งานวิจัยระบุว่ามีผู้เสียชีวิตเกือบ 2 ล้านคนหลังจีนยุติการควบคุมโควิด-19 อย่างกะทันหัน

รอยเตอร์
งานวิจัยใหม่แสดงให้เห็นว่าการที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนยกเลิกแผนการควบคุมโควิด-19 ที่เข้มงวดอย่างกะทันหัน ซึ่งเป็นการปล่อยเชื้อไวรัสให้กับชาวจีนกว่า 1.4 พันล้านคน อาจส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 2 ล้านคนในอีก 2 เดือนถัดมา
งานวิจัยของศูนย์มะเร็งเฟรดฮัทชินสันในสหรัฐอเมริกาได้รับข้อมูลมาจากตัวอย่างข้อมูลการเสียชีวิตที่เผยแพร่โดยมหาวิทยาลัยจีน และจากการค้นหาทางอินเทอร์เน็ต
พบว่าในช่วงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2565 ถึงมกราคม พ.ศ. 2566 ประชากรที่มีอายุมากกว่า 30 ปีเสียชีวิตจากสาเหตุต่าง ๆ ประมาณกว่า 1.87 ล้านคน โดยมีผู้เสียชีวิตจากทุกมณฑลในจีนแผ่นดินใหญ่ ยกเว้นทิเบต
ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2565 พรรคคอมมิวนิสต์จีนตัดสินใจยุตินโยบายโควิดเป็นศูนย์ ซึ่งรวมถึงการตรวจหาเชื้อในวงกว้างและการกักกันโรคที่เข้มงวดและต่อเนื่อง ส่งผลให้จํานวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพกล่าวว่าตัวเลขเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่ได้รับการรายงาน
งานวิจัยนี้ ซึ่งได้รับการตีพิมพ์เมื่อปลายเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2566 ระบุว่าอัตราการเสียชีวิตส่วนเกินนั้นสูงเกินกว่าการประมาณการอย่างเป็นทางการของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นอย่างมาก ซึ่งได้ประมาณการไว้ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2566 ว่ามีผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 60,000 คนเสียชีวิตในโรงพยาบาลนับตั้งแต่ยกเลิกนโยบายโควิดเป็นหลังผ่านไป 3 ปี
“งานวิจัยของเราเกี่ยวกับอัตราการเสียชีวิตส่วนเกินที่เกี่ยวข้องกับการยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของจีนกําหนดค่าประมาณการเกณฑ์มาตรฐานที่ได้จากการศึกษาเชิงประจักษ์ ผลการวิจัยเหล่านี้มีความสำคัญต่อการทำความเข้าใจว่าการแพร่กระจายอย่างฉับพลันของโควิด-19 ในประชากรมีผลต่อการเสียชีวิตของประชากรอย่างไร” นักวิจัยระบุ
สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนไม่ได้ตอบคำขอความคิดเห็นในทันที
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพทั่วโลกได้เรียกร้องให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมหลายครั้งเมื่อมีรายงานการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อภัยคุกคามจากสายพันธุ์ใหม่กลายเป็นเรื่องที่ต้องกังวล
พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ยุติรายงานจํานวนผู้เสียชีวิตรายวันอย่างเป็นทางการในปลาย พ.ศ. 2565 องค์การอนามัยโลกระบุว่ายอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในจีนอยู่ที่ 121,628 คน และเสียชีวิตทั่วโลกเกือบ 7 ล้านคน
ในเดือนกรกฎาคม มณฑลหนึ่งของจีนได้เผยแพร่ข้อมูลสั้น ๆ บนเว็บไซต์ แสดงให้เห็นว่าจํานวนการเผาศพเพิ่มขึ้นร้อยละ 70 ในไตรมาสแรกของ พ.ศ. 2566 ซึ่งเป็นกรณีที่เกิดขึ้นได้ยาก รายงานดังกล่าวถูกลบในเวลาต่อมา
ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 ผู้นําพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ประกาศ “ชัยชนะที่เด็ดขาด” ต่อโควิด-19 แต่ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2566 เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในกรุงปักกิ่งกล่าวว่าไวรัสดังกล่าวยังคงเป็นโรคติดเชื้ออันดับต้น ๆ ในเมืองหลวง ตามรายงานของสื่อของรัฐบาล
เจ้าหน้าที่กล่าวว่าสายพันธุ์โอไมครอนกลายพันธุ์ใหม่ในชื่อ อีจี.5 ซึ่งเป็นสายพันธุ์หลัก
“สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติกล่าวว่าสัดส่วนของสายพันธุ์ใหม่ อีจี.5 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 0.6 ในเดือนเมษายนเป็นร้อยละ 71.6 ในเดือนสิงหาคมและกลายเป็นสายพันธุ์หลักในมณฑลส่วนใหญ่ของจีน” ตามรายงานของหนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์สที่ดำเนินการโดยรัฐบาลจีน