ความขัดแย้ง/ความตึงเครียดติดอันดับปัญหาหลักระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ

ไต้หวันเตรียมรับมือมือการรุกรานเมื่อต้องเผชิญหน้ากับภัยคุกคามจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม

ไต้หวันได้ดำเนินการฝึกซ้อมป้องกันประเทศประจำปีภายใต้รหัสฮั่นกวงเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2565 ท่ามกลางความกระหายสงครามและการเคลื่อนไหวทางทหารที่บ่อนทำลายความมั่นคงอย่างต่อเนื่องของพรรคคอมมิวนิสต์จีน อีกทั้งการที่รัสเซียรุกรานยูเครนโดยไร้เหตุอันสมควรนั้นได้เพิ่มแรงผลักดันให้เกิดการฝึกซ้อมเพื่อปกป้องการโจมตีเกาะปกครองตนเองที่มีประชาชน 24 ล้านคนแห่งนี้

นอกเหนือจากการเตรียมความพร้อมด้านอื่น ๆ แล้ว กองกำลังไต้หวันยังได้จำลองการขับไล่ผู้บุกรุกที่ท่าเรือแห่งหนึ่งใกล้กับกรุงไทเปซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศ และเคลื่อนย้ายเครื่องบินขับไล่ไปยังป้อมปราการบนภูเขาที่อยู่ห่างไกลเพื่อเอาตัวรอดจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธของศัตรู ตามรายงานของรอยเตอร์ เรือรบเกือบ 24 ลำ รวมถึงเรือพิฆาตและเรือฟริเกตได้สกัดกั้นกองกำลังที่อาจรุกรานนอกชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะ ขณะที่เครื่องบินขับไล่ ชิง-กัว ที่ผลิตในประเทศและเครื่องบินอื่น ๆ ได้เริ่มเปิดฉากโจมตี (ภาพ: ทหารไต้หวันถ่ายภาพร่วมกับรถถัง ซีเอ็ม-11 ระหว่างการฝึกซ้อมที่ฐานทัพเมืองเกาสง ทางตอนใต้ของไต้หวัน)

กองทัพเรือไต้หวันยังเน้นย้ำถึงเรือวางทุ่นระเบิดลำใหม่และเรือลาดตระเวนล่องหนติดตั้งกลุ่มขีปนาวุธต่อต้านเรือ ซึ่งได้รับการขนานนามว่า “นักพิฆาตเรือบรรทุกเครื่องบิน”

เนื่องด้วยภัยคุกคามจาก “กองกำลังเผด็จการ” ที่บ่อนทำลายสถานภาพปัจจุบันในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก ไต้หวันยืนหยัดในแนวหน้าด้านภูมิรัฐศาสตร์เพื่อ “ต่อต้านการรุกรานแบบเผด็จการ” นางไช่ อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวันกล่าวในการประชุมด้านความมั่นคงระหว่างการฝึกซ้อม ตามรายงานของรอยเตอร์

เพียงไม่กี่วันต่อมา ข้อกังวลเหล่านี้ได้รับความสนใจมากขึ้นเมื่อกองทัพปลดปล่อยประชาชนได้จัดการฝึกซ้อมครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในช่องแคบไต้หวัน ซึ่งเป็นน่านน้ำกว้าง 160 กิโลเมตรที่แบ่งแยกเกาะไต้หวันอันเป็นประชาธิปไตยออกจากจีนผู้เป็นคอมมิวนิสต์ที่อ้างสิทธิ์ว่าไต้หวันนั้นเป็นดินแดนของตน กระทรวงกลาโหมไต้หวันกล่าวว่า กองทัพปลดปล่อยประชาชนได้เริ่มยิงขีปนาวุธตงเฟิงจำนวนหนึ่งในน่านน้ำรอบเกาะไต้หวันเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม โดยเป็นการฝึกซ้อมยิงขีปนาวุธจริงครั้งแรกของกองทัพจีนนับตั้งแต่ พ.ศ. 2539 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่รู้จักกันในชื่อ วิกฤตช่องแคบไต้หวันครั้งที่สาม ตามรายงานของรอยเตอร์ ขีปนาวุธของจีนจำนวนหนึ่งได้ตกลงในน่านน้ำบริเวณเขตเศรษฐกิจพิเศษของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผลให้เกิดการประณามจากรัฐบาลญี่ปุ่น ตามรายงานของรอยเตอร์ นายโนบุโอะ คิชิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นกล่าวว่า “นี่ถือเป็นครั้งแรกที่มีขีปนาวุธของจีนถึงห้าลูกตกลงในเขตเศรษฐกิจพิเศษของญี่ปุ่น” “เราได้ประท้วงอย่างจริงจังผ่านช่องทางการทูต”

