การแก้ปัญหาหลายมิติ แบบเป็นหนึ่งเดียว

กองทัพบกอินเดีย พล.ต. ท. (เกษียณอายุราชการ) เอส บี อัสธานา

ในระหว่างการสนทนากับนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายสี จิ้นผิง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้พยายามสร้างความประทับใจว่าระบบสองขั้วอำนาจนั้นมีอยู่จริง การแสดงท่าทีที่ก้าวร้าวของนายสีในระหว่างการประชุมสุดยอดเสมือนจริงเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2564 นั้นดูเหมือนจะกลับมาอีกครั้งจากอาณัติของเขาที่ไม่มีผู้ใดทักท้วงในการประชุมใหญ่ครั้งที่หกของคณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่ 19 แม้ว่าประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกจะยังคงปรับสมดุลในหมู่ประเทศที่มีระบบระดับโลกแบบขั้วอำนาจเดียว สองขั้วอำนาจ และหลายขั้วอำนาจ โดยจะขึ้นอยู่กับการรับรู้ที่แตกต่างกันของแต่ละประเทศ

หากประชาคมโลกไม่สามารถสร้างการรับมือที่เป็นไปได้ในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทะเล อากาศ อวกาศ หรือพื้นที่ไซเบอร์ได้ รัฐบาลจีนจะใช้เครื่องมือจากอำนาจทั้งหมดทั้งอย่างมีจริยธรรมและไร้จริยธรรมของตน รวมถึงใช้ประโยชน์จากภาวะการระบาดใหญ่ของโควิด-19 เพื่อเป็นมหาอำนาจแต่เพียงผู้เดียวในเวทีโลกและเพื่อสร้างภูมิภาคอินโดแปซิฟิกที่มีจีนเป็นศูนย์กลาง

คำนิยามของภัยคุกคามแบบหลากหลายมิติของจีน

สาธารณรัฐประชาชนจีนได้ใช้ยุทธศาสตร์เพื่อรุกล้ำดินแดนอธิปไตยของประเทศอื่นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนขยายของยุทธศาสตร์ “การป้องกันเชิงรุก” ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งเผยแพร่ในสมุดปกขาวเมื่อ พ.ศ. 2558 ที่เรียกร้องให้กองทัพเรือจีนออกห่างไปจากชายฝั่งของจีน ได้นำไปสู่การสร้างคุณลักษณะทางทะเลเทียมที่แปรสภาพเป็นฐานทัพในอินโดแปซิฟิก ซึ่งได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเสรีภาพในการเดินเรือและท่าทีของกองทัพเรือโดยชาติอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ไม่เพียงพอที่จะป้องปรามพรรคคอมมิวนิสต์จีนจากการขัดขวางคำสั่งตามกฎระเบียบดังกล่าวได้ จีนค่อย ๆ ขยายการอ้างสิทธิอธิปไตยของตนออกไปทีละน้อยตามการตีความทางประวัติศาสตร์เพียงด้านเดียวในทะเลจีนใต้และทะเลจีนตะวันออก ตลอดจนไต้หวันและดินแดนอื่น ๆ การรุกรานที่คล้ายกันในภูมิภาคลาดักห์ของอินเดียพิสูจน์ให้เห็นว่า หากพรรคคอมมิวนิสต์จีนต้องการ จีนก็พร้อมที่จะละเมิดข้อตกลงหรือสนธิสัญญาใด ๆ ที่ลงนามไว้กับประเทศต่าง ๆ

เมื่อศาลระหว่างประเทศประกาศว่าการอ้างสิทธิ์เส้นประเก้าเส้นของจีนในข้อพิพาททางอาณาเขตในทะเลจีนใต้กับฟิลิปปินส์นั้นไม่ถูกต้องตามกฎหมาย พรรคคอมมิวนิสต์จีนก็เพิกเฉยต่อคำตัดสินดังกล่าว พรรคคอมมิวนิสต์จีนแสดงให้เห็นว่าคำตัดสินต่าง ๆ จากสถาบันระหว่างประเทศใด ๆ ก็ตามที่ไม่เป็นไปตามผลประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์ของพรรคจะถือเป็นโมฆะ ด้วยการขยายตัวของอำนาจระดับชาติที่เรียกว่าพลังอำนาจแห่งชาติทั้งมวล พรรคคอมมิวนิสต์จีนจึงได้เริ่มเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางทหารในทุกมิติของการทำสงคราม จีนได้พัฒนากองทัพเรือของตนจนกลายเป็นกองทัพเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลกในแง่ของขนาดกองเรือ นอกจากนี้ จีนยังดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ เช่น ผ่านกฎหมายกองกำลังรักษาชายฝั่งที่มีจีนเป็นศูนย์กลางใน พ.ศ. 2561 และกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัยด้านการจราจรทางทะเลที่แก้ไขเพิ่มเติมใน พ.ศ. 2559 เพื่อแสดงความท้าทายต่อความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศโดยการคุกคามการใช้พื้นที่ส่วนรวมทั่วโลกและเขตเศรษฐกิจพิเศษของประเทศต่าง ๆ ที่มีการอ้างสิทธิ์ทับซ้อนกัน ตลอดจนเข้าถึงหนึ่งในเส้นทางคมนาคมทางทะเลทั่วโลกที่คึกคักที่สุดในอินโดแปซิฟิก

สำหรับการพัฒนาขีดความสามารถในการสงครามแบบหลายมิติ พรรคคอมมิวนิสต์จีนก็ก้าวหน้าไปไกลในการทำสงครามอวกาศในแง่ของสินทรัพย์และเทคโนโลยีเพื่อสร้างความปั่นป่วน อีกทั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนยังได้เพิ่มขีดความสามารถตามแบบแผนและมีแผนที่จะขยายคลังอาวุธนิวเคลียร์สำหรับหัวรบประมาณ 1,000 หัวภายใน พ.ศ. 2573 รายการตัวคูณกำลังรบของพรรคคอมมิวนิสต์จีนมีแนวโน้มจะรุนแรงเป็นอย่างยิ่งด้วยการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ คอมพิวเตอร์ควอนตัม เส้นทางระยะไกล ระบบความเร็วเหนือเสียง รวมถึงขีดความสามารถทางไซเบอร์ แม้คุณภาพของยุทโธปกรณ์ทางทหารของพรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งเคยต้องสงสัยในอดีต จะประสบความสำเร็จอย่างมากจากเทคโนโลยีที่ละเมิดลิขสิทธิ์หรือวิศวกรรมย้อนกลับ แต่นั่นก็เพียงพอที่จะป้องปรามผู้ที่อาจเป็นปฏิปักษ์และทำให้จีนบรรลุวัตถุประสงค์ที่มีมายาวนานของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่ว่า “ชนะได้โดยไม่ต้องออกแรง”

ด้านที่น่ากังวลที่สุดของการเสริมสร้างขีดความสามารถของจีนอยู่ในขอบเขตของความสามารถในการทำสงครามแบบไม่มีการเคลื่อนไหว ที่จะนำมาซึ่งการประยุกต์ใช้ขีดความสามารถทางทหารในลักษณะที่เหนียวแน่น ในขณะเดียวกันก็สร้างความมั่นใจในการลดการสัมผัสทางกายภาพของกองกำลังด้วย การโจมตีทางเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และดิจิทัลของจีนต่อประเทศต่าง ๆ ทำให้ประเทศเหล่านั้นต้องพึ่งพาจีนมากขึ้น ซึ่งถือเป็นการลดทอนความเป็นเอกราชและไม่รับฟังเสียงสะท้อนต่อการกระทำที่ไร้จรรยาบรรณของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ด้วยการลงทุนจากประเทศทางตะวันตก ทำให้จีนกลายเป็นผู้ผลิตและผู้จัดหาระดับโลก โดยได้เป็นที่พึ่งพาทางห่วงโซ่อุปทานในขอบเขตที่การตอบสนองของแต่ละประเทศจะยังคงถูกปิดกั้น เว้นแต่ว่าจะมีการสร้างทางเลือกของห่วงโซ่อุปทานและศูนย์กลางการผลิตที่ยืดหยุ่นขึ้น การรุกรานทางเศรษฐกิจของจีนปะปนกับการโจมตีทางเศรษฐกิจในประเทศที่ไม่ได้อยู่ในเส้นทางของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เช่น ออสเตรเลีย การโจมตีทางดิจิทัลของพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้มีการพุ่งตรงไปยังเป้าหมายมากยิ่งขึ้น และขีดความสามารถในการทำสงครามทางชีวภาพของจีนก็ได้สั่นสะเทือนประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก

การใช้ยุทธศาสตร์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนใน “สงครามทั้งสามแบบ” ได้แก่ สื่อหรือความคิดเห็นของประชาชน จิตวิทยา และกฎหมาย ถือเป็นที่ประจักษ์ชัดในการแสดงขีดความสามารถในการต่อสู้ในรูปแบบใหม่ ในแง่ของยุทโธปกรณ์ทางทหาร เทคโนโลยี การฝึกซ้อม และการซื้อเสียง ยุทธวิธีการทำสงครามทั้งสามแบบดูเหมือนจะได้รับความนิยมในกลุ่มที่มุ่งเน้นการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยที่มีการเคลื่อนไหวทางการเมือง

ช่องโหว่ของจีน

ความท้าทายที่จีนแสดงให้เห็นนั้นชัดเจนมาก แต่ยังไม่อาจได้รับชัยชนะเนื่องจากมีช่องโหว่ที่สำคัญ ซึ่งช่องโหว่ดังกล่าวคือเส้นทางคมนาคมทางทะเลอันกว้างขวางที่พาดผ่านจุดเสี่ยงต่าง ๆ ในอินโดแปซิฟิก จีนพยายามลดความเสี่ยงผ่านโครงการเชื่อมโยงต่าง ๆ เช่น ระเบียงเศรษฐกิจระหว่างจีนกับปากีสถาน ระเบียงเศรษฐกิจระหว่างจีนกับพม่า และยุทธศาสตร์โดยรวมของจีนเพื่อพัฒนาเครือข่ายสถานที่ทางทหารและการพาณิชย์ของจีน รวมถึงท่าเรือและสนามบินที่กระจายตัวอยู่นอกจีนแผ่นดินใหญ่ไปทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไปจนถึงจะงอยแอฟริกา อีกทั้งยังพัฒนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศเจ้าภาพเพื่อให้มั่นใจเรื่องแหล่งพลังงาน มีศูนย์ที่เป็นจุดเชื่อมต่อจีนแผ่นดินใหญ่กับทะเลอาหรับและอ่าวเปอร์เซียผ่านทะเลจีนใต้ ช่องแคบมะละกา และมหาสมุทรอินเดีย เมื่อไม่นานมานี้ จีนดูเหมือนจะพยายามขยายห่วงโซ่ของตนไปยังแอฟริกาและเอเชียกลางด้วย ซึ่งศูนย์ทั้งหมดอาจถูกใช้ประโยชน์ในการนี้ได้

เศรษฐกิจจีนกำลังเกิดรอยร้าวขึ้นหลังจากที่ล้มเหลวในโครงการการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางหลายโครงการ ซึ่งการระเบิดของฟองสบู่ทางเศรษฐกิจของรัฐที่แท้จริงและการกวาดล้างของพรรคคอมมิวนิสต์จีน หรือที่เรียกว่า “ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน” ผลักให้เกิดการกระจายความมั่งคั่งที่สั่นสะเทือนนายทุนและนักลงทุน ความพยายามของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในการบีบคั้นฝ่ายที่คัดค้านในภูมิภาคต่าง ๆ เช่น ซินเจียง ทิเบต และฮ่องกงยังเผยให้เห็นถึงความกังวลในการที่จะสูญเสียการควบคุมไป ซึ่งเห็นได้ชัดในงบประมาณการเฝ้าระวังภายในประเทศและการใช้เทคนิคต่าง ๆ ของจีน เช่น การเก็บข้อมูล เพื่อปราบปรามฝ่ายที่คัดค้าน พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ใช้งบประมาณด้านความมั่นคงภายในมากกว่าในการป้องกันประเทศ เศรษฐกิจและเส้นทางคมนาคมทางทะเลของจีนเป็นศูนย์กลางของ วิกฤตการณ์ในการรับมือกับความท้าทายที่เกิดขึ้นจากจีน เนื่องด้วยประชาชนของจีนจะยังคงอดทนต่อระบอบการปกครองแบบเผด็จการของนายสีตราบเท่าที่ระบอบดังกล่าวยังคงดำเนินการทางเศรษฐกิจได้ หากไม่ประสบความสำเร็จทางเศรษฐกิจ จีนก็ยังคงมีพันธมิตรอีกสองสามประเทศทั้งภายในและภายนอกภูมิภาค การมุ่งเป้าไปที่การละเมิดสิทธิมนุษยชนอาจทำให้เกิดความคับข้องใจในการเป็นผู้นำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน แต่ปัญหาดังกล่าวก็ยังขาดช่องโหว่ทางยุทธศาสตร์อยู่ อย่างน้อยก็ในตอนนี้

เหตุใดฝ่ายประชาธิปไตยจึงต้องรวมเป็นหนึ่ง

จีนได้พยายามส่งต่อคำบอกเล่าว่าระบบการปกครองของตนนั้นดีกว่าประชาธิปไตย โดยอ้างว่าตนมีพัฒนาการที่ดีขึ้นในช่วงภาวะการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ในแง่ของผลลัพธ์ด้านสาธารณสุขและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ในขณะที่โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีนได้เพิ่มขอบเขตทางยุทธศาสตร์ของจีนไปทั่วโลกนั้น ก็ได้ผลักให้ประเทศยากจนหลายประเทศเข้าสู่โครงสร้างหนี้ที่ไม่ยั่งยืนและจำกัดกรอบทางอธิปไตยไว้ให้ไม่มีทางเลือกด้านการเงินอื่นที่ดีกว่า แม้จะมีปัญหามากมายเกี่ยวกับโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางก็ตาม เพื่อกำหนดแนวคิดของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเกี่ยวกับ “สงครามไร้ข้อจำกัด” จีนกำลังเข้ายึดอสังหาริมทรัพย์ ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรแร่ที่สำคัญของประเทศเจ้าภาพ เช่น แร่หายาก อีกทั้งยังติดตั้งฐานการใช้งานสองทางทั่วโลกเพื่อวัตถุประสงค์ทางทหารที่เป็นไปได้ และครอบงำระบบการเงินทั่วโลก นอกจากนี้ พรรคคอมมิวนิสต์จีนยังมีความมั่นใจมากขึ้นว่าระบอบประชาธิปไตยจะไม่สามารถรวมเป็นหนึ่งเดียวกันได้อันเนื่องมาจากหลายประเด็น เพราะประเทศระบอบประชาธิปไตยมักจะมีมุมมองที่ขัดแย้งกันและมีกลุ่มที่ง่ายต่อการแสวงหาผลประโยชน์ ความท้าทายของจีนได้กลายเป็นเรื่องสำคัญจนประเทศระบอบประชาธิปไตยที่มีอุดมการณ์เดียวกันต้องร่วมกันรับมือ

การรับมือแบบพหุชาติและแบบหลากหลายมิติ

อินโดแปซิฟิกเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การค้า และประชากรแห่งอนาคต เนื่องด้วยมีตลาดที่ใหญ่ที่สุด มีเส้นทางคมนาคมทางทะเลที่คึกคักมากที่สุด ทั้งยังมีศักยภาพทางทรัพยากรธรรมชาติเป็นจำนวนมาก ดูเหมือนว่าทุกมหาอำนาจในโลกจะเอนเอียงไปยังภูมิภาคนี้ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีประเด็นความรุนแรงที่อันตรายที่สุด เช่น คาบสมุทรเกาหลี ทะเลจีนใต้และทะเลจีนตะวันออก รวมถึงไต้หวัน อีกทั้งภูมิภาคนี้ยังเป็นภูมิภาคที่ถูกครอบงำด้วยอิทธิพลของจีนเกือบทั้งสิ้น เพื่อที่จะรับมือกับความท้าทายของจีน พันธมิตรในระดับภูมิภาคพร้อมกับฝ่ายระบอบประชาธิปไตยที่มีอุดมการณ์เดียวกันจำเป็นต้องผนึกกำลังของพวกเขา เนื่องจากนายสีกำลังพยายามที่จะผลักดันเรื่องเส้นประเก้าเส้นต่อสมาชิกของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน และพรรคคอมมิวนิสต์จีนเองก็เริ่มมีความกล้ามากขึ้นที่จะเปลี่ยนแปลงสมดุลของโลก องค์การสหประชาชาติสามารถขัดขวางจีนได้เพียงเล็กน้อย เนื่องจากจีนมีอำนาจยับยั้งในฐานะสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและอิทธิพลของจีนในองค์กรอื่น ๆ ของสหประชาชาติยังมีมากยิ่งขึ้นด้วย องค์กรระดับพหุภาคีอื่น ๆ ที่จัดตั้งขึ้นเมื่อเกิดประเด็นปัญหาจะต้องจัดการกับกลุ่มของภัยคุกคามแบบหลากหลายมิติของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งรวมถึงองค์ประกอบของสงครามแบบเคลื่อนไหวและสงครามแบบไม่เคลื่อนไหวด้วยเช่นกัน

การขยายพันธมิตรด้านความมั่นคง

แม้ว่าจะมีภัยคุกคามจากจีน แต่การเผชิญหน้าทางทหารโดยตรงก็ยังถือเป็นเรื่องต้องห้ามสำหรับทุกประเทศ เนื่องจากต้องคำนึงถึงศักยภาพในการทำลายล้างที่ถูกครอบครองโดยมหาอำนาจสำคัญของโลก ด้วยเหตุนี้เอง การจัดกลุ่มแบบทวิภาคีและพหุภาคีจึงมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น ซึ่งกลุ่มเหล่านี้ ได้แก่ การเจรจาความมั่นคงจตุภาคีหรือ ควอด อันประกอบด้วยออสเตรเลีย อินเดีย ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ, พันธมิตรด้านความมั่นคงใหม่ของออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ หรือที่เรียกว่า อูกัส, พันธมิตรไฟฟ์อายส์ของหน่วยข่าวกรองจากออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ รวมถึงองค์การนาโต

การที่จะเผชิญกับภัยคุกคามทางทะเลของจีนนั้น จำเป็นต้องอาศัยการดำเนินการร่วมกันของฝ่ายระบอบประชาธิปไตย หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ และพันธมิตรที่มีอุดมการณ์เดียวกัน เพื่อสร้างแนวทางแบบหลายแนวหน้าที่สามารถกีดกันเส้นทางคมนาคมทางทะเลของจีนในจุดเสี่ยงต่าง ๆ และดึงเอากองทัพเรือของกองทัพปลดปล่อยประชาชนให้ห่างไกลออกจากชายฝั่งทะเลตะวันออกของจีนให้มากที่สุด การดำเนินการเช่นนี้จะทำให้กองทัพเรือของกองทัพปลดปล่อยประชาชนขยายวงกว้างมากเกินไปในระหว่างที่พยายามที่จะปกป้องเส้นทางคมนาคมทางทะเล ดังนั้นจึงสร้างช่องโหว่ตามเครือข่ายของกองทัพและสถานที่เชิงพาณิชย์ของจีนทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยช่องโหว่ดังกล่าวอาจถูกปิดกั้นได้

แถลงการณ์ของควอดในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2564 ที่เรียกร้องให้เกิดอินโดแปซิฟิกที่เสรี เปิดกว้าง ครอบคลุม และแข็งแรง โดย “ยึดตามอุดมการณ์ทางประชาธิปไตยและไม่ถูกเหนี่ยวรั้งจากการบีบบังคับ” สิ่งนี้เป็นเรื่องท้าทายหลักต่อความฝันของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่ว่าภูมิภาคนี้จะมีจีนเป็นศูนย์กลาง ประเด็นของควอดเรื่องการเน้นย้ำถึงเสรีภาพในการเดินเรือและการบินข้ามไม่ได้ถูกละเลย พรรคคอมมิวนิสต์จีนตระหนักดีว่าตนกำลังถูกกล่าวอ้างว่าเป็นภัยคุกคามต่ออินโดแปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง

แม้จะเป็นการจัดกลุ่มที่ไม่ใช่ทางการทหาร แต่ควอดก็ยอมรับความท้าทายด้านความมั่นคงร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในด้านไซเบอร์ อวกาศ เทคโนโลยีที่สำคัญ การต่อต้านการก่อการร้าย โครงสร้างพื้นฐาน และความมั่นคงด้านสุขภาพ เช่น สมาชิกควอดกำลังร่วมมือกันในการจัดหาวัคซีนโควิด-19 จำนวน 1 พันล้านชุดทั่วโลก

ออสเตรเลียจะได้รับเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์จากอูกัส ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการขยายตัวของจีนในอินโดแปซิฟิก ในทำนองเดียวกัน ความพยายามของสหรัฐฯ และสมาชิกควอดพลัสอื่น ๆ ในการร่วมมือกับผู้มีส่วนได้เสียทั่วโลก ซึ่งรวมถึงสมาชิกอาเซียนที่กำลังเผชิญกับการบีบบังคับจากจีนถือเป็นก้าวที่ดี รัฐบาลจีนควรได้รับฟังข้อความที่ว่า การทำงานร่วมกันทางทหารในหมู่ประเทศที่มีอุดมการณ์เดียวกันจะแสดงให้เห็นถึงการป้องปรามที่ทรงพลัง หากการรุกรานของจีนก้าวข้ามขีดจำกัดความอดทนสากล

นอกจากนี้ ยังจำเป็นต้องสร้างห่วงโซ่อุปทานที่เป็นทางเลือกและระบบนิเวศทางการค้าและเทคโนโลยีที่เป็นอิสระจากจีน เช่น โครงการริเริ่มที่เปิดตัวโดยควอด สิ่งเหล่านี้จะสมบูรณ์ได้ด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจ เช่น การสร้างโลกที่ดีกว่าขึ้นมาใหม่ซึ่งเกี่ยวข้องกับกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมเจ็ดประเทศ รวมถึงความพยายามในการให้ความร่วมมืออื่น ๆ เพื่อต่อต้านโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน เช่น เครือข่ายจุดเชื่อมสีฟ้าที่ก่อตั้งขึ้นโดยออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ และโครงการโกลบอลเกตเวย์ของสหภาพยุโรปที่มีมูลค่า 340 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 12 ล้านล้านบาท)

โดยต้องร่วมกันรับมือในระดับสากลต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ อวกาศ ปัญญาประดิษฐ์ อาวุธความเร็วเหนือเสียง เทคโนโลยีควอนตัม ขีดความสามารถใต้ทะเล ชีวภาพ และการขยายตัวของนิวเคลียร์ ด้วยการพัฒนาและการแบ่งปันทางเทคโนโลยี ควอดมีศักยภาพที่จะกลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการต่อต้านนโยบายสุ่มเสี่ยงของจีน ในขณะเดียวกัน การขยายวงกว้างของควอดพลัสด้วยโครงสร้างที่เป็นระเบียบแบบแผนจะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรับมือกับความท้าทายที่เกิดจากจีนที่ก้าวร้าว