เกาหลีเหนือถูกประณามสำหรับความเสี่ยงภัยจากขีปนาวุธ

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม
ประเทศที่มีแนวคิดเดียวกันทั่วโลกต่างประณามการทดลองยิงขีปนาวุธจำนวนมากอย่างไม่เคยมีมาก่อนของเกาหลีเหนือใน พ.ศ. 2565 โดยมีหลายประเทศแสดงความไม่เห็นด้วยต่อหน้าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และยังได้ประณามสมาชิกถาวรจากรัสเซียและสาธารณรัฐประชาชนจีนที่ไม่ยอมส่งเสริมมาตรการคว่ำบาตรที่อาจทำให้การทดสอบสิ้นสุดลง องค์การสหประชาชาติยังได้ตั้งคำถามว่ารัฐบาลเกาหลีเหนือได้มาซึ่งวัสดุและความเชี่ยวชาญในการปล่อยขีปนาวุธมาจากที่ใด แม้ว่าจะมีข้อห้ามมาอย่างยาวนาน
การทดสอบดังกล่าวยังละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ตามรายงานของนายอันโตนิอู กุแตเรช เลขาธิการสหประชาชาติ ซึ่งวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงเกี่ยวกับ “การระดมยิง” ขีปนาวุธตลอดช่วงสองวันก่อนหน้านี้ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ตามข่าวประชาสัมพันธ์ขององค์การสหประชาชาติ นายกุแตเรชเรียกร้องให้เกาหลีเหนือยุติการกระทำอันไม่ยั้งคิดและปฏิบัติตามมติ (ภาพ:
นายยุน ซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ (ซ้าย) นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ (กลาง) และนายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น (ขวา) ร่วมประชุมกันนอกรอบการประชุมสุดยอดอาเซียน เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
ขีปนาวุธทิ้งตัวลูกหนึ่งจากทั้งหมด 23 ลูกที่ยิงภายในวันเดียวในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนตกลงในระยะประมาณ 60 กิโลเมตรนอกชายฝั่งเกาหลีใต้ ตามรายงานของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้กล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกที่ขีปนาวุธทิ้งตัวตกลงใกล้กับน่านน้ำอาณาเขตของเกาหลีใต้นับตั้งแต่คาบสมุทรเกาหลีถูกแบ่งแยกออกจากกัน
รัฐบาลเกาหลีเหนืออ้างว่าการยกระดับการทดสอบขีปนาวุธของตนเป็นการตอบสนองต่อวิจิแลนท์สตอร์ม ซึ่งเป็นชุดการฝึกทางทหารที่เกี่ยวข้องกับอากาศยานหลายร้อยลำจากเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาที่ดำเนิน “ภารกิจทางอากาศที่สำคัญ เช่น การสนับสนุนทางอากาศระยะประชิด การตอบโต้เชิงตั้งรับ และปฏิบัติการทางอากาศฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงต่อวัน” ตามรายงานของกองทัพอากาศสหรัฐฯ พันธมิตรทั้งสองประเทศกล่าวว่าวิจิจแลนท์สตอร์มเป็นการฝึกตามระยะเวลาที่ไม่ได้คุกคามประเทศใด นักวิเคราะห์กล่าวว่าเกาหลีเหนือยังทดสอบอาวุธเพื่อความชำนาญทางเทคนิค ความพร้อมของลูกเรือ การป้องปราม และการใช้โฆษณาชวนเชื่อ
ในการทดสอบยิงหลายสิบครั้งจนถึงปัจจุบันใน พ.ศ. 2565 มีจำนวนหนึ่งที่เป็นขีปนาวุธทิ้งตัวข้ามทวีป ซึ่งบางลูกก็ล้มเหลวในการทดสอบยิง และมีขีปนาวุธระยะกลางลูกหนึ่งที่ลอยข้ามตอนเหนือของญี่ปุ่นไปในช่วงต้นเดือนตุลาคม ซึ่งทำให้สัญญาณเตือนภัยดังขึ้นและบังคับให้ประชาชนต้องเร่งรีบหลบหนีไปยังที่หลบภัย ตามรายงานของศูนย์ยุทธศาสตร์และนานาชาติศึกษา
