คำถามและข้อกังวลยังคงไม่คลี่คลายเมื่อเกาหลีเหนือวางแผนที่จะส่งดาวเทียมสอดแนมดวงที่สาม
เจ้าหน้าที่ ฟอรัม
หลังจากความพยายามที่ล้มเหลวสองครั้ง มีรายงานว่าเกาหลีเหนือได้พยายามที่จะส่งดาวเทียมสอดแนมอีกครั้งในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2566 ซึ่งเป็นสิ่งที่เพิ่มความกังวลด้านความมั่นคงในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ให้สูงขึ้น ท่ามกลางความกังขาถึงประสิทธิภาพที่เป็นไปได้ของอุปกรณ์
จรวดโชลลิมา-1 ลูกแรกบรรทุกดาวเทียมลาดตระเวนมันลียง-1 ตกลงสู่ทะเลเหลืองเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 ความพยายามครั้งที่สองเองก็ล้มเหลวเช่นกัน โดยเศษซากของจรวดตกลงสู่ทะเลเหลืองและทะเลจีนตะวันออก และมหาสมุทรแปซิฟิกทางตะวันออกของฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2566 ตามรายงานของกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น จรวดทั้งสองลูกระเบิดออกเป็นเสี่ยง ๆ ขณะเข้าสู่ช่วงส่งกำลังแยกตัวออกจากกันในภารกิจการส่งดาวเทียมเข้าสู่วงโคจรที่ล้มเหลว
กองทัพเกาหลีใต้เก็บกู้เศษซากจากจรวดลูกแรกและดาวเทียม กองทัพเกาหลีใต้ลงความเห็นว่าเทคโนโลยีของดาวเทียมนั้น “ยังไม่มีความซับซ้อนเพียงพอต่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ด้านการลาดตระเวน แม้ว่าจะปล่อยออกไปได้สำเร็จ” ตามรายงานของเว็บไซต์สเปซนิวส์ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม ผู้เชี่ยวชาญจากทางฝั่งพลเรือนกล่าวกับเนชันแนลพับลิกเรดิโอว่า มีแนวโน้มว่าดาวเทียมสอดแนมจะตรวจจับเฉพาะวัตถุขนาดใหญ่เท่านั้น เช่น เรือและเครื่องบิน การค้นหาจรวดลูกที่สองกำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการ ตามรายงานของสเปซนิวส์ที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา
ญี่ปุ่นได้ออกคำเตือนสำหรับหมู่เกาะในจังหวัดโอกินาวะหลังจากการปล่อยจรวดส่งดาวเทียมลูกที่สอง ซึ่งความพยายามในการปล่อยจรวดส่งดาวเทียมทั้งสองครั้งนั้นถูกวิพากษ์วิจารณ์ในระดับนานาชาติ นายอันโตนิอู กุแตเรช เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวประณามการปล่อยจรวดอย่างรุนแรง โดยระบุว่าเกาหลีเหนือฝ่าฝืนมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่สั่งห้ามไม่ให้เกาหลีเหนือใช้เทคโนโลยีขีปนาวุธทิ้งตัว นายกุแตเรชเรียกร้องให้เกาหลีเหนือหยุดการกระทำดังกล่าว และกลับมาทำการพูดคุยเรื่องการปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลีกันอีกครั้งและสร้างสันติภาพที่ยั่งยืน
ญี่ปุ่นประท้วงการปล่อยจรวดส่งดาวเทียมลูกที่สอง “อย่างชัดเจนที่สุด” และเกาหลีใต้ยังมองว่าการกระทำเช่นนี้เป็นการละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทมส์
อีกทั้งยังรายงานว่า แม้จะมีการคัดค้านดังกล่าว แต่เกาหลีเหนือได้กล่าวว่าตนจะส่งกลุ่มดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรเพื่อตรวจสอบกิจกรรมทางทหารของเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ในภูมิภาค และเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถด้านอาวุธนิวเคลียร์ของตน รัฐบาลเกาหลีเหนือจะตรวจสอบภารกิจที่ล้มเหลว ทำการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็น และดำเนินการปล่อยครั้งถัดไป ตามรายงานของนิตยสารเดอะดิโพลแมตในช่วงปลายเดือนสิงหาคม ซึ่งกล่าวถึงความคิดเห็นจากสำนักข่าวที่ดำเนินการโดยรัฐของเกาหลีเหนือ
การปล่อยจรวดส่งดาวเทียมที่ล้มเหลวในครั้งที่สองเกิดขึ้นหลายวันถัดจากการประชุมสุดยอดไตรภาคีครั้งสำคัญที่บ้านพักของประธานาธิบดีสหรัฐฯ แคมป์เดวิด รัฐแมริแลนด์ ซึ่งเป็นการประชุมที่นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นายยุน ซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ และนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ร่วมกันหารือเกี่ยวกับพฤติกรรมก้าวร้าวของเกาหลีเหนือและหัวข้ออื่น ๆ นักการทูตอาวุโสของญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ กล่าวว่าการปล่อยดาวเทียมสอดแนมและการยั่วยุอื่น ๆ จะเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างรัฐบาลเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ตามรายงานของดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรสในช่วงปลายเดือนสิงหาคม เกาหลีใต้แบ่งปันข้อมูลการเฝ้าระวังกับประเทศหุ้นส่วนของตนทั้งสหรัฐฯ และญี่ปุ่นหลังจากการปล่อยจรวดส่งดาวเทียมครั้งที่สอง และทั้งสามได้ออกมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือเพิ่มเติม เช่น การระงับการดําเนินการกับทรัพย์สินของบุคคลและองค์กร ตามรายงานของสำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้ในช่วงต้นเดือนกันยายน
การปล่อยดาวเทียมสอดแนมและขีปนาวุธของรัฐบาลเกาหลีเหนือ รวมถึงการทดสอบขีปนาวุธในจำนวนที่มากเป็นประวัติการณ์ เกิดขึ้นในขณะที่ประเทศที่โดดเดี่ยวแห่งนี้กำลังประสบปัญหาการขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรง เกาหลีเหนือเป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก และกำลังเผชิญวิกฤตความไม่มั่นคงทางอาหารที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ภาวะขาดแคลนอาหารแพร่กระจายไปทั่วประเทศในช่วงทศวรรษ 1990 (พ.ศ. 2533-2542) แต่ถึงอย่างนั้นเกาหลีใต้ก็ใช้งบประมาณเกือบหนึ่งในสี่ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศไปกับกองทัพของตน นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