ข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ และอาเซียนเพื่อแก้ไข “ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในยุคสมัยของเรา” ประธานาธิบดีไบเดนกล่าว

รอยเตอร์

เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2565 หัวหน้ารัฐบาลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้จัดการเจรจากับผู้นำระดับโลกหลายรายที่เดินทางมาเยือน รวมทั้งนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้กล่าวชื่นชมการเปิดตัวข้อตกลงว่าด้วยการรวมตัวกันของสหรัฐอเมริกาและสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนว่า เป็นก้าวสำคัญในการรับมือกับ “ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในยุคสมัยของเรา”

ในการมาเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครั้งแรกนับตั้งแต่รับตำแหน่งในเดือนมกราคม พ.ศ. 2564 นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า ภูมิภาคนี้เป็นหัวใจสำคัญของยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิกของคณะบริหารของเขา และไม่ใช่เพียงการใช้ถ้อยคำโน้มน้าว แต่รัฐบาลสหรัฐฯ ยังกำลังมุ่งมั่นใช้ทรัพยากรเพื่อดำเนินการภายใต้ความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุม

“เราจะร่วมมือกันรับมือกับปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในยุคสมัยของเรา ตั้งแต่สภาพภูมิอากาศไปจนถึงความมั่นคงด้านสุขภาพ ทั้งนี้เพื่อป้องกันภัยคุกคามที่ร้ายแรงต่อระเบียบที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของกติกา” นายไบเดนกล่าวเปิดประชุมในกัมพูชากับผู้นำอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ (ภาพ: ผู้นำประเทศต่าง ๆ แสดงท่าทางต่าง ๆ ขณะร่วมกันถ่ายภาพระหว่างประชุมสุดยอดอาเซียนและสหรัฐฯ ในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2565)

“เราจะสร้างอินโดแปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง มั่งคงและเจริญรุ่งเรือง และยืดหยุ่นและมั่นคง” ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวเสริม

งานนี้เป็นงานแรกในชุดการประชุมสุดยอดนานหนึ่งสัปดาห์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งคาดว่าจะหารือปัญหาระดับโลก รวมถึงสงครามในยูเครน การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และความตึงเครียดในระดับภูมิภาคต่อช่องแคบไต้หวัน ทะเลจีนใต้ และการทดสอบยิ่งขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ นายแอนโธนี อัลบานีส นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และนายยุน ซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ก็เข้าร่วมด้วย

นายยุนได้เสนอกลไกเพื่อการเจรจากับญี่ปุ่นและจีนเพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์ต่าง ๆ เช่น ผลกระทบของสงครามที่มีต่อความมั่นคงด้านอาหารและพลังงาน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

นายยุนและนายคิชิดะยังได้วิพากย์วิจารณ์ความพยายามของเกาหลีเหนือในการเสริมขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์และขีปนาวุธ โดยกล่าวว่านี่เป็นภัยคุกคามที่รุนแรงและยอมรับไม่ได้

ในการพูดคุยแลกเปลี่ยนแยกต่างหากกับนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน นายคิชิดะกล่าวว่า ญี่ปุ่นและจีนควรมุ่งมั่นที่จะพยายามบรรลุการสร้างความสัมพันธ์ “เชิงสร้างสรรค์และมั่นคง”

ผู้นำอาเซียนยังออก “คำเตือน” ถึงรัฐบาลทหารเมียนมาที่เป็นประเทศสมาชิก ซึ่งถูกกีดกันไม่ให้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดนี้ โดยเตือนให้ดำเนินให้เกิดความคืบหน้าที่สามารถวัดผลได้ต่อแผนสันติภาพหลังจากที่ยึดอำนาจด้วยการรัฐประหารเป็นเวลาเกือบสองปี

ภาพจาก: รอยเตอร์