เกาหลีใต้และสหรัฐฯ เผชิญหน้ากับจีนเรื่องสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือ

เรดิโอฟรีเอเชีย

เกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาได้วิพากษ์วิจารณ์การที่สาธารณรัฐประชาชนจีนส่งตัวผู้แปรพักตร์ชาวเกาหลีเหนือกลับประเทศ โดยได้ให้คำมั่นว่าจะร่วมมือกันแก้ไขวิกฤตสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือ

คำมั่นดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่นายปาร์ค จิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ ได้เข้าพบกับนางจูลี เทอร์เนอร์ ทูตพิเศษแห่งสหรัฐฯ ในกรุงโซลเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2566 เพื่อแก้ไขปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือ ในระหว่างการประชุม พันธมิตรได้ยืนยันถึงความมุ่งมั่นที่จะยกระดับสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการที่จีนส่งตัวผู้แปรพักตร์กลับไปยังเกาหลีเหนือ

“ประชาชนชาวเกาหลีเหนือมีสภาพชีวิตที่ย่ำแย่เป็นอย่างยิ่ง” นายปาร์คกล่าวและเสริมว่ารัฐบาลของนายคิม จองอึนมุ่งแสวงหาเพียงอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งส่งผลให้ต้องสูญเสียสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมืองชาวเกาหลีเหนือไป

รายงานล่าสุดที่ถูกกล่าวหาว่า “ผู้แปรพักตร์ชาวเกาหลีเหนือหลายร้อยคนที่ควบคุมตัวได้ในจีนถูกบังคับให้ส่งตัวกลับไปยังเกาหลีเหนือ” นายปาร์คกล่าว “ไม่ว่าจะในกรณีใดก็ตาม ผู้แปรพักตร์ชาวเกาหลีเหนือไม่ควรถูกบังคับให้ส่งตัวกลับประเทศโดยไม่เต็มใจ

“นั่นคือจุดยืนของรัฐบาลของเรา และเราได้ชี้แจงให้ทางจีนรับทราบอย่างชัดเจนแล้ว” นายปาร์คกล่าว “รัฐบาลของผมมีส่วนร่วมในความพยายามทางการทูตอย่างเอาจริงเอาจังเพื่อให้แน่ใจว่าผู้แปรพักตร์ของเกาหลีเหนือจะไม่ถูกบังคับให้ส่งตัวกลับไปยังเกาหลีเหนือ ทว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามหลักการด้านมนุษยธรรม

“ผมตั้งตารอที่จะมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่องและทำงานร่วมกันอย่างแข็งขันเพื่อนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงในสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของเกาหลีเหนือ”

ความคิดเห็นของนายปาร์คทำให้ประกาศของกระทรวงการรวมชาติของเกาหลีใต้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่วันก่อนหน้านี้ที่ได้ยื่นคำร้องประท้วงต่อจีนเกี่ยวกับการบังคับส่งตัวชาวเกาหลีเหนือกลับประเทศ รัฐบาลของนายคิมมองว่าผู้แปรพักตร์เป็นภัยคุกคาม และมักจะลงโทษคนเหล่านี้อย่างรุนแรง ซึ่งได้แก่ การจำคุก การทรมาน และอาจถึงแก่ความตายได้ ตามคำให้การของผู้ที่หลบหนีจากเกาหลีเหนือ

ฮิวแมน ไรท์ วอตช์ได้รายงานว่าทางการจีนบังคับให้ส่งตัวชาวเกาหลีเหนือกว่า 500 คนกลับไปยังเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นประเทศผู้รักสันโดษ องค์กรอิสระดังกล่าวได้เรียกร้องให้รัฐบาลทั่วโลกประณามการกระทำของรัฐบาลจีน ชาวเกาหลีเหนือส่วนใหญ่เป็นพลเรือนและผู้นำทางศาสนาที่ถูกจับกุมในขณะที่พยายามเดินทางจากจีนไปยังเกาหลีใต้ ตามรายงานของแหล่งข่าว

นอกจากนี้ นายปีเตอร์ จอง หัวหน้าองค์กรเพื่อความยุติธรรมแห่งเกาหลีเหนือประจำกรุงโซล ยังกล่าวว่าชาวเกาหลีเหนือจำนวนมากซึ่งรวมไปถึงเด็ก ๆ ได้ถูกส่งตัวกลับจากจีนแล้ว และการส่งตัวกลับประเทศนี้เกิดขึ้นพร้อมกันในหลายพื้นที่

นางเทอร์เนอร์ให้คำมั่นว่าจะทำงานร่วมกับเกาหลีใต้

“สถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือยังคงเป็นหนึ่งในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในโลก” นางเทอร์เนอร์กล่าว “ประชาคมระหว่างประเทศจะต้องมารวมตัวกันเพื่อทำงานและเปิดเผยการละเมิดสิทธิมนุษยชนของเกาหลีเหนือ รวมถึงสร้างการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมเพื่อปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเกาหลีเหนือ”

ความร่วมมือระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงการรวบรวมและเผยแพร่ข้อมูล อาจช่วยรวบรวมแนวร่วมระหว่างประเทศได้ในวงกว้างมากขึ้นเพื่อกดดันเกาหลีเหนือ

นายจี ซองโฮ ผู้แปรพักตร์จากเกาหลีเหนือไปยังเกาหลีใต้ ซึ่งในตอนนี้ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกล่าวว่า ถือเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่งที่รัฐบาลเกาหลีใต้และรัฐบาลสหรัฐฯ จะเข้าไปให้ความช่วยเหลือผู้ถูกส่งตัวกลับไปยังเกาหลีเหนือในจีน และทำงานร่วมกัน “เพื่อยุติการบังคับให้ส่งตัวกลับประเทศต่อไป”