การแพร่ขยายอาวุธเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ

การปรากฏตัวของเรือดำน้ำที่ติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์เป็นอุปสรรคต่อเกาหลีเหนือ

รอยเตอร์

เมื่อเรือดำน้ำติดตั้งขีปนาวุธทิ้งตัวของสหรัฐอเมริกาโผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำเพื่อเดินทางไปเยือนเกาหลีใต้ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2566 ซึ่งพบไม่บ่อยนัก ก็เป็นการเตือนอย่างเปิดเผยว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ส่งขีปนาวุธแบบหัวรบนิวเคลียร์เข้าไปปฏิบัติการอยู่ในระยะที่พร้อมโจมตีเกาหลีเหนือ นักวิเคราะห์กล่าว

นักวิเคราะห์บางคนกล่าวว่าการครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ใต้ทะเลใกล้คาบสมุทรเกาหลีเป็นสิ่งที่อาจยับยั้งเกาหลีเหนือได้ดีกว่าการติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ในเกาหลีใต้อย่างที่รัฐบาลสหรัฐฯ เคยทำมาก่อนหน้านี้

“ตราบใดที่ศัตรูรู้ว่าเรามีอาวุธเหล่านี้อยู่ การป้องปรามของเราจะแข็งแกร่งขึ้นหากศัตรูไม่รู้ตำแหน่งของอาวุธเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ” นางดูยอน คิม จากศูนย์วิจัยความมั่นคงแห่งอเมริกาแห่งใหม่ กล่าว

เรือดำน้ำชั้นโอไฮโอ ยูเอสเอสเคนทักกี ได้เดินทางมาถึงเมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา และได้ออกเดินทางในอีกสามวันต่อมา ตามรายงานของแหล่งข้อมูลที่ติดตามความเคลื่อนไหวของเรือ เรือดำน้ำลำที่สองของสหรัฐฯ ยูเอสเอสแอนนาโพลิส ได้เดินทางมาถึงฐานทัพเรือบนเกาะเชจูของเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม เรือดำน้ำแอนนาโพลิสไม่มีการติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์

การปรากฏตัวของเรือดำน้ำทั้งสองลำนี้ได้ดึงดูดความสนใจของเกาหลีเหนือ ซึ่งภัยคุกคามนิวเคลียร์ที่เพิ่มขึ้นของเกาหลีเหนือได้กระตุ้นให้เกาหลีใต้ส่งเสริมความร่วมมือกับสหรัฐฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเกาหลีเหนือข่มขู่ว่าการปรากฏตัวของเรือยูเอสเอสเคนทักกีอาจเป็นเหตุให้เกาหลีเหนือใช้อาวุธนิวเคลียร์

เพื่อเป็นการรักษาคำมั่นสัญญาที่จะปกป้องเกาหลีใต้ รัฐบาลสหรัฐฯ จึงได้ยกระดับการแสดงแสนยานุภาพของกองกำลังนิวเคลียร์และจัดตั้งกลุ่มที่ปรึกษาด้านนิวเคลียร์ขึ้นใหม่สำหรับการวางแผนฉุกเฉิน

สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นพันธมิตรที่สำคัญที่สุดของเกาหลีเหนือ ได้กล่าวหาว่าการส่งกําลังทหารของสหรัฐฯ ทําให้ความตึงเครียดในภูมิภาคเพิ่มขึ้น

เรือดำน้ำสหรัฐฯ ที่ติดตั้งขีปนาวุธทิ้งตัวมักจะไม่จอดเทียบท่าที่ท่าเรือต่างประเทศอย่างเปิดเผย เรือดำน้ำลำดังกล่าวเป็นยานพาหนะยิงอาวุธนิวเคลียร์ที่มีความทนทานมากที่สุดในสหรัฐฯ โดยอาศัยการอำพรางและการล่องหน นอกจากนี้ยังสามารถตอบโต้ด้วยนิวเคลียร์ได้หากศัตรูโจมตีก่อน นายวาน ฟาน ดีเปน อดีตผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งเคยทำงานในโครงการ 38 นอร์ธ ที่เฝ้าติดตามเกาหลีเหนือ กล่าว

กองทัพเรือสหรัฐฯ ได้ส่งมอบเรือดำน้ำดังกล่าวจำนวน 14 ลำ เรือดำน้ำชั้นโอไฮโอบรรทุกขีปนาวุธ ไทรเดนท์ ทู ดี-5 จำนวน 20 ลูก ซึ่งแต่ละลูกสามารถยิงหัวรบนิวเคลียร์ได้ถึงแปดหัวไปยังเป้าหมายที่อยู่ห่างออกไปถึง 12,000 กิโลเมตร

เกาหลีเหนือมีกองกําลังเรือดําน้ำที่เก่าแก่ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรือป้องกันภัย แต่ต้องการพัฒนาคลังแสงของเรือดำน้ำติดตั้งขีปนาวุธ

เกาหลีเหนือได้ดำเนินการปล่อยเรือดำน้ำทดสอบและพยายามที่จะสร้างเรือดำน้ำติดตั้งขีปนาวุธพลังงานทั่วไปมาตั้งแต่ พ.ศ. 2559 เป็นอย่างน้อย นาย ฟาน ดีเปนกล่าว

นายชเว อิล กัปตันเรือดำน้ำของเกาหลีใต้ที่เกษียณอายุแล้ว กล่าวว่า “การแบ่งปันนิวเคลียร์โดยพฤตินัยระหว่างสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้กำลังจะเกิดขึ้น”

“การจอดเทียบท่าของเรือดำน้ำเคนทักกีในเมืองปูซานถือเป็นการบอกเป็นนัยได้ว่าเรือดําน้ำลํานี้ได้ปฏิบัติการในน่านน้ำรอบคาบสมุทรเกาหลีแล้ว และแม้จะออกจากเมืองปูซานแล้ว อาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ก็จะนําไปใช้ในน่านน้ำใกล้เคียงอยู่เสมอ”

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button