จีนพิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่า “มิตรภาพ” ของตนนั้นมีข้อจำกัด
เจ้าหน้าที่ ฟอรัม
เมื่อหลายปีก่อน สาธารณรัฐประชาชนจีนได้ให้สัญญากับยูเครนและองค์การสหประชาชาติว่าจะดำเนินการกับประเทศใด ๆ ก็ตามที่ใช้หรือขู่ว่าจะใช้อาวุธนิวเคลียร์กับยูเครน อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือระหว่างจีนและรัสเซียกลับสวนทางกับคำมั่นสัญญาดังกล่าวและก่อให้เกิดคำถามถึงคำมั่นสัญญาระหว่างประเทศอื่น ๆ ที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ให้ไว้
คำพูดของผู้นำจีนไม่ได้สะท้อนถึงการกระทำของคนเหล่านั้นเสมอไป สงครามในยูเครนซึ่งเกิดขึ้นจากการรุกรานโดยไม่มีเหตุยั่วยุของรัสเซียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 “เป็นสัญญาณเตือนภัยต่อมนุษยชาติ” นายสี จิ้นผิง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน กล่าวเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2565 ในระหว่างการพบปะกับนายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เมื่อช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2565 นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้รับรองคำมั่นสัญญาของรัฐบาลรัสเซียว่าจะไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์
แม้รัสเซียได้ข่มขู่อยู่หลายครั้งว่าจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ในสงคราม แต่จีนเองก็ได้กระชับความสัมพันธ์กับรัสเซียในทุกระดับ โดยทำผิดสัญญาที่ว่าจะอยู่เคียงข้างยูเครน
ยูเครนซึ่งเคยเป็นสาธารณรัฐของสหภาพโซเวียตในอดีต เป็นประเทศที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งได้ทำข้อตกลงไปเมื่อ พ.ศ. 2537 ว่าจะมอบคลังอาวุธนิวเคลียร์ให้กับรัสเซียหลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายใน พ.ศ. 2534 ไม่นานหลังจากการปลดอาวุธนิวเคลียร์ของยูเครน จีนได้รับประกันความปลอดภัยของยูเครนในแถลงการณ์ต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ โดยแถลงการณ์ระบุว่า “ข้อพิพาทและความแตกต่างควรยุติอย่างสันติวิธีผ่านการปรึกษาหารือบนพื้นฐานของความเท่าเทียมกัน” และควรยอมรับในอำนาจอธิปไตย เอกราช และบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน จีนยืนยันคำมั่นสัญญาอีกครั้งใน พ.ศ. 2544 และ พ.ศ. 2556
จุดยืนที่ซ้ำซ้อนของจีนต่อสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายหมื่นคน และการฝึกทางทหารที่เพิ่มขึ้นร่วมกับรัสเซียทำให้บางคนตั้งคำถามถึงความเกี่ยวข้องของสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือระหว่างจีนกับยูเครน พ.ศ. 2556 ซึ่งลงนามโดยนายสีและนายวิคเตอร์ ยานูโควิช ประธานาธิบดียูเครนในขณะนั้น นายเกรกอรี คูแลคกี นักวิเคราะห์ปัญหาด้านนิวเคลียร์และจีนที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นสำหรับสหภาพนักวิทยาศาสตร์ที่ไม่แสวงผลกำไร กล่าวกับหนังสือพิมพ์เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัลเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2565 ว่า “เป็นคำมั่นสัญญาของรัฐที่มีอาวุธนิวเคลียร์ว่าจะยืนหยัดต่อสู้เคียงข้างกับรัฐที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งถูกคุกคามโดยรัฐที่มีอาวุธนิวเคลียร์” “นั่นเป็นคำมั่นสัญญาที่มีความหมาย และควรมุ่งประเด็นไปที่จีน”
การตีความข้อตกลงมีความแตกต่างกัน ตามรายงานของนิตยสารเดอะดิโพลแมตระบุว่า “จีนให้คำมั่นอย่างไม่มีข้อแม้ว่าจะไม่ใช้หรือข่มขู่ว่าจะใช้อาวุธนิวเคลียร์กับยูเครนซึ่งไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ และจีนยังให้คำมั่นอีกว่าจะรับประกันความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ของยูเครนเมื่อยูเครนต้องเผชิญกับการรุกรานที่มีการใช้อาวุธนิวเคลียร์ หรือหากยูเครนตกอยู่ภายใต้ภัยคุกคามจากการรุกรานโดยใช้อาวุธนิวเคลียร์”
นายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย สร้างความกังวลหลายต่อหลายครั้งว่าจะใช้อาวุธนิวเคลียร์นับตั้งแต่การรุกราน รวมถึงในช่วงต้นเดือนตุลาคม พ.ศ. 2565 ตามรายงานของสถาบันวิจัยนโยบายการต่างประเทศและยุทธศาสตร์
แม้ว่ารัฐบาลจีนและรัฐบาลรัสเซียจะไม่ได้เป็นพันธมิตรทางทหารกันอย่างเป็นทางการ แต่ก็ได้ร่วมมือกันในกิจกรรมทางทหารมากขึ้นเรื่อย ๆ นับตั้งแต่การรุกรานครั้งนี้ การฝึกซ้อมร่วมครั้งนี้พยายามแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือขณะที่ทั้งสองประเทศต้องเผชิญกับความตึงเครียดกับตะวันตก
ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2565 รัฐบาลจีนได้ส่งกำลังพลกว่า 2,000 นาย ยานพาหนะ 300 คัน เครื่องบินรบ 21 ลำ และเรือรบ 3 ลำเข้าร่วมการฝึกวอสตอค 2022 ที่รัสเซียเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ตามรายงานของสถาบันกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา เกมสงครามดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงให้เห็นว่ารัสเซียสามารถดำเนินการฝึกซ้อมดังกล่าวได้ในขณะที่ทำสงครามกับยูเครน ตามรายงานของดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส
ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2565 เครื่องบินทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ทู-95 ของรัสเซียและเครื่องบินทิ้งระเบิดนิวเคลียร์เอช-6 เคของจีนจำนวน 4 ลำ บินเหนือทะเลญี่ปุ่นและทะเลจีนตะวันออกเพื่อปฏิบัติภารกิจนานแปดชั่วโมง ตามรายงานของดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส เครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ระยะไกลทำการลงจอดที่ฐานทัพอากาศในทั้งสองประเทศ (ภาพ: เครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ทู-95 ของรัสเซียอยู่ที่ฐานทัพอากาศลับในรัสเซียก่อนลาดตระเวนร่วมกับเครื่องบินทิ้งระเบิดของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน)
ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ได้ส่งเครื่องบินไอพ่นเข้าตรวจสอบเครื่องบินทิ้งระเบิดดังกล่าว ญี่ปุ่นกล่าวถึงจีนและรัสเซียว่า ญี่ปุ่นเองมี “ความกังวลอย่างมาก” เกี่ยวกับการบินร่วมกันรอบอาณาเขตของตน ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เดอะเจแปนไทมส์ “เราจะติดตามความร่วมมือที่เพิ่มขึ้นระหว่างทั้งสองประเทศนี้อย่างใกล้ชิดด้วยความเป็นห่วง” นายฮิโรคาสึ มัตสึโนะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าว
ในขณะที่ระงับการเสนอการสนับสนุนด้านวัตถุต่อสงครามของรัสเซียในยูเครน แต่รัฐบาลจีนก็ปฏิเสธที่จะพูดถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเป็นการรุกราน และได้เร่งซื้อน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน และไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้านนี้ ตามรายงานของรอยเตอร์เมื่อกลางเดือนกันยายน พ.ศ. 2565 การซื้อสิ่งอุปโภคเหล่านี้เป็นจำนวนมากเป็นการหลีกเลี่ยงการจำกัดราคาที่กำหนดโดยกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศโดยการใช้สกุลเงินของรัสเซียและจีน ซึ่งจะช่วยให้รัสเซียสามารถทำสงครามกับยูเครนต่อไปได้
ในทำนองเดียวกัน จีนก็ได้รับการคุ้มกันในการตอบโต้เหตุการณ์ที่รัสเซียผนวกคาบสมุทรไครเมียของยูเครนเมื่อ พ.ศ. 2557
แม้ว่าจีนจะให้คำมั่นสัญญาตามกฎหมายต่อยูเครน แต่จีนก็ยังขัดขวางการตอบโต้ขององค์การสหประชาชาติและกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับรัสเซีย นอกเหนือจากการฝึกซ้อมทางทหารร่วมกัน ตามรายงานของกองบัญชาการสหรัฐฯ ประจำภาคพื้นอินโดแปซิฟิก การกระทำและการเพิกเฉยดังกล่าวละเมิดคำมั่นสัญญาทางกฎหมายของจีนต่อยูเครนและองค์การสหประชาชาติ ไม่เคารพกฎหมายระหว่างประเทศ บ่อนทำลายอำนาจของสหประชาชาติ กัดกร่อนระเบียบระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของกติกา และก่อให้เกิดการรุกรานของรัสเซียต่อไป
ผู้สังเกตการณ์ได้ตั้งข้อสังเกตถึงเหตุการณ์ที่ขนานกันระหว่างการรุกรานยูเครนของรัสเซียและการอ้างสิทธิ์ในไต้หวันของจีน นอกจากนี้ การทูตและการดำเนินการที่ไม่สอดคล้องกันของจีนกำลังทำให้ภูมิภาคนี้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่อาจไม่ใช่ผลประโยชน์ของรัฐบาลจีน
ภาพจาก: ดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส