ความขัดแย้ง/ความตึงเครียดโอเชียเนีย

กองกำลังรักษาชายฝั่งสหรัฐฯ กระชับความร่วมมือในโอเชียเนียเพื่อรับมือกับการประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม

ภารกิจร่วมกันในการบังคับใช้และการมีส่วนร่วมนำมาซึ่งความสำเร็จทั้งสองด้านในระหว่างการลาดตระเวนเป็นระยะทางกว่า 9,700 กิโลเมตรในมหาสมุทรแปซิฟิกและเป็นเวลานานกว่า 1 เดือนของเรือคัตเตอร์ โอลิเวอร์ เฮนรี จากกองกำลังรักษาชายฝั่งสหรัฐอเมริกา

เรือคัตเตอร์เคลื่อนที่เร็วลำดังกล่าวเดินทางข้ามเขตเศรษฐกิจพิเศษของประเทศพันธมิตรอย่างปาเลาและสหพันธรัฐไมโครนีเซีย รวมถึงน่านน้ำสากลระหว่างประเทศในหมู่เกาะแปซิฟิกเพื่อตอบโต้การทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม เจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาชายฝั่งสหรัฐฯ ขึ้นเรือประมงที่ติดธงต่างชาติมากกว่า 12 ลำ ซึ่งรวมถึงการขึ้นเรือ 5 ลำพร้อมกับเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายการเดินเรือของปาเลา ตลอดจนระบุการละเมิดกฎระเบียบที่อาจเกิดขึ้นเกี่ยวกับปริมาณการจับสัตว์น้ำ ใบอนุญาตขนถ่ายสินค้า เครื่องหมายบนเรือ และระบบตรวจสอบ ตามรายงานข่าวประชาสัมพันธ์ในช่วงกลางเดือนเมษายน พ.ศ. 2566 (ภาพ: ลูกเรือของเรือคัตเตอร์ โอลิเวอร์ เฮนรี ของกองกำลังรักษาชายฝั่งสหรัฐฯ เข้าใกล้เรือประมงในมหาสมุทรแปซิฟิกช่วงปลายเดือนมีนาคม พ.ศ. 2566)

ในแปซิฟิกกลางและแปซิฟิกตะวันตก ปริมาณการจับปลาทูน่าเพียงอย่างเดียวใน พ.ศ. 2564 มีมูลค่ามากกว่า 4.8 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.6 แสนล้านบาท) ตามรายงานของคณะกรรมการประมงแปซิฟิกตะวันตกและแปซิฟิกกลาง ใน พ.ศ. 2562 การจับปลาทูน่าที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุมในการประมงเหล่านั้นคิดเป็นมูลค่าประมาณ 333 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท) การประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม เป็นภัยคุกคามหลักของภูมิภาคนี้ ซึ่งต้องพึ่งพาอาศัยการประมงเป็นหลักเพื่อการยังชีพและการดำรงชีวิต

“เจ้าหน้าที่ของกองกำลังรักษาชายฝั่งรู้สึกดีที่ทราบว่าเรากำลังสร้างผลกระทบด้วยการบันทึกการละเมิดที่อาจเกิดขึ้นเหล่านี้และให้ความรู้แก่ลูกเรือประมงเกี่ยวกับข้อกำหนดต่าง ๆ” ร.อ. เฟรดดี้ ฮอฟชไนเดอร์ ผู้บัญชาการเรือคัตเตอร์สหรัฐฯ กล่าวในข่าวประชาสัมพันธ์ “บนเรือทุกลำ ลูกเรือพบปะกับเราด้วยความเคารพ ความสนใจในเชิงบวก และความปรารถนาที่จะแก้ไขข้อบกพร่อง”

ภารกิจดังกล่าวสนับสนุนปฏิบัติการ 365 ของการประชุมหมู่เกาะแปซิฟิกและปฏิบัติการรีมาเทาของกองกำลังไมโครนีเซีย/เขตกวมของกองกำลังรักษาชายฝั่งสหรัฐฯ ซึ่งทั้งสองภารกิจส่งเสริมอำนาจอธิปไตย ความมั่นคง และความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจทั่วทั้งโอเชียเนีย เรือโอลิเวอร์ เฮนรี และเรือเอฟเอสเอส โทชิโวะ นากายามะ ของไมโครนีเซียดำเนินการลาดตระเวนร่วมกันโดยเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการ 365

ภายใต้ข้อตกลงของสมาคมเสรี ไมโครนีเซียและปาเลา รวมทั้งหมู่เกาะมาร์แชลล์ ได้รับความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและการรับประกันความปลอดภัยจากสหรัฐฯ

“ผลตอบแทนจากการลงทุนสำหรับพันธมิตรของเรา … ผ่านการใช้เรือตรวจการณ์เคลื่อนที่เร็วและกองกำลังรักษาชายฝั่งสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้เป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ และเราได้ยินสัญญาณที่แสดงถึงความต้องการดังกึกก้องและชัดเจน” น.อ. นิค ซิมมอนส์ ผู้บัญชาการกองกำลังไมโครนีเซีย/เขตกวมของกองกำลังรักษาชายฝั่งสหรัฐฯ กล่าวในข่าวประชาสัมพันธ์

ลูกเรือโอลิเวอร์ เฮนรี เข้าร่วมพิธีแต่งตั้งผู้บังคับการเรือและพบกับผู้นำท้องถิ่นเพื่อหารือเกี่ยวกับความท้าทายที่ผู้อยู่อาศัย 500 คนเผชิญบนเกาะสตาวัลของไมโครนีเซีย ในปาเลา นักเรียนมัธยมปลายและวิทยาลัยมากกว่า 80 คนไปเที่ยวชมเรือเรือตรวจการณ์ และกองกำลังรักษาชายฝั่งได้ดำเนินการฝึกการค้นหาและกู้ภัย รวมถึงการวางแผนควบคุมความเสียหายร่วมกับเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายทางทะเลในท้องถิ่น

“กองกำลังไมโครนีเซียของกองกำลังรักษาชายฝั่งสหรัฐฯ และลูกเรือ โอลิเวอร์ เฮนรี ของเรามุ่งมั่นที่จะให้บริการพันธมิตรของเราโดยการให้การฝึกอบรมและทรัพยากรที่มีค่าเพื่อตอบสนองความต้องการของพวกเขา”

ภารกิจของ โอลิเวอร์ เฮนรี ทับซ้อนกับการส่งเรือ ไมร์เทิล ฮาซาร์ด ซึ่งเป็นเรือพี่น้อง ไปยังหมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนาเป็นเวลา 3 สัปดาห์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการรีมาเทาด้วย

เรือเรือตรวจการณ์ ไมร์เทิล ฮาซาร์ด ของกองกำลังรักษาชายฝั่งสหรัฐฯ เดินทางออกจากเกาะกวมในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เพื่อประจำการที่หมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนา
ภาพจาก: พ.จ.อ. ซาร่า มุยร์/กองกำลังรักษาชายฝั่งสหรัฐฯ

เรือ ไมร์เทิล ฮาซาร์ด สนับสนุนภารกิจต่าง ๆ รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายทางทะเล การปกป้องทรัพยากรทางทะเล การค้นหาและกู้ภัย และการรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง ท่าเรือ และทางน้ำ ตามรายงานข่าวประชาสัมพันธ์เมื่อปลายเดือนมีนาคม พ.ศ. 2566 นอกจากนี้ เรือเรือตรวจการณ์ดังกล่าวยังโอนย้ายบุคลากรและอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยทางทะเลและปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยใกล้กับเกาะไซปัน ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในดินแดนของสหรัฐฯ

“นับเป็นเรื่องดีที่เราได้มาที่หมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนาและให้บริการเหล่านี้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเดินเรือและช่วยเหลือพันธมิตรในท้องถิ่นของเรา” ร.อ. จัล เมอร์ริตต์ ผู้บัญชาการเรือตรวจการณ์ ไมร์เทิล ฮาซาร์ด กล่าวในข่าวประชาสัมพันธ์ “เราขอขอบคุณชาวไซปันสำหรับการต้อนรับระหว่างการพำนักครั้งนี้”

ภาพจาก: พ.จ.อ. ซาร่า มุยร์/กองกำลังรักษาชายฝั่งสหรัฐฯ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button