย้งโดยไม่ได้ตั้งใจ”

“ผมยินดีกับการก้าวไปสู่ทิศทางที่ดีของเราในวันนี้ และเป็นเรื่องสำคัญที่โลกจะได้เห็นว่าเราดำเนินการตามแนวทางของรูปแบบการทูตแบบอเมริกาที่ดีที่สุด” นายไบเดนกล่าว “เราพูดคุยกับคู่แข่งของเรา”