สหรัฐฯ หนุนหลังฟิลิปปินส์ในการเรียกร้องให้จีนเคารพกฎหมายทางทะเลระหว่างประเทศ

เรดิโอฟรีเอเชีย
การที่ฟิลิปปินส์ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การถูกสาธารณรัฐประชาชนจีนบุกรุกน่านน้ำอย่างต่อเนื่องได้รับเสียงสนับสนุนจากประเทศพันธมิตรอย่างสหรัฐอเมริกา ที่ได้วิจารณ์อย่างดุเดือดถึงเรือจีน “ที่จับกลุ่มเพิ่มขึ้น” ใกล้กับแนวปะการังไอโรเควียสและสันดอนซาบินาในหมู่เกาะสแปรตลี
เมื่อกลางเดือนธันวาคม พ.ศ. 2565 กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์ซึ่งมีถ้อยคำรุนแรงเรียกร้องให้จีนเคารพจุดยืนของอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเลในทะเลจีนใต้ และข้อผูกพันทางกฎหมายจากคำวินิจฉัยของศาลระหว่างประเทศใน พ.ศ. 2559 ว่าฟิลิปปินส์มีสิทธิทางทะเลในพื้นที่พิพาทดังกล่าว
คำตัดสินดังกล่าวระบุว่าจีนละเมิดอำนาจอธิปไตยของฟิลิปปินส์ในการทำการประมงและสำรวจทรัพยากรภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษของฟิลิปปินส์ในน่านน้ำซึ่งชาวฟิลิปปินส์เรียกว่าทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก (ภาพ: เรือของกองกำลังรักษาชายฝั่งฟิลิปปินส์และจีนทำการลาดตระเวนอยู่ทางตะวันตกของจังหวัดซัมบาเลส ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของฟิลิปปินส์ เมื่อต้นเดือนมีนาคม พ.ศ. 2565)
นอกจากนี้ แถลงการณ์ของสหรัฐฯ ยังตำหนิการที่จีน “ยังคงเพิกเฉยต่อผู้อ้างสิทธิ์ในทะเลจีนใต้รายอื่น ๆ และรัฐต่าง ๆ ที่ดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายในภูมิภาคนี้”
ทั้ง 6 ฝ่าย ได้แก่ บรูไน จีน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และเวียดนาม ต่างอ้างสิทธิ์เหนือส่วนต่าง ๆ ของทะเลจีนใต้ แต่การอ้างสิทธิ์ของรัฐบาลจีนนั้นกินพื้นที่ใหญ่สุดถึงร้อยละ 90 ของทะเล
เมื่อต้นเดือนธันวาคม รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้รายงานว่าเรือของจีน “จับกลุ่ม” อยู่ใกล้กับแนวปะการังไอโรเควียสและสันดอนซาบินาในทะเลจีนใต้
แม้ว่าแนวปะการังไอโรเควียสและสันดอนซาบินาจะอยู่ภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษของฟิลิปปินส์ แต่ก็ถูกจีนอ้างสิทธิ์ด้วยเช่นกัน
สถานทูตจีนประจำกรุงมะนิลาได้ปฏิเสธ “ข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริง” ของกระทรวงการต่างประเทศ โดยชี้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะ “จุดชนวนปัญหาและผลักดันให้เกิดความขัดแย้งระหว่างจีนและฟิลิปปินส์”
นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในเดือนมิถุนายน นายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ กล่าวย้ำหลายครั้งว่า รัฐบาลของเขาจะยึดตามคำตัดสินของศาลใน พ.ศ. 2559 ที่ตัดสินให้การอ้างสิทธิ์ทั้งหมดของจีนในทะเลจีนใต้เป็นโมฆะ
ภายใต้การบริหารของนายมาร์กอส รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ยกระดับการประท้วงทางการทูตต่อการบุกรุกบ่อยครั้งของรัฐบาลจีนในทะเลจีนใต้
เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2565 รัฐบาลฟิลิปปินส์กล่าวหาว่ากองกำลังรักษาชายฝั่งของจีนได้ใช้กำลังเข้ายึดเศษซากจรวดที่เรือของกองกำลังรักษาชายฝั่งฟิลิปปินส์เก็บกู้ได้ในหมู่เกาะสแปรตลี
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ในการดูแลของรัฐบาลฟิลิปปินส์ และวุฒิสภาฟิลิปปินส์ได้ลงมติประณามการกระทำของจีนเมื่อกลางเดือนธันวาคม
แถลงการณ์ของสหรัฐฯ ระบุว่า “เราเข้าใจความกังวลของฟิลิปปินส์เกี่ยวกับการเผชิญหน้าที่ไม่ปลอดภัยที่กองกำลังรักษาชายฝั่งของจีนเป็นผู้ริเริ่มกับกองกำลังของกองทัพเรือฟิลิปปินส์ในทะเลจีนใต้ ตามที่มีการบันทึกไว้ต่อหน้าวุฒิสภาฟิลิปปินส์”
“สหรัฐฯ ยืนหยัดเคียงข้างฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นพันธมิตรของเรา ในการยึดถือระเบียบระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของกติกาและเสรีภาพในการเดินเรือในทะเลจีนใต้ตามที่กฎหมายระหว่างประเทศรับรอง” แถลงการณ์ดังกล่าวระบุ
สหรัฐฯ มีสนธิสัญญาป้องกันกับฟิลิปปินส์มาอย่างยาวนาน
แนวปะการังไอโรเควียสตั้งอยู่ทางตอนใต้ของรีดแบงก์ซึ่งฟิลิปปินส์มีสัญญาให้บริการสำรวจน้ำมันและก๊าซ แต่กิจกรรมเหล่านี้ถูกขัดขวางโดยจีน
ในเหตุการณ์ที่ได้ชื่อว่าเหตุการณ์รีดแบงก์ใน พ.ศ. 2562 เรือประมงฟิลิปปินส์ซึ่งทอดสมออยู่ในเขตน้ำตื้นบริเวณแนวปะการังไอโรเควียสถูกเรือของจีนชนและทำให้จมลง รัฐบาลฟิลิปปินส์ยื่นเรื่องประท้วงทางการทูตแต่รัฐบาลจีนปฏิเสธ โดยเรียกเหตุการณ์นี้ว่าเป็น “อุบัติเหตุทางทะเลธรรมดา” จีนได้กล่าวขอโทษในเวลาต่อมา
ภาพจาก: ดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส/กองกำลังรักษาชายฝั่งฟิลิปปินส์