เกาหลีใต้และสหรัฐฯ ฉลองครบรอบการเป็นพันธมิตรครบ 70 ปีด้วยความมุ่งมั่นด้านกลาโหมร่วมกันที่เข้มแข็งยิ่งขึ้น
เจ้าหน้าที่ ฟอรัม
นายยุน ซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ และนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้เน้นย้ำถึงความเป็นพันธมิตรที่ยาวนานกว่า 70 ปีระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค ตลอดจนความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะยับยั้งการแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
“ประธานาธิบดีทั้งสองยืนยันถึงความมุ่งมั่นของพวกเขาในการเป็นพันธมิตรระดับโลกที่มุ่งเน้นไปที่การกระชับความสัมพันธ์ด้านการป้องกันและความมั่นคง การขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า และสิ่งแวดล้อม การเพิ่มความร่วมมือด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี (รวมถึงในภาคอวกาศ) และการขยายความช่วยเหลือด้านการพัฒนา การแลกเปลี่ยนทางการศึกษา และความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน” ตามแถลงการณ์ของทำเนียบขาวเกี่ยวกับการเยือนกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ในช่วงปลายเดือนเมษายน พ.ศ. 2566
นายยุนเรียกการเป็นพันธมิตรนี้ว่า “เสาหลักแห่งสันติภาพและเสถียรภาพ” บนคาบสมุทรเกาหลีและทั่วโลก (ภาพ: นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ (ซ้าย) และนายยุน ซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ กล่าวในงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่นายยุน ซอกยอล ที่ทำเนียบขาว ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2566)
นายยุนกล่าวว่า “การเป็นพันธมิตรของเราคือการเป็นพันธมิตรแห่งค่านิยมตามค่านิยมสากลของเสรีภาพและประชาธิปไตยที่เรามีร่วมกัน” “ซึ่งไม่ได้เป็นความสัมพันธ์เชิงสัญญาเพื่อความสะดวกที่มองหาแต่ผลประโยชน์เท่านั้น ค่านิยมที่เรามีร่วมกันจะช่วยนำทางให้การเป็นพันธมิตรของเรากลายเป็นความร่วมมือที่ยั่งยืนตลอดไป การเป็นพันธมิตรระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ยังมีความยืดหยุ่นอีกด้วย เมื่อร่วมมือกัน เราจะสามารถแก้ไขทุกปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างเราได้ด้วยการปรึกษาหารืออย่างใกล้ชิด”
นายไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่าสหรัฐฯ และเกาหลีใต้พร้อมที่จะรับมือกับทุกความท้าทาย โดยกล่าวว่าพวกเขา “กำลังทุ่มความพยายาม” ในความร่วมมือเมื่อต้องเผชิญกับภัยคุกคามต่าง ๆ เช่น ภัยคุกคามที่มาจากเกาหลีเหนือ
“ประธานาธิบดีไบเดนได้ยืนยันอีกครั้งว่าความมุ่งมั่นที่สหรัฐอเมริกามีต่อเกาหลีใต้และประชาชนเกาหลีนั้นยั่งยืนและแข็งแกร่ง พร้อมยืนยันว่าหากเกาหลีเหนือโจมตีเกาหลีใต้ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ เกาหลีเหนือจะพบกับการตอบโต้อย่างรวดเร็ว รุนแรง และเด็ดขาด” ทำเนียบขาวระบุในแถลงการณ์ โดยกล่าวถึงเกาหลีเหนือด้วยชื่อทางการ
นายไบเดนกล่าวถึงด้านความร่วมมือด้านการป้องกันและความมั่นคงระดับโลก โดยยืนยันความมุ่งมั่นและให้คำมั่นสัญญาใหม่ อาทิ
- ประเทศทั้งสองร่วมเปิดตัวกลุ่มปรึกษาด้านนิวเคลียร์เพื่อหารือเกี่ยวกับการวางแผนรับมือเหตุฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และให้ความร่วมมือในการป้องปรามนิวเคลียร์
- ทั้งสองประเทศยืนยันถึงความมุ่งมั่นของตนที่มีต่อสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นรากฐานของการปลดอาวุธนิวเคลียร์และการใช้พลังงานนิวเคลียร์อย่างสันติ
- สหรัฐฯ มุ่งมั่นที่จะยกระดับการใช้งานสินทรัพย์เชิงยุทธศาสตร์ในและรอบ ๆ คาบสมุทรเกาหลี โดยเฉพาะฐานทัพที่ติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ได้ นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศจะขยายขอบเขตและขนาดของการฝึกซ้อมร่วม และรักษาการมีส่วนร่วมและการเจรจาด้านกลาโหมระดับสูงอย่างสม่ำเสมอเพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามในภูมิภาค
- กองกำลังของเกาหลีใต้และสหรัฐฯ กำลังเพิ่มความเชื่อมโยงกันเพื่อยกระดับการวางแผนและการดำเนินการร่วมกัน
- เพื่อให้เกิดความพร้อมและเสริมสร้างท่าทีของกองกำลังร่วม กองกำลังเกาหลีใต้และสหรัฐฯ จึงกำลังขยายขอบเขตการฝึกภาคสนาม ซึ่งรวมถึง อุลชีฟรีดอมชีลด์ และ วอร์ริเออร์ชีลด์ เพื่อให้ระบบการฝึกซ้อมร่วมอยู่ในระดับยุทธบริเวณ พวกเขายังวางแผนที่จะจัดการฝึกซ้อมไตรภาคีกับญี่ปุ่นอีกด้วย
- เกาหลีใต้และสหรัฐฯ จะใช้คณะทำงานความร่วมมือในระดับภูมิภาคเพื่อเพิ่มความตระหนักรู้สถานการณ์ทางทะเลและความร่วมมือด้านกลาโหมกับพันธมิตรในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก
นอกเหนือจากการป้องกันและความมั่นคงระดับโลกแล้ว ทั้งสองประเทศยังได้วางกรอบกิจกรรมในด้านความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า และสิ่งแวดล้อม ความร่วมมือด้านเทคโนโลยี ดิจิทัล และอวกาศ รวมถึงการพัฒนา การศึกษา และความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน
“ในมุมมองของการพัฒนาที่สำคัญเหล่านี้ ประธานาธิบดีไบเดนและประธานาธิบดียุนจึงส่งสารที่หนักแน่นไปยังประชาคมโลกว่าสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้จะยืนหยัดเคียงข้างกันเพื่อเผชิญกับทุกภัยคุกคามต่อความมั่นคงร่วมกันของทั้งสองประเทศ และยังคงหารืออย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับขั้นตอนต่อไปเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการป้องปรามยิ่งขึ้น” แถลงการณ์ของทำเนียบขาวระบุ
ภาพจาก: ดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส