ออสเตรเลียและเกาหลีใต้กระชับความสัมพันธ์ด้านกลาโหมโดยสร้างความร่วมมืออันแข็งแกร่ง
ฟีลิกซ์ คิม
ออสเตรเลียและเกาหลีใต้พร้อมที่จะสานต่อความมุ่งมั่นร่วมกันต่อความมั่นคงในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก โดยการเสริมสร้างความร่วมมือด้านกลาโหม
“คุณสามารถคาดหวังได้ว่าความร่วมมือด้านความมั่นคงที่เพิ่มขึ้นกับออสเตรเลียจะเป็นนโยบายต่างประเทศที่มีความสำคัญอันดับต้น ๆ สำหรับการบริหารของนายยุน ซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ในอนาคต” นางเจดา เฟรเซอร์ นักวิเคราะห์นโยบายในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และผู้เขียนบทความเดือนเมษายน พ.ศ. 2565 เรื่อง “ปัจจัยของออสเตรเลียต่อยุทธศาสตร์ความมั่นคงของเกาหลีใต้” ซึ่งเผยแพร่โดยสถาบันนโยบายเชิงยุทธศาสตร์ของออสเตรเลีย กล่าวต่อ ฟอรัม
รัฐบาลเกาหลีและรัฐบาลออสเตรเลียได้ยกระดับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2564 เป็นความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมและบรรลุข้อตกลงมูลค่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท) ในการจัดหายุทโธปกรณ์แก่กองทัพออสเตรเลียด้วยปืนใหญ่วิถีโค้งที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง 30 ลำและยานพาหนะลำเลียงหุ้มเกราะ 15 ลำ นางเฟรเซอร์ระบุ นางเฟรเซอร์กล่าวว่า ข้อตกลงด้านกลาโหมแบบทวิภาคีที่มากขึ้นเป็นไปตามแนวทาง
“ภูมิภาคอินโดแปซิฟิกที่ไม่หยุดนิ่งเริ่มตึงเครียดมากขึ้นเรื่อย ๆ” นายชิน โบมชุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ กล่าวหลังจากการประชุมเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2565 ในกรุงโซล กับนายจัสติน เฮย์เฮิร์สต์ รองรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศและการค้ากลุ่มภูมิยุทธศาสตร์ของออสเตรเลีย “เกาหลีใต้และออสเตรเลียควรร่วมมืออย่างใกล้ชิดในกระบวนการสร้างความมั่นคงในระดับภูมิภาคในฐานะที่เป็นประเทศที่ร่วมระบอบประชาธิปไตยแบบเสรีนิยมและค่านิยมสากล”
นายเฮย์เฮิร์สต์ยังแสดงความกังวลต่อการพัฒนานิวเคลียร์และการยั่วยุด้วยขีปนาวุธของเกาหลีเหนือเช่นกัน ตามรายงานของกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้
นายยุนและนายแอนโธนี อัลบานีส นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ซึ่งสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2565 พร้อมด้วยผู้นำของญี่ปุ่นและนิวซีแลนด์ได้แสดงความมุ่งมั่นร่วมกันต่อความมั่นคงของภูมิภาคในการเผชิญพฤติกรรมรุกรานของสาธารณรัฐประชาชนจีน (ภาพ: นายแอนโธนี อัลบานีส นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย (ซ้าย) ทักทายนายยุน ซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ก่อนหน้าการประชุมสุดยอดองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ ในกรุงมาดริด สเปน เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2565)
ความร่วมมือของออสเตรเลียกับเกาหลีใต้ที่ยกระดับนี้จะขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงและกลาโหม เทคโนโลยีไซเบอร์และเทคโนโลยีสำคัญ ตลอดจนการควบคุมแนวชายแดนที่กว้างขึ้นในพื้นที่อื่น ๆ ตามรายงานของกระทรวงการต่างประเทศและการค้าออสเตรเลีย
“ความมั่นคงทางเศรษฐกิจกำลังกลายเป็นประเด็นที่ใหญ่ขึ้นของรัฐบาลออสเตรเลียและเกาหลีใต้” นายเฟรเซอร์กล่าว “ทั้งสองประเทศต่างรู้สึกถึงการบีบบังคับทางเศรษฐกิจของรัฐบาลจีน”
นางเฟรเซอร์อธิบายว่าการกดดันรัฐบาลออสเตรเลียและรัฐบาลเกาหลีให้กำหนดนโยบายที่สนับสนุนรัฐบาลจีนภายใต้ภัยคุกคามจากการจำกัดการเข้าถึงตลาดจีนเป็นตัวอย่างของการบีบบังคับดังกล่าว
ออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกาเป็นเพียงสองประเทศที่จัดการประชุมระดับรัฐมนตรีสองบวกสองกับเกาหลีใต้ ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของแต่ละประเทศ ตามรายงานของกระทรวงการต่างประเทศและการค้าออสเตรเลีย กองทัพอากาศ กองทัพบก และกองทัพเรือของแต่ละประเทศยังจัดการประชุมระดับเจ้าหน้าที่ประจำปีอีกด้วย ในระหว่างการฝึกซ้อมสองบวกสองที่จัดขึ้นซ้ำใน พ.ศ. 2564 ออสเตรเลียและเกาหลีใต้เห็นพ้องกันว่าจะเพิ่มการฝึกซ้อมร่วม การฝึกอบรม การเทียบท่า และการเข้าเยี่ยมชมอากาศยาน กองทัพเรือของประเทศต่าง ๆ ฝึกซ้อมในการฝึกแฮโดลีวอลลาบีแบบทวิภาคี ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2555 – 2558 และในการฝึกแบบพหุภาคี เช่น แปซิฟิกแวนการ์ด, ทาลิสมันเซเบอร์ และการฝึกซ้อมซ้ำริมออฟแปซิฟิกหลายครั้ง
ในการฝึกริมออฟแปซิฟิก พ.ศ. 2565 กองทัพเรือสาธารณรัฐเกาหลีได้ส่งกองเรือเล็กที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งประกอบด้วยเรือรบและเรือพิฆาต ออสเตรเลียได้ส่งเรือรบ 2 ลำพร้อมด้วยเครื่องบิน พี-8เอ โพไซดอน 2 ลำของกองทัพอากาศออสเตรเลียและกองกำลังร่วมยกพลขึ้นบก
นางเฟรเซอร์ตั้งข้อสังเกตว่า ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้นกับออสเตรเลีย ซึ่งเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งการเจรจาความมั่นคงจตุภาคีหรือควอดร่วมกับอินเดีย ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ อาจช่วยให้นายยุนบรรลุความปรารถนาที่จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดควอดประจำ พ.ศ. 2566 ในฐานะผู้สังเกตการณ์
“ออสเตรเลียและเกาหลีใต้อยู่บนแนวทางที่คล้ายคลึงกันในทางยุทธศาสตร์” นางเฟรเซอร์กล่าว “ทั้งสองประเทศกำลังลงมือเพื่อกระจายความร่วมมือด้านความมั่นคงและลดการพึ่งพาจีนทางเศรษฐกิจ”
ฟีลิกซ์ คิม เป็นผู้สื่อข่าวสมทบของ ฟอรัม รายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้
ภาพจาก: รอยเตอร์