การป้องปรามแบบบูรณาการความขัดแย้ง/ความตึงเครียดเรื่องเด่น

ยุคเศรษฐกิจใหม่ของจีน

นักเคลื่อนไหวของนายสี จิ้นผิงและความเป็นผู้นำที่ปกครองจากเบื้องบนทำลายโอกาสในการเติบโต และจำกัดโอกาสของประชาชนอย่างไร

ดร. เชล โฮโรว‘ทซ์/มห“ว‘ทย“ลัยว‘สคอนซ‘น-ม‘ลวอก’

ภาพโดย ดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส

นับตั้งแต่นายสี จิ้นผิง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน เข้ามามีอำนาจใน พ.ศ. 2555 เขาได้ล้มล้างระบบฉันทามติของสถาบันและนโยบาย “การปฏิรูปและการเปิดกว้าง” ซึ่งนายเติ้ง เสี่ยวผิงได้ก่อตั้งขึ้นในช่วงปลายทศวรรษ 1970 (พ.ศ. 2513-2522) และได้รับการสนับสนุนจากนายเจียง เจ๋อหมินและนายหู จิ่นเทา ซึ่งดำรงตำแหน่งก่อนหน้านี้ และตั้งแต่ พ.ศ. 2563 เป็นต้นมา นโยบายจำนวนมากได้ส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจของจีนชะลอตัวลง ซึ่งรวมถึงการโจมตีด้านกฎระเบียบในหลาย ๆ ด้านต่อบริษัทเทคโนโลยีระดับสูงที่ทันสมัยที่สุดของจีน ข้อจำกัดด้านหนี้สินอย่างกะทันหันที่ทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ตกอยู่ในภาวะวิกฤต ตลอดจนนโยบาย “ปลอดโควิด” ที่ดื้อดึงซึ่งบังคับให้มีการปิดล้อมอย่างต่อเนื่องและคาดเดาไม่ได้ ควรทำความเข้าใจนโยบายเหล่านี้อย่างไรและนโยบายดังกล่าวมีความหมายต่ออนาคตของจีนอย่างไร?

“ยุคใหม่” ตามคำนิยามของนายสี

ปรัชญาอย่างเป็นทางการของนายสี ซึ่งบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญของพรรคคอมมิวนิสต์จีนใน พ.ศ. 2560 เรียกว่า “ความคิดของนายสี จิ้นผิง เกี่ยวกับสังคมนิยมแบบจีนสำหรับยุคใหม่” ซึ่งนายสีได้มาจากปรัชญา “สังคมนิยมแบบจีน” ที่นายเติ้งคิดค้นขึ้นสำหรับนโยบายทางเศรษฐกิจแบบใหม่ที่มุ่งเน้นตลาดของยุคปฏิรูปและเปิดกว้างใน พ.ศ. 2521 จนถึง พ.ศ. 2555 “ยุคใหม่” หมายความว่านายสีกำลังล้มล้างยุคของนายเติ้งและ “แนวคิดของนายสี จิ้นผิง” หมายความว่านายสีจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าเหตุใดจึงทำเช่นนี้และจะทำเช่นนี้ได้อย่างไร

จากการกล่าวสุนทรพจน์ที่เป็นที่จับตามองในที่ประชุมของพรรคและรัฐหลายครั้ง นายสีได้ประกาศทิศทางใหม่ในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และนโยบายต่างประเทศ ในด้านการเมือง นายสียืนยันว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะต้องฟื้นฟูความสามัคคีภายใน การควบคุมทางการเมือง และการครอบงำทางวัฒนธรรมเหมือนก่อนหน้านี้เบื้องหลังภาพลักษณ์ของพรรคนี้ นายสีได้รณรงค์ “ต่อต้านการทุจริต” เพื่อกวาดล้างคู่แข่งทางการเมืองจริง ๆ และที่อาจเกิดขึ้น ควบคุมการกำหนดนโยบายโดยตรงในทุกพื้นที่ที่สำคัญ ยกเลิกข้อจำกัดของนายเติ้งที่ให้ผู้นำระดับสูงดำรงตำแหน่งได้เป็นระยะเวลา 10 ปี ตลอดจนฟื้นฟูความเคารพต่อนายเหมาซึ่งเป็นวีรบุรุษของเขา ในด้านเศรษฐกิจ นายสียืนยันว่าจะไม่เน้นการเติบโตอีกต่อไป นอกเหนือจากแนวคิดที่จำเจของนายหูแล้ว นายสีกล่าวว่าความเป็นเจ้าของรัฐและการกำกับดูแลรวมถึงกฎระเบียบของรัฐที่มากขึ้นจะนำมาใช้เพื่อกำหนดควบคุมเศรษฐกิจของรัฐพรรคการเมืองเดียวที่เชื่อถือได้มากขึ้น และจะใช้การควบคุมดังกล่าวอย่างเด็ดขาดมากขึ้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางอุดมการณ์ของพรรค เช่น การปฏิบัติหน้าที่เพื่อความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน (มีความเท่าเทียมกันมากขึ้น) และวัฒนธรรมสังคมนิยม (การผสานรวมความจงรักภักดีของพรรค ศีลธรรมแบบดั้งเดิม และลัทธิชาตินิยมของจีน)ในด้านนโยบายต่างประเทศ วิธีการอยู่ร่วมกันอย่างอดทนของนายเติ้ง ซึ่งมักได้รับการสรุปว่าเป็น “ความแข็งแกร่งที่ซ่อนอยู่และไม่เป็นจุดเด่น” จะแทนที่ด้วย “ความฝันในการฟื้นฟูชาติจีน” ซึ่งจีนใช้อำนาจทางทหาร เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมที่เพิ่มขึ้นเพื่อ “เข้าใกล้การเป็นจุดศูนย์กลาง” ของโลก

มาตรการจำกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 กำหนดให้มีการปิดห้างสรรพสินค้าและธุรกิจอื่น ๆ ส่วนใหญ่ในกรุงปักกิ่งเมื่อช่วงกลาง พ.ศ. 2563

นโยบายเศรษฐกิจของนายสีเริ่มต้นค่อนข้างช้า วาระแรกของนายสีในช่วง พ.ศ. 2555-2560 มุ่งเน้นไปที่การรวมอำนาจส่วนบุคคลและการควบคุมทางการเมืองในรูปแบบรัฐพรรคการเมืองเดียว นโยบายเศรษฐกิจ ได้แก่ การเสริมสร้างฐานะทางการเงินและการตลาดของรัฐวิสาหกิจรวมถึงการหยุดการทดลองที่อาจทำให้เกิดความไม่มั่นคงและเป็นข้อจำกัดของรัฐในการเปิดเสรีตลาดทุน นโยบายเศรษฐกิจของนายสีมีความก้าวร้าว คาดเดาไม่ได้ และคุกคามมากขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2560 เป็นต้นมาและรุนแรงขึ้นใน พ.ศ. 2563 สิ่งที่นโยบายเหล่านี้มีร่วมกันคือการควบคุมและการกำกับดูแลของรัฐพรรคการเมืองเดียว
ที่มากขึ้นนั้นเป็นทั้งเป้าหมายหลักหรือวิธีการหลักที่ใช้ในการบรรลุ เป้าหมายอื่น หรือเป็นทั้งสองอย่าง

แสดงอำนาจให้นายแจ็ค หม่าเห็นว่า ใครคือผู้นำ

การปราบปรามของนายสีในภาคการบริการออนไลน์ที่มีเทคโนโลยีระดับสูง ซึ่งรวมถึงการค้นหาข้อมูล สื่อสังคมออนไลน์ การชำระเงิน การเงิน การเล่นเกม การซื้อสินค้า และการจัดส่งอาหาร ทำให้บริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของจีนต้องได้รับ การวิพากษ์วิจารณ์จากสาธารณชน ได้รับการสอบสวนอย่างคุกคาม รวมถึงได้รับการควบคุมกฎระเบียบและพรรคการเมืองที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าทำเพื่อประโยชน์สาธารณะ ทั้งการคุ้มครองข้อมูลผู้บริโภค การจำกัดอำนาจผูกขาดของบริษัทขนาดใหญ่ การรักษาเสถียรภาพทางการเงินและเศรษฐกิจ ตลอดจนการปกป้องศีลธรรมอันดีของประชาชน และที่สำคัญกว่านั้น บริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ ถูกบังคับให้แสดงความเคารพต่อรัฐพรรคการเมืองเดียว และวางผลประโยชน์และเป้าหมายของตนให้อยู่ภายใต้ผลประโยชน์และเป้าหมายของรัฐพรรคการเมืองเดียว

กรณีที่รู้จักกันดีที่สุดคือ แอนท์กรุ๊ป บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านบริการทางการเงินออนไลน์ที่มีการเสนอขายต่อประชาชนครั้งแรกถูกปิดกั้นในช่วงปลาย พ.ศ. 2563 ซึ่งมีรายงานว่าเกี่ยวข้องกับคำสั่งของนายสีโดยตรง หลังจากที่นายแจ็ค หม่า มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งบริษัท ได้วิพากษ์วิจารณ์หน่วยงานกำกับดูแลของรัฐที่ขัดขวางการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ รูปแบบธุรกิจของแอนท์ ซึ่งเปิดช่องทางการปล่อยสินเชื่อแก่ผู้บริโภคและกลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก คุกคามการครอบงำตลาดของธนาคารรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ ซึ่งปล่อยสินเชื่อแก่รัฐวิสาหกิจและบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดเป็นหลัก บริษัทแอนท์และบริษัทเทคโนโลยีทางการเงินอื่น ๆ ต้องเผชิญกับข้อจำกัดใหม่ ๆ เกี่ยวกับรูปแบบธุรกิจและแนวทางการปล่อยสินเชื่อของตน เนื่องจากอยู่ภายใต้ระบอบการกำกับดูแลที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งคอยควบคุมธนาคารและสถาบันการเงินแบบดั้งเดิม

ในขณะเดียวกัน รัฐบาลจีนได้เพิ่มความพยายามในการรวมข้อมูลขนาดใหญ่และการใช้งานให้อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐพรรคการเมืองเดียว บริษัทเทคโนโลยีที่รวบรวมชุดข้อมูลลูกค้าขนาดใหญ่ รวมถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ เช่น อาลีบาบา เทนเซ็นต์ และไบต์แดนซ์ จะต้องเก็บข้อมูลไว้ในประเทศจีน ปฏิบัติตามข้อจํากัดใหม่ในการรวบรวมข้อมูล และให้ข้อมูลแก่จีน ซึ่งต้องการควบคุมการใช้ข้อมูล จีนไม่เพียงต้องการแค่ปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังต้องการใช้ข้อมูลเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการกำกับดูแลและการโฆษณาชวนเชื่อของระบอบที่มีการเฝ้าระวังด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน รัฐพรรคการเมืองเดียวนี้จะมีวิธีเลี่ยงเพื่อใช้ข้อมูลของบริษัท รวมถึงข้อมูลของบริษัทต่างประเทศด้วย เพื่อส่งเสริมการพัฒนาบริษัทจีนที่ต้องการ ซึ่งใกล้เคียงกับวิธีการบังคับให้ถ่ายทอดเทคโนโลยีหรือขโมยเทคโนโลยีผ่านการโจรกรรมทางไซเบอร์

นายแจ็ค หม่า ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มบริษัทอาลีบาบา ได้ลงจากตำแหน่งประธานและหายตัว
ไปจากสื่อสาธารณะตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2563 จนถึงเดือนมกราคม พ.ศ. 2564
ภายหลังการปราบปรามของรัฐบาลจีนต่อธุรกิจของเขา โดยแทบไม่มีผู้ใดพบเห็นนายหม่านับตั้งแต่เหตุการณ์นั้น

กฎระเบียบใหม่อื่น ๆ มุ่งเป้าไปที่การคุกคามศีลธรรมหรือคุณภาพชีวิตของประชาชน เทนเซ็นต์และบริษัทเกมออนไลน์อื่น ๆ ได้รับการอนุมัติเกมน้อยลงและมีข้อจำกัดด้านเนื้อหามากขึ้น รวมถึงการจำกัดการเล่นเกมของเยาวชนไม่เกินสามชั่วโมงต่อสัปดาห์ และยังจำกัดความเป็นที่นิยมของสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์ที่มีต่อผู้มีชื่อเสียงและรูปแบบการใช้ชีวิตที่หรูหราและฟุ่มเฟือยของพวกเขา ใน พ.ศ. 2564 หน่วยงานกำกับดูแลของรัฐได้กำหนดให้บริษัทต่าง ๆ “ควบคุมการคัดเลือกนักแสดงและแขกรับเชิญในรายการอย่างเข้มงวด โดยยึดความรู้ทางการเมือง ความประพฤติทางศีลธรรม ระดับศิลปะการแสดง และการประเมินผลทางสังคมตามมาตรฐานการคัดเลือก” บางทีสิ่งที่น่าแปลกใจที่สุดก็คือใน พ.ศ. 2564 รัฐบาลจีนได้โจมตีวัฒนธรรมการสําเร็จ การศึกษามากเกินไปของจีนโดยตรง กระทรวงศึกษาธิการเตือนว่า ธุรกิจการศึกษาเอกชนขนาดใหญ่ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งให้บริการสอนพิเศษหลังเลิกเรียนแก่เด็กหลายล้านคน ขู่ว่าจะ “สร้างระบบการศึกษาอื่นนอกระบบการศึกษาของประเทศ”

บริษัทหรือหน่วยงานการศึกษาที่ให้บริการการศึกษาจนถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 9 ถูกห้ามไม่ให้ดําเนินธุรกิจแสวงหาผลกําไร ราคาและเวลาในการกวดวิชาก็อยู่ภายใต้การควบคุมของกฎระเบียบเช่นกัน มูลค่าตลาดทรุดลงและมีการปลดพนักงานจำนวนมากตามมา ทันใดนั้น ผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีที่ร่ำรวยต่างก็หวาดกลัวสิ่งที่เลวร้ายที่สุด จึงรีบบริจาคเงินให้กับองค์กรการกุศลที่พรรคอนุมัติ

เช่น 530 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท) สำหรับเหม่ยถวน, 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4.1 หมื่นล้านบาท) สำหรับตีตี และ 2.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 9.7 หมื่นล้านบาท) สำหรับอาลีบาบา (ทั้งหมดใน พ.ศ. 2564-2565) “การบริจาค” จากเจ้าของบริษัท ประกอบด้วย 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 5.2 หมื่นล้านบาท) จากพินตั๋วตั๋ว, 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 7.6 หมื่นล้านบาท) จากเสียวหมี่, 2.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 8 หมื่นล้านบาท) จากเหม่ยถวน, 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 5.2 แสนล้านบาท) จากเทนเซ็นต์ และ 1.55 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 5.4 แสนล้านบาท) จากอาลีบาบา ซึ่งจำนวนเหล่านี้ไม่รวมค่าปรับที่บังคับจ่ายสำหรับการละเมิดกฎระเบียบ ในการบริหารของบริษัท บทบาทในการกํากับดูแลคณะกรรมการพรรคและการขายหุ้นของผู้ถือหุ้นที่สําคัญให้แก่รัฐวิสาหกิจก็แข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน

การควบคุมและการกํากับดูแลของรัฐพรรคการเมืองเดียวที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้มักจะลดโอกาสการเติบโตในลักษณะที่เสริมซึ่งกันและกัน ซึ่งรวมถึงข้อจํากัดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ การจำกัดการต่อต้านการผูกขาดในส่วนแบ่งการตลาดและการใช้ธุรกิจเพื่อส่งเสริมธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ข้อจำกัดในการครอบครองและการใช้ข้อมูลของลูกค้า ข้อจำกัดด้านเนื้อหาที่เข้มงวดมากขึ้นเกี่ยวกับศีลธรรมอันดีของประชาชนและความจงรักภักดีทางการเมือง การกำกับดูแลและประเมินผลการตัดสินใจของฝ่ายจัดการทั้งใหญ่และเล็ก การบังคับใช้กฎระเบียบตามอำเภอใจและเป็นการเมือง และความไม่แน่นอนในการรักษาผลกำไรในอนาคต ราคาตลาดหุ้นเป็นสัญญาณของความเสียหายโดยตรง ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2564 บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่หกแห่งของจีนสูญเสียมูลค่าของบริษัทถึงร้อยละ 40 สองบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างอาลีบาบาและเทนเซ็นต์สูญเสียมูลค่าไปกว่าครึ่งนับตั้งแต่ช่วงที่รุ่งเรืองที่สุดใน พ.ศ. 2563 และ 2564 เป็นที่คาดการณ์ได้ว่าสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นจะเป็นเรื่องยากขึ้นสําหรับธุรกิจเกิดใหม่และบริษัทขนาดเล็ก ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเพิ่มความเข้มข้นของตลาดและลดการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ในระยะยาว

แสดงอำนาจให้ผู้กอบกู้จีนเห็นว่า ใครคือผู้นำ

ชาวจีนขึ้นชื่อเรื่องความประหยัด เนื่องจากรัฐจัดการตลาดหุ้นใน ประเทศและจํากัดการไหลออกของการลงทุนจากต่างประเทศ ครัวเรือนในเมืองจีนจึงมีเงินออมร้อยละ 78 ในอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย เมื่อเทียบกับครัวเรือนในสหรัฐอเมริกันที่มีเงินออมร้อยละ 35 เนื่องจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจจีนและการพัฒนาอย่างรวดเร็วของการขยายตัวของเมือง ราคาอะพาร์ตเมนต์ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาถึงระดับ “ฟองสบู่” ที่นักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่าไม่มีความยั่งยืน และระดับหนี้ของผู้บริโภคและนักพัฒนาอาจไม่มั่นคง ใน พ.ศ. 2562 ราคาบ้านในประเทศจีนมีราคาแพงกว่าในสหรัฐฯ ประมาณสองเท่าเมื่อเทียบกับระดับรายได้ เมื่อเทียบกับซานฟรานซิสโกและนิวยอร์กในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2564 ราคาบ้านในเซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง และเซินเจิ้นสูงกว่ารายได้หลังหักภาษีถึง 4-5 เท่า ในขณะเดียวกัน เจ้าของบ้านที่มีบ้านตั้งแต่ 2 หลังขึ้นไปก็มีอัตราห้องเช่าว่างสูง และผลตอบแทนจากการให้เช่าก็ต่ำด้วย

คนงานส่งผ่านโลโก้ของอาลีบาบากรุ๊ป กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ในงานแสดงสินค้าเทคโนโลยีปักกิ่ง ในช่วงปลาย พ.ศ. 2563 ทางการจีนได้ระงับการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนเป็นครั้งแรกโดยคิดเป็นมูลค่ากว่า 3.45 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท) โดยแอนท์กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของอาลีบาบา

นักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่าไม่มีวิธีที่ปลอดภัยในการแก้ไขภาวะฟองสบู่ แต่นายสีได้กล่าวเตือนไว้เล็กน้อยใน พ.ศ. 2560 ว่า ที่อยู่อาศัย “มีไว้เพื่ออยู่อาศัย ไม่ใช่เพื่อเก็งกำไร” ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2563 เขาได้ใช้มาตรการ “เส้นสีแดง” สามมาตรการที่จำกัดระดับหนี้ของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างกะทันหัน เนื่องจากนักพัฒนารายใหญ่ให้ความสําคัญกับการเติบโตอย่างรวดเร็วมาเป็นเวลานาน หนี้จึงพุ่งสูง ในขณะเดียวกันก็ใช้เงินจากนอกระบบ เช่น การชําระเงินล่วงหน้าจากผู้ซื้อและการกู้ยืมจากผู้จัดหา เนื่องจากนักพัฒนารายใหญ่จํานวนมาก เช่น เอเวอร์แกรนด์ ไม่สามารถกู้เงินได้อย่างกะทันหัน ราคาอสังหาริมทรัพย์จึงลดลง อุตสาหกรรมการก่อสร้างก็หยุดชะงัก สิ่งที่ตามมาคือการผิดนัดชําระหนี้ระหว่างประเทศระลอกใหญ่ ผู้ซื้อจำนวนมากเฝ้าดูการก่อสร้างหยุดลงสำหรับอะพาร์ตเมนต์ที่ได้รับเงินทุนหรือชำระเงินแล้ว บางคนตอบกลับด้วยการปฏิเสธที่จะชำระเงินจํานอง

นายสีได้เสนอปัญหานี้ต่อรัฐบาลระดับมณฑลและท้องถิ่น ซึ่งคาดว่าจะทำให้แน่ใจว่าผู้ซื้อล่วงหน้าจะได้รับอะพาร์ตเมนต์ของตนและเพื่อจำกัดความเสียหายให้กับภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การช่วยเหลือแบบคัดเลือกและการเข้ายึดโครงการที่มีปัญหาโดยรัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ ควบคู่ไปกับความพยายามเฉพาะกิจในท้องถิ่นเพื่อกระตุ้นการก่อสร้างที่อยู่อาศัย รัฐวิสาหกิจที่มุ่งเน้นไปที่โครงการโครงสร้างพื้นฐานกำลังสนับสนุนตลาดการขายที่ดินเพื่อให้รายได้ไหลไปยังรัฐบาลท้องถิ่น แต่แทบไม่มีวี่แววว่าจะพิจารณานโยบายที่ล้มเหลวในตอนแรกใหม่อีกครั้ง และใช้แทนกฎระเบียบหนี้สินที่เป็น กลางมากขึ้นในวงกว้าง การสร้างเมืองมากเกินไปและการชะลอตัวของการขยายเมืองหมายความว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนมีการกำหนดให้ชะลอตัว อย่างไรก็ตาม วิธีการที่กะทันหันและเข้มงวดนี้ได้สร้างความเสียหายอย่างมากต่อการเงินของนักพัฒนาซอฟต์แวร์
และรัฐบาลท้องถิ่น และสั่นคลอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งคาดว่ามีสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 20 ของเศรษฐกิจจีน มีแนวโน้มที่จะยังคงตกต่ำ

แสดงอำนาจในช่วงวิกฤตการณ์ไวรัสว่า ใครคือผู้นำ

หลังจากละเลยและจัดการปัญหาโควิด-19 ผิดพลาดอย่างร้ายแรงเมื่อครั้งเกิดขึ้นครั้งแรกในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน การทดสอบอย่างเข้มงวด การติดตาม และการปิดล้อมของพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในขั้นต้น

อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จนั้นนำไปสู่ปัญหาในภายหลัง นายสีดำเนินการด้านวัคซีนตามลัทธิชาตินิยม โดยพึ่งพาวัคซีนที่ผลิตในประเทศที่มีประสิทธิภาพน้อยกว่า เพื่อแสดงให้เห็นว่าจีนสามารถแก้ปัญหาของตนได้โดยลำพัง ในขณะเดียวกัน ผู้สูงอายุชาวจีนหลายล้านคนกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของวัคซีนเหล่านั้นและเชื่อว่าการปิดเมืองทําให้การฉีดวัคซีนไม่จําเป็น จากนั้นสายพันธุ์ที่แพร่เชื้อได้ก็มีมากขึ้น ซึ่งนำไปสู่การปิดเมืองและเขตการปกครองที่สำคัญของจีนที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ รวมถึงการปิดเมืองเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและเป็นเมืองหลวงทางเศรษฐกิจของจีนเป็นเวลาสองเดือน

แม้ว่าห่วงโซ่อุปทาน การลงทุน และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะถูกทําลายอย่างต่อเนื่องและไม่อาจคาดเดาได้ แต่นายสียังคงยืนกรานกับนโยบายปลอดโควิดจนถึงปลาย พ.ศ. 2565 เขาได้ละทิ้งความพยายามทั้งหมดในการจํากัดการแพร่กระจายของไวรัสอย่างกะทันหัน เหตุใดพรรคคอมมิวนิสต์จีนจึงไม่เปลี่ยนผ่านไปสู่การเปิดกว้างและอยู่ร่วมกับไวรัสได้เร็วขึ้น ประการแรก นายสีไม่ยอมถอยกลับง่าย ๆ และไม่ยอมรับปัญหา เนื่องจากต้องการประสบความสำเร็จในด้านภาพลักษณ์ของตน ประการที่สอง ผู้สูงอายุชาวจีนหลายล้านคนยังคงไม่ได้รับการฉีดวัคซีนและวัคซีนของจีนมีประสิทธิภาพที่ไม่แน่นอน ประการที่สาม นโยบายปลอดโควิดได้รับการเฝ้าระวังและการควบคุมที่มีประโยชน์อีกระดับ ตัวอย่างเช่น การใช้เทคโนโลยีจำกัดการเดินทางในช่วงโควิด-19 เพื่อจำกัดการประท้วงในเมืองเจิ้งโจว เนื่องจากธนาคารไม่สามารถจ่ายเงินสดให้กับผู้ฝากเงินได้

หากนายสีมีความมุ่งมั่นกับนโยบายปลอดโควิด เหตุใดการเปิดกว้างจึงเกิดขึ้นอย่างกะทันหันและไม่มีเงื่อนไข ดูเหมือนว่า นายสีมุ่งมั่นที่จะยืนหยัดต่อไปจนกว่าไวรัสจะเอาชนะความพยายามสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ การปิดเมืองอย่างต่อเนื่องและระบอบที่ทดลองใช้ข้อบังคับอย่างล่วงล้ำกลายเป็นสิ่งจำเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั่วทั้งเศรษฐกิจส่วนใหญ่ของจีน สิ่งนี้ทำให้ห่วงโซ่อุปทานและกิจกรรมทางธุรกิจของจีนหยุดชะงักอย่างรุนแรง ลดการจ้างงาน และทำลายระบบการเงิน การประท้วงปะทุขึ้นในเมืองต่าง ๆ ของจีนอย่างเห็นได้ชัดและเป็นวงกว้างอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนับตั้งแต่ พ.ศ. 2532 การเงินของรัฐบาล
ท้องถิ่นอยู่ในขั้นวิกฤติ

ปั้นจั่นหยุดทำงานที่โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย เอเวอร์แกรนด์ ในกรุงปักกิ่งเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2564 แม้จะมีคำมั่นสัญญาว่าจะสร้างที่อยู่อาศัยที่พร้อมใช้งานมากขึ้น แต่นโยบายของนายสี จิ้นผิง กลับไม่ยอมปล่อยสินเชื่อให้นักพัฒนาบางราย ซึ่งก่อให้เกิดการผิดนัดชำระหนี้ระหว่างประเทศที่ลดลงจนกลายเป็นวิกฤติอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาว

นายสีมองเห็นเพียงไม่กี่ทางเลือกจึงได้ยอมล่าถอย ทว่าผลที่ตามมากลับเลวร้าย เนื่องจากความมั่นใจที่มากเกินไปทำให้ไม่ได้เตรียมความพร้อมอย่างเพียงพอ ไม่มีความพยายามที่จะนำเข้าวัคซีนและ ยาต้านไวรัสที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นจากต่างประเทศ มีความพยายามเพียงเล็กน้อยในการตระเตรียมระบบการแพทย์ของจีนโดยสํารองยาที่จําเป็น รวมถึงสร้างโรงพยาบาลและโครงสร้างพื้นฐานทางคลินิก เมื่อวิกฤตเศรษฐกิจมาถึงจุดสูงสุด จึงได้ตัดสินใจที่จะรีบสร้างภูมิคุ้มกันหมู่เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ในเมืองมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลายร้อยล้านคน ประเทศระบบพรรคการเมืองเดียวแห่งนี้ไม่ได้พยายามที่จะหยุดยั้งการกลับไปเยี่ยมบ้านในวันตรุษจีนแบบดั้งเดิมเลย ซึ่งเป็นดั่งการแพร่กระจายโรคภัยร้ายแรงไปยังชนบทที่มีประชากรผู้สูงอายุและการดูแลทางการแพทย์แบบดั้งเดิมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องน่าสงสัยว่าจะมีความโปร่งใสเกี่ยวกับจำนวนผู้เสียชีวิต รวมถึงจำนวนผู้เสียชีวิตไปอย่างไม่จำเป็นเนื่องจากความมั่นใจที่มากเกินไปของจีนที่ไม่มีการเตรียมความพร้อมดีพอและเร่งรีบที่จะเปิดกว้างทางเศรษฐกิจ

แสดงอำนาจทางเศรษฐกิจว่า ใครคือผู้นำ

นายสีสืบทอดแหล่งที่มาสำคัญทั้งสองประการที่ทำให้การเติบโตเพื่อแสดงอำนาจทางเศรษฐกิจชะลอตัวลง ประการแรก อัตราการเติบโตที่ลดลงตามธรรมชาติเมื่อประเทศยากจนร่ำรวยขึ้น ประการที่สอง นโยบายของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่สืบทอดมาช่วยจำกัดการเติบโตอย่างต่อเนื่อง นโยบายลูกคนเดียวในอดีตส่งผลให้แรงงานลดลงอย่างรวดเร็ว การรวมกันของนโยบายกฎข้อบังคับอื่น ๆ เช่น ระบบการอนุญาตให้อยู่อาศัยในเมือง ข้อจำกัดในการใช้ที่ดินในชนบท และเส้นทางคับแคบสู่ความสำเร็จทางเศรษฐกิจ ซึ่งกระจุกตัวอยู่ในเมืองใหญ่เพียงไม่กี่แห่ง โดยได้จำกัดการเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจและชะลอการเพิ่มผลผลิต

ในขณะเดียวกัน เป้าหมายและวิธีการของนายสีได้ก่อให้เกิดนโยบายที่ชะลอการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้ส่วนหนึ่งได้รับแรงผลักดันจากความปรารถนาของนายสีที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเติบโตเมื่อเทียบกับ “ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน” หรือความพยายามเฉพาะกิจที่จะยกระดับมาตรฐานการดำรงชีวิตของชนชั้นล่างและชนชั้นกลางชาวจีน อย่างไรก็ตาม เป้าหมายที่สำคัญยิ่งกว่าของนายสีซึ่งเหนือกว่าเป้าหมายทางเศรษฐกิจทั้งหมด กำลังตอกย้ำให้เห็นถึงอำนาจและการควบคุมของจีน วิธีที่นายสีชื่นชอบในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าวคือการกำหนดนโยบายการปกครองจากเบื้องบนที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่เกี่ยวข้องและมักจะขัดแย้งกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เฉพาะเจาะจง เมื่อนโยบายของนายสีมีการเติบโตช้าลง นายสีก็มีแนวโน้มที่จะพยายามแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยวิธีเดียวกันนี้มากขึ้น

คนงานสร้างรั้วเหล็กล้อมรอบย่านกรุงปักกิ่งในระหว่างการปิดล้อมพื้นที่เพื่อรับมือสถานการณ์โควิด-19 ของรัฐบาลจีนในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2565

จีนที่เติบโตช้าของนายสีนั้นยิ่งเป็นอันตรายมากกว่าเดิม

การเติบโตที่ช้าลงส่งผลให้แหล่งความชอบธรรมและอำนาจทางการเมืองที่สำคัญของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในยุคปฏิรูปและเปิดประเทศอ่อนกำลังลง เพื่อเป็นการทดแทน นายสีอาศัยการกดขี่ การโฆษณาชวนเชื่อ และลัทธิชาตินิยมของจีน แต่นายสีทำเช่นนั้นด้วยความเชื่อมั่นในอุดมการณ์ ไม่ใช่เพราะความสมเหตุสมผลในฐานะกลยุทธ์ทางการเมือง ในยุคใหม่ นายสีมุ่งมั่นในการบรรลุผลสำเร็จ เพื่อเกียรติภูมิของจีน และเพื่อเกียรติยศของตนเองในฐานะผู้นำที่สร้างประวัติศาสตร์ของจีน

หากผลลัพธ์เหล่านั้นไม่เกิดขึ้นจริงในเวทีเศรษฐกิจ นายสีก็จะมองหาเวทีอื่น ซึ่งรวมถึงนโยบายต่างประเทศ ซึ่งความเสี่ยงสูงสุดคือทำสงครามกับไต้หวันที่ปกครองตนเอง ซึ่งรัฐบาลจีนอ้างสิทธิ์เป็นดินแดนของตน การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวมีแนวโน้มที่จะจำกัดการเสริมกำลังทางทหารของจีน รัฐบาลกลางของจีนมีดุลยพินิจทางการคลังมากมายแต่ไม่มีลำดับความสำคัญอื่นใดนอกจากความมั่นคงภายในที่มีแนวโน้มเกิดขึ้นก่อนการใช้จ่ายทางทหาร

ซึ่งนี่ไม่ใช่สถานการณ์การหดตัวของโอกาสทางเศรษฐกิจที่ทำให้จีนเป็นอันตรายมากขึ้นในต่างประเทศ โดยส่วนใหญ่แล้ว นายสีเป็นผู้ทำให้เกิดการหดตัวนั้น เป้าหมายและวิธีการเดียวกันที่ผลักดันให้นายสีลดการเติบโตของจีนทำให้ตัวนายสีเป็นอันตรายมากขึ้นในด้านนโยบายต่างประเทศ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button