ข้อกังวลที่สำคัญคือเกาหลีเหนือกำลังวางแผนที่จะทดสอบยิงอุปกรณ์นิวเคลียร์ “การระดมยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุดราวสายฝนของเกาหลีเหนือ ซึ่งรัฐบาลเกาหลีเสแสร้งว่าเป็นการตอบโต้การฝึกซ้อมร่วมของกองทัพสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ อาจส่งสัญญาณบอกถึงการพัฒนาที่เป็นลางไม่ดีมากขึ้นโดยประเทศที่ติดอาวุธนิวเคลียร์ เช่น ความก้าวหน้าด้านอาวุธที่สามารถบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ได้หลายหัว” ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เดอะเจแปนไทมส์
ที่การประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นการประชุมช่วงที่ 9 ของคณะกรรมการองค์การสหประชาชาติใน พ.ศ. 2565 ที่พิจารณาเรื่องการกระทำของเกาหลีเหนือ โดยมีประเทศสมาชิก 13 จาก 15 ประเทศที่สนับสนุนการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือผู้เป็นอันธพาล ทั้ง 13 ประเทศนั้นวิพากษ์วิจารณ์รัสเซียและจีนที่พยายามแก้ตัวให้กับการละเมิดกฎกติกาซ้ำแล้วซ้ำเล่าของเกาหลีเหนือ นางรุจิระ คัมโบจ ผู้แทนอินเดียในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เป็นหนึ่งในผู้ที่เรียกร้องให้มีการดำเนินการตามมติอย่างเต็มที่ และเน้นย้ำถึงความสำคัญของการแก้ปัญหาเรื่องการแพร่ขยายเทคโนโลยีนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ โดยบ่งชี้ถึงอันตรายต่อสันติภาพและความมั่นคงในอินโดแปซิฟิก
ออสเตรเลีย สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ และเกาหลีใต้ และสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติรวมทั้งหมด 13 ประเทศยังได้ประณามการยิงขีปนาวุธอีกด้วย
มติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติผ่านเมื่อ พ.ศ. 2549 และต่อมาได้มีการปรับปรุงแก้ไขมติดังกล่าวให้ห้ามประเทศสมาชิกองค์การสหประชาชาติจัดหา จำหน่าย หรือถ่ายโอนขีปนาวุธทิ้งตัว หรือขีปนาวุธนิวเคลียร์ หรืออาวุธอานุภาพทำลายล้างสูงอื่น ๆ ไปยังเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ ห้ามไม่ให้วัสดุที่เกี่ยวข้องกับอาวุธที่จะมุ่งหน้าไปเกาหลีเหนือผ่านอาณาเขตของประเทศสมาชิก จัดซื้อโดยพลเมืองของตน หรือขนส่งบนเรือหรืออากาศยานที่ติดธงของประเทศนั้น ๆ
ประเทศต่าง ๆ รวมทั้งออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ ได้กำหนดมาตรคว่ำบาตรเพิ่มเติม
นักวิเคราะห์กล่าวโทษประเทศเพื่อนบ้านของเกาหลีเหนือที่ช่วยเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร “รัสเซียและจีนเป็นที่ที่มีตัวแทนจัดหาขีปนาวุธทิ้งตัวให้เกาหลีเหนือจากต่างประเทศอยู่มากที่สุด” นายฮิวจ์ กริฟฟิธส์ อดีตผู้ประสานงานของคณะกรรมการองค์การสหประชาชาติที่ติดตามมาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือ กล่าวกับรอยเตอร์ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2565
ในขณะเดียวกัน พลเมืองเกาหลีเหนือจำนวนมากยังคงขาดแคลนอาหารและสิ่งจำเป็นอื่น ๆ ในขณะที่รัฐบาลมุ่งเน้นไปที่การเสริมคลังแสงของตนเอง นายโมฮาเหม็ด อาบูชาฮับ ผู้แทนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่าพฤติกรรมของรัฐบาลเกาหลีเหนือไม่มีความรับผิดชอบ และแสดงความเสียใจที่ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดของประเทศถูกนำไปใช้กับขีดความสามารถทางทหาร แทนที่จะใช้เพื่อความจำเป็นด้านมนุษยธรรมที่เร่งด่วน
ภาพจาก: ดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส