จีนซื้อ “ค่าความนิยม” ผ่านการสนับสนุนหนังสือพิมพ์ของหมู่เกาะโซโลมอน
เจ้าหน้าที่ ฟอรัม
ผลการสืบสวนพบว่า สาธารณรัฐประชาชนจีนได้ออกค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเครื่องพิมพ์เครื่องใหม่และหอกระจายเสียงวิทยุ โดยแลกเปลี่ยนกับสัญญาที่ว่าจะรายงานข่าวในแง่ดีในหนังสือพิมพ์ชั้นนำของหมู่เกาะโซโลมอน ข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังสนธิสัญญาลับด้านความมั่นคงที่ทั้งสองประเทศลงนามใน พ.ศ. 2565 และหมู่เกาะโซโลมอนได้เปลี่ยนความจงรักภักดีทางการทูตจากไต้หวันที่ปกครองตนเองมาเป็นจีนใน พ.ศ. 2562 ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน
แม้จะได้รับเงินสนับสนุนเกือบ 5 ล้านบาท (ประมาณ 140,000 ดอลลาร์สหรัฐ) ทว่าบรรณาธิการของโซโลมอนสตาร์กลับรายงานต่อโครงการที่จัดตั้งขึ้นเพื่อการรายงานอาชญากรรมและการทุจริตว่า หนังสือพิมพ์จะยังคงวางตัวเป็นกลาง อย่างไรก็ตาม เอกสารและการสัมภาษณ์ที่รั่วไหลกลับแสดงให้เห็นถึง “ความเป็นจริงครั้งแล้วครั้งเล่าและมีความชัดเจนว่าหนังสือพิมพ์ดังกล่าวจะรายงานข้อความที่เป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลจีน” ตามรายงานของเครือข่ายการสืบสวนทั่วโลก ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2566
ข้อตกลงนี้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของจีนที่จะนำมาซึ่งอิทธิพลและเป็นส่วนหนึ่งในแผนการของจีนที่จะร่วมมือกับสื่อข่าวในต่างประเทศ ตามรายงานของเรดิโอฟรีเอเชียในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2566 ซึ่งการดำเนินการนี้สะท้อนให้เห็นถึงอุดมการณ์ทางการเมืองของลัทธิคอมมิวนิสต์ที่ต้องการให้สื่อมีความจงรักภักดีต่อรัฐมากกว่าต่อสังคมตามที่ประชาธิปไตยควรจะเป็น
จีนรั้งอันดับรองสุดท้ายในการประเมินเสรีภาพสื่อมวลชนประจำปีขององค์กรนักข่าวไร้พรมแดนจาก 180 ประเทศและดินแดน ดัชนีเสรีภาพสื่อมวลชนโลกได้เผยแพร่ข้อมูลในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2566 และอธิบายว่าจีนเป็น “ผู้คุมขังผู้สื่อข่าวรายใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกเนื้อหาโฆษณาชวนเชื่อรายใหญ่ที่สุด” ซึ่งอันดับสุดท้าย ได้แก่ เกาหลีเหนือ
การจัดการของจีนกับโซโลมอนสตาร์นี้สะท้อนให้เห็นถึงการเรียกร้องของนายสี จิ้นผิง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่ต้องการให้ “บอกเล่าเรื่องดี ๆ ของจีน” ไปทั่วโลก ตามรายงานของเรดิโอฟรีเอเชีย รัฐบาลจีนมีอิทธิพลต่อการรายงานข่าวของประเทศอื่น ๆ ในโอเชียเนีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ชาวจีนพลัดถิ่น เช่น ในนิวซีแลนด์ พรรคคอมมิวนิสต์จีนใช้เงินสด การทูต และการคว่ำบาตรเพื่อให้แน่ใจว่ามีการรายงานข่าวอย่างเป็นมิตรในชุมชนชาติพันธุ์จีน ตามรายงานของสำนักข่าวกลาง ชาวจีนพลัดถิ่นในมาเลเซียก็ตกเป็นเป้าหมายเช่นเดียวกัน โครงการที่จัดตั้งขึ้นเพื่อการรายงานอาชญากรรมและการทุจริตรายงานว่า ข้อตกลงของสำนักพิมพ์หนังสือพิมพ์ปาเลากับบริษัทแห่งหนึ่งมีความเชื่อมโยงกับตำรวจและทหารของจีน
หนังสือพิมพ์ในภูมิภาคอินโดแปซิฟิกและภูมิภาคอื่น ๆ กำลังเผชิญกับการแข่งขันทางออนไลน์ รายได้จากการโฆษณาที่จำกัด กำไรเพียงน้อยนิด และการประหยัดต่อขนาดที่มีความท้าทาย ตามรายงานของเรดิโอฟรีเอเชีย รัฐบาลจีนจึงใช้ประโยชน์จากปัญหาทางการเงินของอุตสาหกรรมดังกล่าวเพื่อเผยแพร่ข้อความของตนเอง
นายอัลเฟรด ซาซาโกะ หัวหน้าคณะทำงานของหนังสือพิมพ์สตาร์ ระบุว่าหนังสือพิมพ์ได้ขอรับการสนับสนุนจากประเทศอื่น ๆ ก่อนที่จีนจะเข้ามาให้ความช่วยเหลือ โครงการที่จัดตั้งขึ้นเพื่อการรายงานอาชญากรรมและการทุจริตรายงานว่า นายซาซาโกะเพิกเฉยต่อการวิพากษ์วิจารณ์ข้อตกลงดังกล่าวและต่อว่าผู้ที่ “ทำให้จีนกลายเป็นปิศาจ”
หนังสือพิมพ์ดังกล่าวได้ขอความช่วยเหลือทางการเงินจากสถานทูตจีนในกรุงโฮนีอารา เมื่อ พ.ศ. 2565 ตามรายงานของโครงการที่จัดตั้งขึ้นเพื่อการรายงานอาชญากรรมและการทุจริต หลังจากที่หนังสือพิมพ์สตาร์สัญญาว่าจะส่งเสริม “ค่าความนิยม” และบทบาทของจีนในฐานะ “หุ้นส่วนด้านการพัฒนาที่ใจกว้างและไว้วางใจได้มากที่สุด” ในหมู่เกาะโซโลมอน ซึ่งรัฐบาลจีนได้จัดหาเงินทุนเพื่อเปลี่ยนเครื่องพิมพ์เครื่องเก่าและซื้อหอกระจายเสียงสำหรับสถานีวิทยุในเครือของหนังสือพิมพ์ดังกล่าว ตามรายงานของทีมโครงการ
การจัดการดังกล่าวส่งผลให้เกิดความกังวลในหมู่เกาะโซโลมอนและประเทศอื่น ๆ นักข่าวของหนังพิมพ์สตาร์กล่าวว่า ห้องข่าวยังได้รับรถยนต์ กล้อง แล็ปท็อป โทรศัพท์มือถือ และโดรนจากจีนและพันธมิตรสื่อจีนอีกด้วย “ด้วยเหตุนี้เอง เราจึงได้รับคำสั่งให้มีความละเอียดอ่อนมากขึ้นอีกเล็กน้อยเมื่อรายงานข่าวในประเด็นที่เกี่ยวกับจีน” นักข่าวคนดังกล่าวระบุกับหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2566
ดิไอส์แลนด์ซัน ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์อีกฉบับหนึ่งของหมู่เกาะโซโลมอน ได้รับคอมพิวเตอร์จากสถานทูตจีน นายโอฟานี่ เอเรแม อดีตบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ กล่าวกับหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน “เจ้าขององค์กรสื่อทั้งหลายกำลังละทิ้งความเป็นกลางขององค์กรข่าวของตน” นายเอเรแมกล่าว