ฟิลิปปินส์บอกกับจีนว่าตนจะไม่ละทิ้งที่มั่นของตนในแนวปะการังที่เป็นข้อพิพาท

ฟิลิปปินส์กล่าวกับสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าตนจะไม่ละทิ้งสันดอนที่เป็นข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ หลังจากที่ฟิลิปปินส์กล่าวหากองกำลังรักษาชายฝั่งของจีนที่ใช้ปืนใหญ่น้ำและการเคลื่อนที่ที่เป็นอันตรายเพื่อกีดกันไม่ให้รัฐบาลฟิลิปปินส์ส่งเสบียงไปให้กองกำลังของตนที่ครอบครองแนวปะการังอยู่

เหตุการณ์ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2566 เปรียบเหมือนกับ “สถานการณ์ดาวิดปะทะโกลิอัท” นายโจนาธาน มาลายา เจ้าหน้าที่สภาความมั่นคงแห่งชาติฟิลิปปินส์อาวุโส กล่าว โดยอ้างถึงการเข้ามาปรากฏตัวในสันดอนโทมัสที่สองมากขึ้นของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจะไม่ทำให้ความแน่วแน่ของฟิลิปปินส์ในการปกป้องตำแหน่งที่มั่นของตน ณ ที่แห่งนี้ลดน้อยลงไป

“เราจะไม่ละทิ้งสันดอนอยุงอิน” นายมาลายากล่าวโดยใช้ชื่อในท้องถิ่น ในขณะที่เขาปฏิเสธข้อเรียกร้องของรัฐบาลจีนที่ต้องการให้รัฐบาลฟิลิปปินส์ถอนเรือรบออกจากแนวปะการัง ซึ่งเป็นจุดที่เรือรบลำนี้ตั้งใจเกยตื้นไว้เมื่อ พ.ศ. 2542 เพื่อเสริมการเรียกร้องอธิปไตยของฟิลิปปินส์

“เราจะดำเนินการส่งเสบียงให้กองกำลังของเราบนเรือที่เกยตื้นอยู่ต่อไปตราบเท่าที่จะทำได้” นายมาลายากล่าวในการแถลงข่าวร่วมกับกองทัพ กองกำลังรักษาชายฝั่งฟิลิปปินส์ และกระทรวงการต่างประเทศ

“นี่เป็นสิทธิ์ของเราที่จะนำส่งสิ่งที่จำเป็นเพื่อรักษาฐานที่มั่นไว้ และเพื่อให้แน่ใจว่ากองกำลังของเราได้รับเสบียงอย่างเหมาะสม”

รัฐบาลจีนกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนได้บอกกับรัฐบาลฟิลิปปินส์ไปแล้วว่าไม่ให้ส่งเรือเข้าไปยังสันดอนดังกล่าวและไม่ให้ส่ง “วัสดุก่อสร้างที่ใช้เพื่อการซ่อมแซมและการเสริมกำลังขนาดใหญ่” ไปยังเรือรบ หลังจากที่รัฐบาลจีนรับรู้ถึงแผนการส่งเสบียงเมื่อไม่นานมานี้ ตามที่กองกำลังรักษาชายฝั่งจีนกล่าวในแถลงการณ์

กระทรวงการต่างประเทศจีนอ้างว่าการกระทำของฟิลิปปินส์นั้นละเมิดอธิปไตยของจีน จีนอ้างสิทธิ์ในอธิปไตยเหนือพื้นที่ในทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมด ซึ่งเป็นการอ้างสิทธิ์ที่ถูกปฏิเสธโดยนานาชาติ และฝ่าฝืนคำตัดสินของศาลระหว่างประเทศใน พ.ศ. 2559 ทั้งบรูไน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และเวียดนาม ต่างมีอ้างสิทธิในพื้นที่บางส่วนในบริเวณดังกล่าว

การใช้ปืนใหญ่น้ำของกองกำลังรักษาชายฝั่งของจีนในช่วงต้นเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2566 นั้นไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก และยังมีการพ่นน้ำใส่เรือของรัฐบาลฟิลิปปินส์ในภารกิจส่งเสบียงอาหารและน้ำให้กับกองกำลังจำนวนหนึ่งของฟิลิปปินส์ที่อาศัยอยู่บนเรือรบในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2564

การกระทำล่าสุดของกองทัพปลดปล่อยประชาชนถูกกองทัพฟิลิปปินส์เรียกว่าเป็นสิ่งที่ “มากเกินกว่าจะยอมรับได้” และเป็นความพยายามในการบ่อนทำลายการสร้างความไว้วางใจระหว่างรัฐบาลฟิลิปปินส์และรัฐบาลจีน รวมทั้งยังเป็นการเน้นย้ำถึงความสำคัญของ “ความจำเป็นอย่างเร่งด่วน” สำหรับหลักปฏิบัติ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าว

ความสัมพันธ์ระหว่างฟิลิปปินส์และจีนมีความตึงเครียดเพิ่มมากขึ้นภายใต้การนำของนายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ โดยได้หันกลับไปติดต่อกับพันธมิตรดั้งเดิมของตน นั่นคือ สหรัฐฯ ซึ่งได้แสดงการสนับสนุนต่อรัฐบาลฟิลิปปินส์ที่กำลังเผชิญกับภัยคุกคามจากจีน

นายมาร์กอสกล่าวว่าฟิลิปปินส์ได้ส่งคำร้องเรียนไปยังเอกอัครราชทูตจีนประจำฟิลิปปินส์แล้ว ซึ่งได้รับการเรียกตัวมาจากกระทรวงการต่างประเทศ

ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บในระหว่างเหตุการณ์ที่สันดอนในเดือนสิงหาคม แต่เรือขนส่งเสบียงหนึ่งในสองลำของฟิลิปปินส์ไม่สามารถปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จได้

ภาพจาก: รอยเตอร์