สำนักงานสตรี สันติภาพ และความมั่นคง ของกองบัญชาการสหรัฐฯ ภาคพื้นอินโดแปซิฟิกจัดหลักสูตรที่ปรึกษาทางเพศขึ้นเป็นครั้งแรก

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม

สำนักงานสตรี สันติภาพ และความมั่นคง ของกองบัญชาการสหรัฐฯ ภาคพื้นอินโดแปซิฟิกจัดหลักสูตรที่ปรึกษาทางเพศขึ้นเป็นครั้งแรกในรัฐฮาวาย เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2566 กิจกรรมในครั้งนี้นับเป็นการเริ่มต้นโครงการริเริ่มด้านการฝึกอบรมระยะเวลาห้าปีโดยกองบัญชาการสหรัฐฯ ภาคพื้นอินโดแปซิฟิก

สำนักงานสตรี สันติภาพ และความมั่นคงได้ออกแบบหลักสูตรประจำปีขึ้นเพื่อพัฒนาเครือข่ายที่ปรึกษาทางเพศที่ผ่านการฝึกอบรมจากประเทศหุ้นส่วน โดยมีเป้าหมายให้ผู้สำเร็จการศึกษาสามารถรวบรวมแนวคิด เช่น การรับรู้ทางเพศ ความอ่อนไหวทางเพศ และการบรรเทาความรุนแรงทางเพศเข้ามาใช้ในรัฐบาลและองค์กรด้านกลาโหมในประเทศบ้านเกิดของตนเอง หลักสูตรนี้ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 14 – 25 สิงหาคม โดยแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ การดำเนินงานเพื่อสร้างปฏิบัติการและการจัดทำบรรทัดฐาน

“สำหรับพวกเราแล้ว ทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นจากสถาบันที่มีความเป็นหนึ่งเดียวกัน อีกทั้งกระบวนการ และกลไกที่ช่วยทำให้เกิดและเสริมสร้างมุมมองที่หลากหลายในการเผชิญหน้ากับสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงที่ซับซ้อนในปัจจุบัน” พล.อ.จ. คริสโตเฟอร์ ร็อบสัน แห่งกองทัพออสเตรเลีย เจ้าหน้าที่แลกเปลี่ยนทางทหารของกองบัญชาการสหรัฐฯ ภาคพื้นอินโดแปซิฟิก กล่าวระหว่างการเปิดงาน

“ข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ 1325 เป็นรากฐานที่ขยายนิยามของความมั่นคงออกไป โดยขยายความผู้ที่สามารถกลายเป็นหุ้นส่วนด้านความมั่นคงของเราได้ ซึ่งเป็นผู้ที่เรามักจะมองข้ามมาเป็นเวลานาน” พล.อ.จ. ร็อบสันกล่าว “ผู้หญิงทำให้เราเข้าใจมากขึ้นถึงสิ่งที่ทำให้เรามั่นคง มุมมองของผู้หญิงช่วยพัฒนากระบวนการของเราในการมอบความมั่นคงที่ทั้งมีประสิทธิภาพและยั่งยืน”

ผู้เข้าร่วมจากประเทศต่าง ๆ ที่ประกอบไปด้วย ออสเตรเลีย บังกลาเทศ แคนาดา ฟิจิ ญี่ปุ่น มาเลเซีย มองโกเลีย นิวซีแลนด์ ปาปัวนิวกินี ฟิลิปปินส์ และไทย ได้รับฟังความคิดเห็นจากรัฐบาล ผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษาและด้านกลาโหมจากออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อีกทั้งผู้นำเสนอจากสหรัฐฯ ได้แบ่งปันประสบการณ์ในการผสมผสานมุมมองของแนวคิดสตรี สันติภาพ และความมั่นคงเข้ากับสถาบันของตนเอง รวมทั้งจัดการกับความท้าทายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเพศในสถานการณ์ความขัดแย้ง

หัวข้อต่าง ๆ ที่พูดคุยกันรวมไปถึงการหารือกันในเรื่องการทำความเข้าใจและการดำเนินการกับโครงสร้างทางกฎหมายและระบบราชการ โดยมีความสัมพันธ์กับเพศและนโยบายของแนวคิดสตรี สันติภาพ และความมั่นคง แผนปฏิบัติการแห่งชาติ ความรุนแรงทางเพศ อีกทั้งการพิจารณาเรื่องเพศในภัยพิบัติทางธรรมชาติและสถานการณ์ความขัดแย้ง ด้วยการนำเสนอในรูปแบบการบรรยายและการอภิปรายเป็นกลุ่มเล็ก ผู้เข้าร่วมได้อธิบายถึงความท้าทายของตนเองในการสร้างความตระหนักรู้ทางเพศและความอ่อนไหวในสถาบันของตนเอง พวกเขาได้รับทั้งข้อเสนอแนะและคำแนะนำ

ในโครงการประจำหลักสูตรสุดท้าย ผู้เข้าร่วมได้สร้างข้อเสนอสำหรับผู้ที่อาจเป็นผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงในสายการบังคับบัญชาของพวกเขา รวมถึงกลไกการผสานรวมแนวคิดสตรี สันติภาพ และความมั่นคง ตลอดจนกระบวนการให้เหตุผลว่าเหตุใดโครงการริเริ่มนี้จะเป็นประโยชน์กับเป้าหมายของสถาบันของตน

หลักสูตรนี้เน้นย้ำถึงความสามารถในการนำไปปฏิบัติจริง นั่นคือวิธีการที่ผู้เข้าร่วมสามารถเดินหน้าต่อไปโดยผสานรวมวัตถุประสงค์ของแนวคิดสตรี สันติภาพ และความมั่นคงเข้าไว้ด้วย อีกทั้งเครื่องมือที่จะทำให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพในวัฒนธรรมและประเทศของพวกเขาเอง เครื่องมืออาจรวมถึงการสร้างเครือข่ายและทักษะการสื่อสารเชิงยุทธศาสตร์

“เราไม่ยึดหลักการกำหนดตายตัวถึงวิธีการปรับใช้แนวคิดสตรี สันติภาพ และความมั่นคงอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะมีวิธีการมากมายที่ทั้งมีความหมายมากที่สุดและมีความสมเหตุสมผลมากที่สุดกับแต่ละคน” พล.อ.จ. ร็อบสันกล่าว ซึ่งเขาได้ระบุถึงหลักสูตรว่าเป็นเพียงหลักพื้นฐานของการใช้มุมมองทางเพศ “เรามุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับประเทศหุ้นส่วนของเราในการจัดทำบรรทัดฐานแนวคิดสตรี สันติภาพ และความมั่นคงเข้ากับกองกำลังของพวกเขา”