ผู้บัญชาการกองบัญชาการสหรัฐฯ ประจำภาคพื้นอินโดแปซิฟิก: สหรัฐฯ จะปกป้องเสรีภาพในอินโดแปซิฟิก

ดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส

พล.ร.อ. จอห์น อาควิลิโน (ภาพ) ผู้บัญชาการกองบัญชาการสหรัฐฯ ประจำภาคพื้นอินโดแปซิฟิก กล่าวในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2566 ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ได้มุ่งที่จะควบคุมสาธารณรัฐประชาชนจีนหรือแสวงหาความขัดแย้งในภูมิภาค แต่จะดำเนินการเพื่อสนับสนุนภูมิภาคในการต่อต้านการบีบบังคับและการกลั่นแกล้งโดยประเทศที่ปกครองด้วยระบอบเผด็จการ

ขณะกล่าวบรรยายในสิงคโปร์ พล.ร.อ. อาควิลิโนกล่าวว่า ยุคโลกาภิวัตน์ได้พัฒนากลายเป็นหนึ่งใน “การแข่งขันของมหาอำนาจที่กลับมาดำเนินต่ออีกครั้ง” ซึ่งสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงมีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน

“ความกังวลของผมคือ รากฐานของระเบียบที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของกติกานี้ … กำลังอยู่ภายใต้การโจมตีโดยตรงจากประเทศที่ปกครองด้วยระบอบเผด็จการ” พล.ร.อ. อาควิลิโนกล่าว โดยไม่ได้เอ่ยถึงชื่อประเทศใด แต่เขาได้ตั้งข้อสังเกตถึงการกระทำของจีนเมื่อเร็ว ๆ นี้ที่ “ลงหลักปักฐาน” ในหมู่เกาะโซโลมอน

การเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงระหว่างจีนและหมู่เกาะโซโลมอนเมื่อหนึ่งปีที่ผ่านมาก่อให้เกิดความกังวลทั่วแปซิฟิกใต้ โดยหลายฝ่ายกังวลว่าอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการสะสมกำลังทางทหารขนาดใหญ่ได้

พล.ร.อ. อาควิลิโนยังได้กล่าวถึงการประท้วงของจีนต่อเรือและอากาศยานของสหรัฐฯ ในช่องแคบไต้หวัน ซึ่งเป็นที่ที่รัฐบาลจีนยังคงดำเนินการสร้างภัยคุกคามต่อไต้หวัน โดยจีนมองว่าไต้หวันเป็นอาณาเขตของตน และยังข่มขู่ว่าจะนำไต้หวันมาไว้ภายใต้การปกครองของตนโดยใช้กำลังหากจำเป็น

ในขณะที่สหรัฐฯ ไม่ได้แสวงหาความขัดแย้งหรือสนับสนุนอิสรภาพของไต้หวัน พล.ร.อ. อาควิลิโนกล่าวว่า กองทัพจะยังคง “บิน ล่องเรือ และปฏิบัติการ” ในภูมิภาคต่อไปเพื่อรักษาเสรีภาพในการเดินเรือภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ

“มหาอำนาจลัทธิแก้กฎเกณฑ์พยายามที่จะขัดขวางและทำลายระบบปัจจุบัน ในรูปแบบที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและแลกมาด้วยความสูญเสียของผู้อื่นทั้งหมด พวกเขาใช้การบีบบังคับและการข่มขู่เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของตนเอง และพวกเขาสร้างความชอบธรรมให้กับการกระทำของตนเองภายใต้ทฤษฎีที่ว่า “อำนาจเท่ากับความถูกต้อง” พล.ร.อ. อาควิลิโนกล่าว

“พวกเขาอ้างสิทธิ์ในดินแดนมากเกินไปอย่างผิดกฎหมาย โดยไม่ได้ตั้งอยู่บนหลักการใดนอกจากประวัติศาสตร์ของประเทศจอมแก้กฎเกณฑ์นั้นเอง พวกเขาให้อำนาจแก่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการก่อกวนประเทศที่ดำเนินงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษของตนเอง พวกเขาละเมิดพันธสัญญาอย่างเป็นทางการ พวกเขาเพิกเฉยต่อคำตัดสินทางกฎหมายระหว่างประเทศ พวกเขาหลีกเลี่ยงข้อกำหนดที่ดำเนินการภายใต้กฎบัตรสหประชาชาติ” พล.ร.อ. อาควิลิโนกล่าว ซึ่งอ้างถึงการกระทำที่ก้าวร้าวของจีนในทะเลจีนใต้และการบุกรุกของจีนที่เพิ่มขึ้นในเขตป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวัน

พล.ร.อ. อาควิลิโนกล่าวว่า จีนจะมีบทบาทในโลกนี้หากว่าจีนปฏิบัติตามระเบียบที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของกติกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เกี่ยวข้องกับเกาหลีเหนือ

ใน พ.ศ. 2565 รัฐบาลเกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธจำนวน 70 ลูก ซึ่ง พล.ร.อ. อาควิลิโนได้ระบุว่าเป็นจำนวนการยิงขีปนาวุธที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของการกระทำเชิงยั่วยุที่ผ่านมาของรัฐบาลของนายคิม จองอึน พล.ร.อ. อาควิลิโนระบุว่า เกาหลีเหนือได้ทำการยิงขีปนาวุธทิ้งตัวข้ามทวีปหลายชั่วโมงก่อนที่ผู้นำเกาหลีใต้และญี่ปุ่นจะร่วมประชุมกันในการประชุมสุดยอดโตเกียว เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธทิ้งตัวที่ถูกสั่งห้ามหลายลูกในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2566 ซึ่งเป็นการกระทำที่รัฐบาลเกาหลีเหนืออ้างว่าเป็นไปเพื่อตอบสนองต่อการฝึกซ้อมระหว่างกองทัพสาธารณรัฐเกาหลีและสหรัฐฯ นักวิเคราะห์กล่าวว่าการทดสอบดังกล่าว ซึ่งถูกสั่งห้ามโดยมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เป็นส่วนหนึ่งของวัตถุประสงค์ที่ใหญ่กว่าของนายคิม จองอึน ในการขยายคลังแสงของตน

การกระทำของเกาหลีเหนือได้คุกคามเกาหลีใต้และญี่ปุ่น และ “ได้พัฒนาขีดความสามารถในการคุกคามสหรัฐอเมริกาเช่นกัน” พล.ร.อ. อาควิลิโนกล่าว

“นี่เป็นสิ่งที่ทำลายเสถียรภาพ คาดการณ์ไม่ได้ ยังคงดำเนินต่อไป และไม่ชะลอลง” พล.ร.อ. อาควิลิโนกล่าว โดยเสริมว่าศักยภาพของจีนในการช่วยห้ามปรามเกาหลีเหนือไม่ให้กระทำเหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง

ภาพจาก: สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการศึกษายุทธศาสตร์ผ่านทางดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส