ความร่วมมือติดอันดับปัญหาหลักระดับภูมิภาคอินโดแปซิฟิกเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เหล่าพันธมิตรในอินโดแปซิฟิกเสริมความพร้อมท่ามกลางภัยคุกคามระดับภูมิภาค

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม

การฝึกซ้อมทางทหารพร้อมกันซึ่งประกอบด้วยประเทศที่เป็นแนวร่วมและพันธมิตรกันมาอย่างยาวนาน ได้แก่ ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกา จัดขึ้นในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2565 ท่ามกลางการเคลื่อนไหวอย่างอุกอาจของสาธารณรัฐประชาชนจีนในทะเลจีนใต้และช่องแคบไต้หวัน รวมถึงการเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนือในทะเลญี่ปุ่นและมหาสมุทรแปซิฟิก

การฝึกซ้อมเรโซลูท ดรากอน 22 ในฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น และการฝึกกะมันดัก 6 ในลูซอน จังหวัดบาตาเนสและปาลาวันในประเทศฟิลิปปินส์ ได้รวบรวมกำลังพลและผู้สังเกตการณ์กว่า 5,500 คนในช่วงครึ่งแรกของเดือน การฝึกซ้อมดังกล่าวช่วยยกระดับการทำงานร่วมกันและจัดเตรียมกองกำลังร่วมเพื่อจัดการกับความท้าทายในระดับภูมิภาค รวมถึงการให้ความช่วยเหลือด้านการป้องกันชายฝั่งและด้านมนุษยธรรม

การฝึกซ้อมเรโซลูท ดรากอน 22 ใช้เวลาสองสัปดาห์และมีผู้เข้าร่วมคือสมาชิกของกองกำลังป้องกันตนเองภาคพื้นดินญี่ปุ่น 1,400 นายจากกองพลที่ 2 กองทัพบกภาคเหนือ และนาวิกโยธินสหรัฐฯ 1,600 นายจากกองกำลังสำรวจทางทะเลที่ 3 ในเมืองโอกินาวะ ประเทศญี่ปุ่น การจัดการฝึกซ้อมครั้งที่สองนี้ประกอบด้วยการบังคับบัญชาและการควบคุมแบบบูรณาการด้วยการฝึกเกี่ยวกับการกำหนดเป้าหมาย กองทัพผสม และการซ้อมรบในหลายมิติ

“ปัจจุบันนี้สภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงโดยรอบญี่ปุ่นมีความแปรปรวนมากขึ้น จึงจำเป็นต้องทำให้พันธมิตรญี่ปุ่นและสหรัฐฯ มีขีดความสามารถในการยับยั้งและตอบโต้ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น” พล.อ. ยูอิจิ โทงาชิ ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันตนเองภาคพื้นดินญี่ปุ่นแห่งกองพลที่ 2 กล่าว ตามข่าวประชาสัมพันธ์ของนาวิกโยธินสหรัฐฯ “ผมหวังว่าจากการฝึกครั้งนี้ กองกำลังญี่ปุ่นและสหรัฐฯ จะเข้าใจซึ่งกันและกันอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น พัฒนาทักษะทางยุทธวิธีและขีดความสามารถในการตอบโต้ร่วมไปจนถึงระดับปฏิบัติการ ตลอดจนเสริมสร้างความเป็นพันธมิตรระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ต่อไป”

การทดสอบยิงขีปนาวุธติดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือซึ่งบินเข้ามาในน่านฟ้าญี่ปุ่นไม่กี่วันหลังจากที่เริ่มการฝึกซ้อมเรโซลูท ดรากอน 22 ยิ่งตอกย้ำความจำเป็นของการเตรียมความพร้อม

สำหรับการฝึกกะมันดัก นาวิกโยธินฟิลิปปินส์ 530 นายและนาวิกโยธินสหรัฐฯ 1,900 นายได้ฝึกร่วมกันเป็นเวลา 12 วัน พร้อมกับทหารจากกองทัพเรือและกองทัพอากาศฟิลิปปินส์ประมาณ 100 นาย กองกำลังสะเทินน้ำสะเทินบกเคลื่อนที่เร็วของกองกำลังป้องกันตนเองภาคพื้นดินญี่ปุ่น และนาวิกโยธินสาธารณรัฐเกาหลีก็เข้าร่วมบางการฝึกในการฝึกซ้อมครั้งนี้ การฝึกซ้อมประจำปีครั้งที่หกจะเน้นไปที่ปฏิบัติการสะเทินน้ำสะเทินบก ปฏิบัติการพิเศษ ความมั่นคงทางทะเล การป้องกันชายฝั่ง ตลอดจนความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ ข่าวประชาสัมพันธ์ดังกล่าวระบุว่า การฝึกซ้อมรบด้วยกระสุนจริงร่วมกันมีการใช้อากาศยานและระบบเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง (ภาพ: นาวิกโยธินฟิลิปปินส์ให้การคุ้มกันระหว่างการฝึกซ้อมที่เมืองคลาเวเรีย ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกกะมันดัก 6 เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2565)

กะมันดักเป็นคำย่อที่มาจากวลีในภาษาฟิลิปปินส์ที่แปลว่า “ความร่วมมือของเหล่านักรบแห่งท้องทะเล” ตามรายงานของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ

“ผมหวังว่าเราจะยืนหยัดร่วมกันในฐานะแนวร่วมและพันธมิตรต่อไป ด้วยความมุ่งมั่นที่จะรักษาค่านิยมและหลักการแห่งเสรีภาพ ประชาธิปไตย รวมไปถึงระเบียบที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของกติกาในอินโดแปซิฟิก” พล.ร.ต. ซีซาร์ เบอร์นาร์ด วาเลนเซีย ผู้บัญชาการกองทัพเรือฟิลิปปินส์ กล่าว ตามรายงานของเรดิโอฟรีเอเชีย

ผู้นำฟิลิปปินส์และสหรัฐฯ ได้ร่วมกันย้ำถึงความมุ่งมั่นที่มีต่อความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีไม่กี่วันก่อนเริ่มการฝึกกะมันดัก 6 นายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ได้พบปะนอกรอบกับนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระหว่างการประชุมสมัชชาสหประชาชาติที่นิวยอร์กเมื่อกลางเดือนกันยายน พ.ศ. 2565 เพื่อหารือเกี่ยวกับการเสริมสร้างพันธมิตร รวมถึงหัวข้ออื่น ๆ ในสัปดาห์ต่อมา นายโฮเซ เฟาส์ติโน จูเนียร์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมฟิลิปปินส์ ได้หารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่มั่นคงของทั้งสองชาติร่วมกับนายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ในรัฐฮาวายระหว่างการประชุมแบบตัวต่อตัวครั้งแรกของทั้งสองฝ่าย

นายไบเดนกล่าวว่าสนธิสัญญาป้องกันร่วมกันของทั้งสองประเทศที่มีอายุถึง 71 ปีนั้น “แข็งแกร่งมาก”

กองบัญชาการนาวิกโยธินที่ 3 ในโอกินาวะทำหน้าที่เป็นศูนย์บัญชาการและควบคุมให้กับกองกำลังสหรัฐฯ ในระหว่างการฝึกทั้งสองครั้ง โดยให้คำปรึกษากับกองบัญชาการสหรัฐฯ ประจำภาคพื้นอินโดแปซิฟิกเกี่ยวกับการทำงานในฐานะกองกำลังเฉพาะกิจร่วม

“การฝึกซ้อมเรโซลูทดรากอนและกะมันดักเป็นโอกาสสำคัญในการเสริมสร้างขีดความสามารถการป้องกันจากความเป็นพันธมิตรของเรากับญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์ ผ่านการฝึกร่วมในสถานการณ์จริง” พล.ร.ต. เจย์ บาร์เจอรอน ผู้บัญชาการกองบัญชาการนาวิกโยธินที่ 3 กล่าวในข่าวประชาสัมพันธ์ “การฝึกซ้อมเหล่านี้จะช่วยให้กองกำลังของเราเสริมสร้างการทำงานร่วมกันและเสริมความพร้อมเพื่อให้แน่ใจว่าเราพร้อมรับมือกับวิกฤตทั่วทั้งอินโดแปซิฟิกได้อย่างรวดเร็ว”

การฝึกซ้อมและการอภิปรายในระดับสูงนี้จัดขึ้นในขณะที่ข้อกังวลเกี่ยวกับการกระทำที่อุกอาจของเกาหลีเหนือและจีนเพิ่มขึ้น พรรคคอมมิวนิสต์จีนอ้างสิทธิ์ในพื้นที่ส่วนใหญ่ในทะเลจีนใต้ว่าเป็นของตน ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีความสำคัญต่อความมั่นคงและการค้าระหว่างประเทศ ทั้ง ๆ ที่ขัดแย้งกับการอ้างสิทธิ์ยืนยันดินแดนของบรูไน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และเวียดนาม พรรคคอมมิวนิสต์จีนยังคงยืนยันว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน และข่มขู่หนักขึ้นว่าจะใช้กำลังเข้ายึดครองไต้หวันซึ่งเป็นเกาะที่ปกครองตนเอง ในขณะเดียวกัน เกาหลีเหนือยังคงดำเนินการสร้างคลังอาวุธนิวเคลียร์และดำเนินการทดสอบขีปนาวุธ ซึ่งเป็นการละเมิดต่อมาตรการคว่ำบาตรขององค์การสหประชาชาติ

“ความแข็งแกร่ง ความแน่วแน่ และความมุ่งมั่นของเราที่มีต่อแนวร่วมและพันธมิตรของเราในภูมิภาคนี้คือการยับยั้งที่มีประสิทธิภาพที่สุดของเรา” น.ท. เคิร์ต สตาห์ล นาวิกโยธินสหรัฐฯ กล่าวกับดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส “เราสามารถร่วมกันยับยั้งไม่ให้ผู้ที่อาจเป็นศัตรูเข้ามาทดสอบความสามารถหรือความสัมพันธ์ของเราได้”

 

ภาพจาก: จ.อ. แดนนี่ กอนซาเลซ/นาวิกโยธินสหรัฐฯ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button