มองภูมิภาคอินโดแปซิฟิกแผนก

แข็งแกร่งขึ้น ไปด้วยกัน

รั ฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นในขณะนั้นกล่าวก่อนการเจรจาระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของทั้งสองประเทศในช่วงต้นปี พ.ศ. 2565 ว่า ฝรั่งเศสและญี่ปุ่นต้องเผชิญกับความท้าทายด้านความมั่นคงร่วมกันในภูมิภาคอินโดแปซิฟิกที่จะมีแต่ “ยากลำบากยิ่งขึ้น”

การเจรจาระหว่างรัฐบาลญี่ปุ่นและรัฐบาลฝรั่งเศสเกิดขึ้นขณะที่ญี่ปุ่นผลักดันเพื่อเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงกับพันธมิตรชาติตะวันตก เนื่องจากญี่ปุ่นเองก็กำลังเผชิญกับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากสาธารณรัฐประชาชนจีนและการพัฒนาขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ

ฝรั่งเศสมีดินแดนโพ้นทะเลในภูมิภาคอินโดแปซิฟิกและยังมีกองทัพประจำการอยู่ในภูมิภาคนี้ ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับไต้หวันที่เป็นประชาธิปไตยและการที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนยืนหยัดในอำนาจอธิปไตยนั้น ได้เน้นหนักไปยังบทบาทด้านความมั่นคงของญี่ปุ่น การทดสอบอาวุธอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วของเกาหลีเหนือเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2565 ก่อให้เกิดความกังวลมากยิ่งขึ้น

นายโนบุโอะ คิชิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นในขณะนั้น กล่าวว่า “ความพยายามแต่เพียงฝ่ายเดียวในการเปลี่ยนแปลงสถานะโดยใช้กองกำลังยังคงดำเนินอยู่จนถึงปัจจุบันในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก และสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงโดยรอบญี่ปุ่นและฝรั่งเศสเองก็เริ่มมีความตึงเครียดและสั่นคลอนแล้ว” นายคิชิและนายโยชิมาสะ ฮายาชิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ได้พบปะหารือกับพันธมิตรฝรั่งเศส ซึ่งมีนายฌอง-อีฟส์ เลอ ดริอ็อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศสในขณะนั้น และนางฟลอร็องซ์ ปาร์ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมฝรั่งเศสในขณะนั้น ผ่านการประชุมทางวิดีโอ (ในภาพ)

แถลงการณ์ระบุว่า ทั้งสองประเทศตกลงที่จะเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงและเพิ่มพูนความร่วมมือทวิภาคีในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก “รัฐมนตรีทั้งสี่ท่านต่างกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ในทะเลจีนใต้และทะเลจีนตะวันออก และเห็นพ้องต้องกันว่าจะคัดค้านความพยายามแต่เพียงฝ่ายเดียวในการเปลี่ยนแปลงสถานะโดยใช้กองกำลัง” แถลงการณ์ดังกล่าวระบุ “อีกทั้งยังยืนยันถึงความสำคัญของสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน และเห็นพ้องที่จะกระตุ้นให้ฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาระหว่างช่องแคบนี้อย่างสันติ”

ญี่ปุ่นและฝรั่งเศสได้บรรลุข้อตกลงด้านความมั่นคงสำคัญหลายประการ รวมทั้งข้อตกลงเกี่ยวกับการถ่ายโอนยุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีทางกลาโหม อีกทั้งยังได้เพิ่มการฝึกซ้อมทางทหารร่วมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาด้วย รอยเตอร์

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button