รัฐบาลทหารของเมียนมายังคงเล็งโจมตีพลเรือนด้วยการโจมตีทางอากาศและยิงกระสุนปืนใหญ่
เรดิโอฟรีเอเชีย
ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตในเมียนมายังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่กองกำลังของรัฐบาลทหารทำการโจมตีทางอากาศและการระดมยิงด้วยปืนใหญ่ไปที่เป้าหมายที่เป็นพลเรือน
รัฐบาลทหารได้สังหารประชาชนไปแล้วอย่างน้อย 4,131 คนนับตั้งแต่ที่กองทัพเข้ายึดอำนาจในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 โดยได้ทำรัฐประหารและทำการรุกรานไปทั่วทั้งประเทศเพื่อขุดรากถอนโคนผู้เห็นต่าง ข้อมูลแสดงให้เห็นว่ามีพลเรือน 44 คนที่ถูกสังหารและมีผู้บาดเจ็บ 142 คนในการโจมตีดังกล่าวภายในเดือนกันยายน พ.ศ. 2566 เพียงเดือนเดียว
เมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2566 ประชาชน 4 คนในครอบครัวหนึ่งถูกสังหารจนหมดเมื่อกระสุนปืนใหญ่ตกลงที่บ้านของพวกเขาในเขตเมืองเคลในภูมิภาคซะไกง์
“กระสุนปืนใหญ่ตกลงที่ใจกลางบ้าน ทำให้พวกเขาเสียชีวิตทันที” ประชาชนคนหนึ่งกล่าวโดยขอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะกลัวการตอบโต้จากรัฐบาล
ชาวบ้านในพื้นที่กล่าวว่าหมู่บ้านต่าง ๆ มักจะตกเป็นเป้าหมายการโจมตีหลังจากที่กองกำลังของรัฐบาลทหารมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตในการต่อสู้กับกองกำลังพิทักษ์ประชาชนในภูมิภาคซะไกง์ หลังจากการต่อสู้ระหว่างทั้งสองฝ่ายเริ่มต้นขึ้นในเขตเมืองเคลในภูมิภาคซะไกง์เมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน รัฐบาลทหารได้ยิงโจมตีย่านฮทันทาปีน ซึ่งได้คร่าชีวิตหญิงสูงวัยอายุ 64 ปีและทำลายบ้านเรือนหลายหลัง ชาวบ้านกล่าว
“รัฐบาลทหารเปิดฉากยิงโจมตีอย่างน้อย 10 ครั้ง และยิงกระสุนปืนใหญ่อีก 5 ถึง 6 ลูกมาที่ฮทันทาปีน ในขณะที่ลูกอื่น ๆ ตกลงในย่านใกล้เคียง” ประชาชนคนหนึ่งกล่าวโดยที่ปฏิเสธที่จะบอกชื่อ
การโจมตีเหล่านี้ไม่มีการเลือกเป้าหมาย เมื่อปลายเดือนกันยายน พ.ศ. 2566 นักเรียน 18 คนในเขตเมืองวุนโตของภูมิภาคซะไกง์ได้รับบาดเจ็บ เมื่อกระสุนปืนใหญ่ระเบิดที่พื้นที่ติดกับโรงเรียนตอนเที่ยงวัน ประชาชนคนหนึ่งกล่าวว่ามีเด็ก ๆ หลายคนได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง แต่ส่วนใหญ่ได้รับการรักษาจากองค์การบริหารส่วนประชาชน ซึ่งเป็นผู้เปิดทำการโรงเรียน เด็ก ๆ ที่มีอายุตั้งแต่ 4 ถึง 12 ปีกว่า 100 คนได้เข้าเรียนในชั้นเรียนที่ลานวัดของหมู่บ้าน
ภูมิภาคซะไกง์เป็นภูมิภาคหรือรัฐที่ถูกโจมตีหนักมากที่สุดของเมียนมาในเดือนกันยายน พ.ศ. 2566 โดยมีประชาชนเสียชีวิต 20 คนและได้รับบาดเจ็บ 38 คนจากการระดมยิงทางอากาศและทางบก
ภูมิภาคพะโคเป็นภูมิภาคที่ถูกโจมตีหนักรองลงมา โดยมีประชาชนเสียชีวิต 4 คนและได้รับบาดเจ็บ 26 คน ภูมิภาคนี้เป็นที่ที่มีการต่อสู้กันอย่างรุนแรงระหว่างกองกำลังของรัฐบาลทหารและกำลังทหารของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีอำนาจ
ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2566 มีพลเรือน 816 คนถูกสังหารในการยิงปืนใหญ่และการโจมตีทางอากาศ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1,628 คน
กองกำลังของรัฐบาลทหารอาศัยการโจมตีทางอากาศและการยิงปืนใหญ่ในพื้นที่ที่กองกำลังภาคพื้นดินแทบจะไม่สามารถรุกคืบไปได้ ตามรายงานของนายตัน โซ เนียง นักวิเคราะห์ด้านการเมือง
“การโจมตีทางอากาศทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมากทั่วประเทศ” นายตัน โซ เนียงกล่าว “รัฐบาลทหารยกระดับการกระทำเฉกเช่นผู้ก่อการร้ายของตนขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการใช้การโจมตีแบบไม่เลือกเป้าหมายเช่นนี้”
ผู้นำสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน ได้ประชุมกันที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2566 เพื่อหารือกันถึงแผนสันติภาพสำหรับเมียนมาที่หยุดชะงักลง เหล่าผู้นำแสดงความผิดหวังต่อความล้มเหลวของรัฐบาลทหารในการยุติความรุนแรง
“มาเลเซียและประเทศสมาชิกอื่น ๆ ต่างแสดงมุมมองของตัวเองให้เห็นว่าเราไม่อาจปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนี้ดำเนินต่อไปโดยไม่มีการบังคับใช้มาตรการรุนแรงและมีประสิทธิภาพกับรัฐบาลทหาร” นายแซมบรี อับดุล คาเดียร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย กล่าวหลังจากการพูดคุย ตามรายงานของรอยเตอร์
