ฝรั่งเศสส่งอากาศยานลาดตระเวนเพื่อบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรขององค์การสหประชาชาติ และป้องปรามการกระทำอันผิดกฎหมายของเกาหลีเหนือ
เจ้าหน้าที่ ฟอรัม
ฝรั่งเศสแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่มีต่อความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาคอินโฟแปซิฟิก โดยการใช้งานสินทรัพย์ทางทหารเป็นประจำทุกปีเพื่อรักษาและบังคับใช้มติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เพื่อป้องปรามการแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2566 ฟอลคอนการ์เดียนของกองทัพเฟรนช์โปลินีเซีย ซึ่งเป็นอากาศยานลาดตระเวนทางทะเลที่ประจำการอยู่ในตาฮิติ ได้มาถึงญี่ปุ่นเพื่อช่วยส่งเสริมกลุ่มประสานงานการบังคับใช้กฎหมายระดับพหุชาติ ภารกิจระยะเวลาสองสัปดาห์นี้รวมไปถึงการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการละเมิดกฎหมายทางทะเลและการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรขององค์การสหประชาชาติ เพื่อตอบโต้ต่อการพัฒนาขีปนาวุธทิ้งตัวและอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
องค์การสหประชาชาติได้ประณามโครงการอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูงและขีปนาวุธของเกาหลีเหนืออยู่เป็นประจำ ซึ่งก็ยังคงดำเนินต่อไปในประเทศที่โดดเดี่ยวแห่งนี้ แม้ว่าประชาชนชาวเกาหลีเหนือจะต้องเผชิญกับความอดอยาก การขาดแคลนยาอย่างเฉียบพลัน และเศรษฐกิจที่ดำเนินการโดยรัฐที่ล้มเหลว มติดังกล่าวได้ห้ามส่งออกถ่านหินและจำกัดการนำเข้าปิโตรเลียมที่สนับสนุนโครงการอาวุธผิดกฎหมายของรัฐบาลเกาหลีเหนือ
รัฐบาลเกาหลีเหนือพยายามหลบเลี่ยงการคว่ำบาตรนี้หลายครั้ง นักวิเคราะห์กล่าวว่า เกาหลีเหนือได้ละเมิดขีดจำกัดปิโตรเลียมโดยใช้ตลาดมืดและมีการถ่ายโอนน้ำมันระหว่างเรืออย่างลับ ๆ
หนึ่งในการตอบโต้ขององค์การสหประชาชาติต่อการละเมิดที่ชัดเจนของเกาหลีเหนือ คือ การแลกเปลี่ยนทางทะเลเพื่อความมั่นคงแห่งแปซิฟิก ซึ่งเป็นโครงการแบ่งปันข้อมูลระหว่างออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา กลุ่มประสานงานการบังคับใช้กฎหมายซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดโอกินาว่าของญี่ปุ่น ได้ให้บริการแก่บุคลากรจากประเทศหุ้นส่วนเป็นประจำและเป็นองค์ประกอบสำคัญของการแลกเปลี่ยนทางทะเลเพื่อความมั่นคงแห่งแปซิฟิก ประเทศแนวร่วมให้การสนับสนุนในด้านอากาศยาน เรือ และบุคลากรเพื่อตรวจจับการกระทำที่ผิดกฎหมายในน่านน้ำสากล
“ในระดับยุทธวิธี เรือรบและอากาศยานของกองทัพเรือได้ลาดตระเวนในทะเลจีนตะวันออกและทะเลเหลืองเพื่อค้นหาผู้ลักลอบที่ต้องสงสัย” ร.อ. อาร์เทม เชอร์บินิน แห่งกองทัพเรือสหรัฐฯ เขียนไว้ในเว็บไซต์ วอร์ ออน เดอะร็อกส์ “ในระดับปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่ระหว่างประเทศของกลุ่มประสานงานการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งประจำการอยู่บนเรือบัญชาการ ยูเอสเอส บลู ริดจ์ ได้ปะติดปะต่อข่าวกรองเกี่ยวกับเครือข่ายการลักลอบนำเข้าทางทะเลของเกาหลีเหนือ รวมถึงควบคุมความพยายามในการขัดขวางและรวบรวมโดยเรือและอากาศยาน ในระดับยุทธศาสตร์ หน่วยงานข่าวกรองของสหรัฐฯ ได้ทำงานร่วมกับ กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เพื่อเปิดเผยหลักฐานการลักลอบ ตลอดจนการคว่ำบาตรบุคคลและองค์กรที่ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรขององค์การสหประชาชาติ”
นับตั้งแต่การจัดตั้งกลุ่มประสานงานการบังคับใช้กฎหมายใน พ.ศ. 2561 ฝรั่งเศสได้ส่งอากาศยานลาดตระเวน เรือ และสินทรัพย์ทางทหารอื่น ๆ ไปปฏิบัติภารกิจปีละสองครั้งเพื่อยืนยันความมุ่งมั่นต่อมติขององค์การสหประชาชาติ ในฐานะสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ฝรั่งเศสมุ่งมั่นที่จะบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศในระดับทั่วโลก และทำงานร่วมกันกับพันธมิตรอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการต่อสู้กับการค้ามนุษย์ที่ผิดกฎหมายและการขยายตัวของอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูง
นอกจากนี้ กองทัพฝรั่งเศสในภูมิภาคอินโดแปซิฟิกยังได้เข้าร่วมในการมีส่วนร่วมแบบพหุภาคีเมื่อไม่นานมานี้ด้วย ซึ่งรวมถึงการฝึกอบรมทางทะเลซามาซามาในฟิลิปปินส์ การฝึกความร่วมมือและการฝึกผสมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในสิงคโปร์ การฝึกโมบิลิตี้การ์เดียนของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ทั่วทั้งภูมิภาค และการฝึกซ้อมการบรรเทาทุกข์ด้านมนุษยธรรม แปซิฟิกเอนเดเวอร์ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย การส่งกำลังพลในปฏิบัติการเพกาซัส 23 ของฝรั่งเศสนั้นประกอบไปด้วยอากาศยาน 19 ลำและทหารอากาศ 320 นายที่เข้าร่วมการฝึกซ้อมทาลิสมันเซเบอร์แบบพหุภาคีในออสเตรเลีย และการซ้อมรบทางอากาศทั่วภูมิภาคกับพันธมิตร ได้แก่ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกา