ทหารของกองทัพบกไทยและทหารกองทัพบกสหรัฐฯ เข้าร่วมหลักสูตรทางอากาศของทหารหญิงล้วนครั้งสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์

จ.ส.อ. ทีแอน แทนเจน/หน่วยบัญชาการปฏิบัติการพิเศษสหรัฐฯ ประจำภาคพื้นแปซิฟิก

กองทัพบกไทยได้เชิญทหารกองทัพบกสหรัฐฯ เข้าร่วมหลักสูตรการฝึกในหลักสูตรทางอากาศขั้นพื้นฐานของทหารหญิงล้วน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ดำเนินการโดยโรงเรียนสงครามพิเศษที่ค่ายเอราวัณในจังหวัดลพบุรีตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม ถึง 9 สิงหาคม พ.ศ. 2566

ทหารหญิงจากกองทัพบกไทยเกือบ 100 รายจากหลักสูตรส่งทางอากาศรุ่นที่ 345 ได้รับเข็มกลัดพลร่มหลังจากจบการฝึกอบรมอย่างเข้มงวดระยะเวลาสี่สัปดาห์ ซึ่งประกอบไปด้วยการกระโดดด้วยสายดึงประจำที่สี่ครั้ง การกระโดดพร้อมยุทโธปกรณ์หนึ่งครั้ง และการกระโดดกลางคืนหนึ่งครั้ง หลักสูตรจบลงด้วยการการเดินแถวระยะทาง 8 กิโลเมตรโดยแบกกระเป๋าสะพายหลังจากจุดที่กระโดดลง

“เข็มกลัดนี้แสดงถึงความพากเพียร ความกล้าหาญ และระเบียบวินัยของคุณในการปกป้องประเทศ ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของพลร่มกองทัพบกไทย” พล.อ. ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบกของกองทัพบกไทย กล่าวในระหว่างพิธีสำเร็จหลักสูตร “ผมขอย้ำเตือนให้ผู้ที่ติดเข็มกลัดนี้ที่อกซ้าย คุณคือพลร่ม คุณเป็นผู้มีความสามารถในการดำเนินปฏิบัติการกระโดดด้วยสายดึงประจำที่ และพร้อมสำหรับปฏิบัติการพลร่ม”

จ.ส.อ. ซาราห์ เมเยอส์ กองทัพบกสหรัฐฯ หน่วยสนับสนุนแนวหน้า กองพันที่ 1 กลุ่มหน่วยรบพิเศษที่ 1 (พลร่ม) ปฏิบัติหน้าที่เป็นทหารพลร่มชำนาญการผู้ให้คำปรึกษาแห่งหน่วยปฏิบัติการพิเศษกองทัพบกสหรัฐฯ ในระหว่างดำเนินหลักสูตร จ.ส.อ. เมเยอส์มีประสบการณ์การปฏิบัติการพลร่ม 15 ปี และเป็นทหารพลร่มชำนาญการหญิงเพียงคนเดียวในกองพันของเธอ

“การได้เป็นส่วนหนึ่งของการกระโดดร่มของทหารหญิงล้วนครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์นี้รู้สึกช่วยเพิ่มพลังและมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นการแสดงถึงการทำลายขีดจำกัดที่ขวางกั้นขณะพยายามพัฒนาประสิทธิภาพในการต่อสู้ไปพร้อม ๆ กับการส่งเสริมความเท่าเทียม ความหลากหลาย และความเป็นหนึ่งเดียวกัน” จ.ส.อ. เมเยอส์กล่าว “นี่เป็นสิ่งที่สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดความรู้สึกภาคภูมิใจ มิตรภาพที่ดี และความรู้สึกของการได้มีส่วนช่วยให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก”

จ.ส.อ. เมเยอส์มอบเข็มกลัดปีกทหารพลร่มขั้นสูงสหรัฐฯ ให้กับทหารกองทัพบกไทยที่มีทักษะโดดเด่น เพื่อให้เป็นแรงจูงใจและขวัญกำลังใจ “ฉันภูมิใจในตัวพวกเขาทุกคน” จ.ส.อ. เมเยอส์กล่าว “ตอนนี้พวกเขาเป็นพี่น้องทหารพลร่มของฉันอย่างเป็นทางการแล้ว”

ในจำนวนเจ้าหน้าที่ทหารกองประจำการไทย 300,000 นาย มีเจ้าหน้าที่ทหารหญิงอยู่ร้อยละ 8 และในจำนวนเจ้าหน้าที่ทหารกองประจำการสหรัฐฯ 1.3 ล้านนาย มีเจ้าหน้าที่ทหารหญิงอยู่ร้อยละ 17.3 ณ พ.ศ. 2564

ไทยและสหรัฐฯ สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อ 190 ปีที่แล้ว และเป็นพันธมิตรสนธิสัญญาความมั่นคงมาเกือบ 70 ปี

“สหรัฐฯ สามารถช่วยแนะนำวิธีการที่เราสามารถทำให้ดีขึ้นได้ และพวกเขาก็สังเกตดูสิ่งที่เราทำแตกต่างออกไป ซึ่งก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันและกัน” ร.ต. อัครินทร์ อยู่เจริญ ผู้ฝึกสอนหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษกองทัพบก กล่าว “เรามีหุ้นส่วนที่ยอดเยี่ยม”