รัฐบาลจีนข่มขู่ซ้ำ ๆ ว่าจะใช้กองกำลังเพื่อยึดอำนาจการควบคุมไต้หวัน ซึ่งไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐประชาชนจีน

ในการฝึกซ้อมหลายวันของกองทัพปลดปล่อยประชาชนครั้งนี้ มีเครื่องบินทหารและเรือของกองทัพเรือข้ามเส้นแบ่งกึ่งกลางช่องแคบไต้หวันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตามรายงานของรอยเตอร์ กองทัพไต้หวันได้ติดตั้งระบบขีปนาวุธและใช้เครื่องบินขับไล่ไอพ่นเพื่อติดตามเครื่องบินของกองทัพปลดปล่อยประชาชนที่ล่วงล้ำเส้นแบ่ง “เครื่องบินเหล่านั้นบินเข้าและบินออกครั้งแล้วครั้งเล่า” แหล่งข่าวในไต้หวันกล่าว “พวกเขายังคงคุกคามเราอย่างต่อเนื่อง”

การฝึกซ้อมของกองทัพปลดปล่อยประชาชนตามกำหนดการที่เร่งรีบ ถูกมองว่าเป็นการกระทำที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนจงใจตอบโต้การเดินทางเยือนไต้หวันของคณะผู้แทนจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งรวมถึงนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เมื่อต้นเดือนสิงหาคม โดยเป็นส่วนหนึ่งในการเดินทางเยือนอินโดแปซิฟิก การฝึกซ้อมดังกล่าวละเมิดกฎของสหประชาชาติ และคุกคามเสรีภาพในการเดินเรือทั้งทางทะเลและทางอากาศ เจ้าหน้าที่ไต้หวันกล่าวกับรอยเตอร์ บรรดาผู้นำจากยุโรป อเมริกาเหนือ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และที่อื่น ๆ ต่างย้ำถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดการคำนวณผิดพลาด และเตือนถึงความพยายามใด ๆ ที่จะใช้กองกำลังเพื่อเปลี่ยนสถานภาพปัจจุบันในภูมิภาค

การรุกรานรูปแบบเดิม ๆ โดยเครื่องบินขับไล่ของจีนเป็นเวลาสองปีในเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวันได้ทำให้ความตึงเครียดในช่องแคบเพิ่มขึ้น ไต้หวันระบุว่า การรุกรานดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในสงครามพื้นที่สีเทาของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่จะทำให้ไต้หวันอ่อนแรงลงจนจีนเอาชนะแนวป้องกันของเกาะได้ในที่สุด

ในขณะเดียวกัน การรุกรานยูเครนของรัสเซียในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 และการโจมตีอย่างต่อเนื่องได้เพิ่มความหวาดกลัวว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะบุกโจมตีไต้หวัน รัฐบาลจีนปฏิเสธที่จะประณามรัสเซียหรือเข้าร่วมมาตรการคว่ำบาตรระหว่างประเทศต่อรัฐบาลรัสเซีย ในทางกลับกัน นายสี จิ้นผิง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน และนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้กล่าวถึงความร่วมมือ “ไร้ขีดจำกัด” โดยรัฐเผด็จการทั้งสองได้ดำเนินการฝึกซ้อมทางทหารร่วมกันเมื่อช่วงกลาง พ.ศ. 2565

เมื่อต้องเผชิญกับกองทัพของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่ใหญ่กว่ามาก นางไช่ได้ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงกองกำลังไต้หวันให้ทันสมัย รวมถึงการพัฒนาอาวุธและยุทโธปกรณ์อื่น ๆ ภายในประเทศ ไต้หวันกำลังพิจารณาเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมขึ้น 4% โดยเป็นจำนวนเกือบ 12.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4.62 แสนล้านบาท) ในปีงบประมาณถัดไป รวมถึงการจัดหาเงินทุนเพิ่มเติมเพื่อซื้อเครื่องบินขับไล่เอฟ-16วี ขีปนาวุธที่ผลิตในประเทศ และระบบอาวุธขั้นสูงอื่น ๆ ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ไทเปไทมส์เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

ไต้หวันมุ่งเน้นที่การป้องกันแบบอสมมาตรหรือที่เรียกว่า “ยุทธศาสตร์แบบตัวเม่น” ซึ่งพยายามที่จะยับยั้งผู้บุกรุกโดยปฏิญาณว่าจะกำหนดบทลงโทษอย่างร้ายแรง นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่า ความสำเร็จของยูเครนในการชะลอ หยุดยั้ง และพลิกกลับการโจมตีของรัสเซียได้เปลี่ยนความขัดแย้งให้กลายเป็นสงครามพร่ากำลัง

“สงครามที่โจมตีคนจำนวนมากนั้นสร้างความเดือดร้อนและเลวร้าย ทั้งยังนำมาซึ่งความสูญเสียมหาศาล” นายบิลลี ฟาเบียน อดีตเจ้าหน้าที่กองทัพบกสหรัฐฯ และนักวิเคราะห์ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวกับหนังสือพิมพ์เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัลเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2565

ไต้หวันกำลังวิเคราะห์สงครามในยุโรป รวมถึงการฝึกซ้อมทางทหารของพรรคคอมมิวนิสต์จีน พล.ต. หลิน เหวินหวง ซึ่งดูแลด้านการรบและการวางแผนสำหรับกระทรวงกลาโหมไต้หวันกล่าว พล.ต. หลิน ยังกล่าวว่า “เราจะใช้บทเรียนจากสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนเพื่อปรับปรุงขีดความสามารถในการสู้รบแบบอสมมาตร สงครามทางความคิด สงครามอิเล็กทรอนิกส์ และกำลังสำรองของเราต่อไป” ตามรายงานของเว็บไซต์ข่าวเฟิร์สโพสต์ของอินเดีย

สำนักข่าวกลางของไต้หวันรายงานว่า การฝึกซ้อมรบด้วยกระสุนจริงภายใต้รหัสฮั่นกวงเป็นเวลาห้าวัน ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2527 ได้ทดสอบความสามารถของกองทัพไต้หวันในการป้องกันไม่ให้กองกำลังทางอากาศเข้ายึดสนามบินในกรุงไทเป ในเมืองหลวง มีการอพยพประชาชนออกจากถนนและพาไปยังที่หลบภัยโดยเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกซ้อมหลบภัยการโจมตีทางอากาศ นอกจากนี้ กองกำลังเฉพาะกิจด้านสงครามจิตวิทยายังได้ใช้โดรนและยานพาหนะ เพื่อแจกจ่ายใบปลิวและเผยแพร่ข้อความสร้างขวัญกำลังใจให้แก่กองกำลังทหาร รวมทั้งต่อต้านการบิดเบือนข้อมูลและการโฆษณาชวนเชื่อของศัตรู

ในขณะที่ไต้หวันดำเนินการฝึกซ้อมทางทหาร กลุ่มนักกฎหมายของญี่ปุ่นได้เดินทางไปเยือนไต้หวันเพื่อหารือเกี่ยวกับความมั่นคงในภูมิภาคกับนางไช่ ซึ่งรวมถึงการเตรียมความพร้อมสำหรับความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น ตามรายงานของดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส “เราจำเป็นต้องคิดล่วงหน้าเกี่ยวกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น กฎหมายและข้อตกลงที่เราควรตระเตรียม และอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เราสามารถใช้ได้” นายชิเงรุ อิชิบะ อดีตรัฐมนตรีว่าาการกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นกล่าว “เราต้องทำงานร่วมกันเพื่อให้บรรลุฉันทามติในเรื่องนี้ ก่อนที่อะไรก็ตามจะเกิดขึ้น”

นายอิชิบะกล่าวว่า ญี่ปุ่นกำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับสหรัฐฯ เพื่อป้องกันความขัดแย้งในภูมิภาค

นางไช่กล่าวว่า ไต้หวัน “เป็นแนวป้องกันที่สำคัญมากของแนวหมู่เกาะที่หนึ่ง” ตามรายงานของดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส “เราจะสานต่อความร่วมมืออันแน่นแฟ้นกับญี่ปุ่นและพันธมิตรประชาธิปไตยอื่น ๆ เพื่อรักษาสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาคอินโดแปซิฟิก”

ภาพจาก: เอเอฟพี/เก็ตตี้อิมเมจ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button