ฟิจิตรวจสอบข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการสอดแนมของจีน
วอยซ์ออฟอเมริกา
นายซิติเวนี ราบูกา นายกรัฐมนตรีฟิจิ ให้คำมั่นว่าจะสอบสวนหาข้อเท็จจริงว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนสอดแนมผู้นำระดับสูงของประเทศมหาสมุทรแปซิฟิกในขณะเดินทางเยือนประเทศหมู่เกาะฟิจิหรือไม่
นายเดวิด ปานูเอโล ประธานาธิบดีสหพันธรัฐไมโครนีเซีย กล่าวหาต่อสภานิติบัญญัติของประเทศว่าเจ้าหน้าที่ของจีนสะกดรอยตามเขาในฟิจิ นอกจากนี้ นายปานูเอโล ซึ่งวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลจีนอย่างเปิดเผย ยังกล่าวหาว่าสาธารณรัฐประชาชนจีนติดสินบนนักการเมืองท้องถิ่นและละเมิดอำนาจอธิปไตยของไมโครนีเซีย
ข้อกล่าวหาเรื่องการสอดแนมในฟิจิไม่ได้รับการพิสูจน์แม้ว่าจะได้รับการพิจารณาอย่างจริงจัง นายราบูกา กล่าวกับรายการเดอะแปซิฟิกของออสเตรเลียน บรอดแคสติง คอร์ปอเรชัน “สำหรับบางคนที่รู้สึกว่าถูกคุกคามโดยอำนาจอื่นขณะอยู่ภายใต้การปกครองของฟิจิ นี่เป็นการหยามเกียรติกันอย่างมาก” นายราบูกากล่าว “ดังนั้น เราต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นจริง และหากเกิดขึ้นจริง เราจะจัดการกับมันอย่างไร”
นายราบูกา (ภาพ) ได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของฟิจิเป็นวาระที่ 3 ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2565 นายราบูกาเป็นผู้นำการรัฐประหาร 2 ครั้งใน พ.ศ. 2530 และเป็นผู้นำประเทศในช่วงทศวรรษ 1990 (พ.ศ. 2533-2542)
เจ้าหน้าที่ของจีนยังไม่ตอบสนองต่อข้อกล่าวหาดังกล่าว
นายราบูกาเดินหน้าเปลี่ยนแปลงสถานะทางการทูตอย่างค่อยเป็นค่อยไปจากรัฐบาลจีน แม้ว่าฟิจิและจีนจะมีข้อตกลงด้านการรักษาความปลอดภัยและการวางนโยบายมานานกว่าทศวรรษก็ตามที ในช่วงต้น พ.ศ. 2566 นายกรัฐมนตรีฟิจิได้ยกเลิกการบังคับใช้กฎหมายสำคัญที่สอดคล้องกับจีน เนื่องจากความแตกต่างในระบบกฎหมายของประเทศ
ใน พ.ศ. 2565 จีนลงนามในข้อตกลงด้านความมั่นคงกับหมู่เกาะโซโลมอน ซึ่งเป็นเกาะที่ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ทางตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรเลีย ในปีต่อมา จีนไม่สามารถโน้มน้าวประเทศในหมู่เกาะแปซิฟิกอื่น ๆ ให้เข้าร่วมข้อตกลงที่กว้างขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ออสเตรเลียและพันธมิตรยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับความทะเยอทะยานทางทหารและการทูตที่เพิ่มขึ้นของรัฐบาลจีนในแปซิฟิกใต้
ภาพจาก: เก็ตตี้