ความขัดแย้ง/ความตึงเครียดติดอันดับปัญหาหลักระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ

การปราบปรามด้านความมั่นคงตัดทอนมูลค่าของฮ่องกงต่อจีนแผ่นดินใหญ่

ทอม แอบกี

การปราบปรามด้านความมั่นคงของรัฐบาลจีนทำให้มูลค่าของฮ่องกงที่มีต่อจีนแผ่นดินใหญ่ลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากฮ่องกงกลายเป็นสถานที่ที่น่าสนใจน้อยลงสำหรับการใช้ชีวิตและการทำงาน ซึ่งทำให้ขาดความสามารถ ตามรายงานของอดีตนักการทูตสหราชอาณาจักรประจำอินเดียและรายงานของสื่อ การปรับใช้ระบบตัวแทนทางการเมือง สื่อ การศึกษา ภาคประชาสังคม และกฎหมายภายใต้การควบคุมโดยเผด็จการของรัฐบาลจีนได้เร่งเร้าให้ข้าราชการฮ่องกงลาออกจำนวนมาก ตลอดจนส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยหลายแสนคนอพยพและลดความน่าสนใจของฮ่องกงที่มีต่อแรงงานต่างด้าวลงอย่างมาก

“ไม่มีใครคาดการณ์ว่าฮ่องกงจะล่มสลายในวันพรุ่งนี้ แต่ภายใน พ.ศ. 2592 เมื่อฮ่องกงไม่ได้เป็นมากไปกว่าแค่เมืองรองของจีน ผมคิดว่าฮ่องกงจะไม่โดดเด่นเท่าที่เป็นมาในช่วงศตวรรษที่ผ่านมาหรือนานกว่านั้น” นายชาร์ลส์ พาร์ตัน ผู้ดำรงตำแหน่งในหน่วยงานด้านการฑูตของอังกฤษในสาธารณรัฐประชาชนจีน ฮ่องกง และไต้หวัน กว่า 22 ปี กล่าวกับ ฟอรัม “แทนที่จะล่มสลายด้วยการลงดาบครั้งเดียว กลับค่อย ๆ เฉือนทีละนิดจนสิ้นลง”

นายพาร์ตันกล่าวว่า บรรยากาศแห่งความหวาดกลัวได้แผ่ซ่านในฮ่องกง โดยเกิดจากมาตรการดังกล่าว เช่น กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ พ.ศ. 2563 ที่กำหนดโดยรัฐบาลจีน กฎหมายดังกล่าวอนุญาตให้ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับการแบ่งแยกดินแดน เช่น การบ่อนทำลาย การก่อการร้าย และการสมรู้ร่วมคิดกับกองกำลังต่างชาติ ได้รับการพิจารณาคดีในแผ่นดินใหญ่ ตลอดจนสนับสนุนให้ชาวฮ่องกงรายงานบุคคลที่ต้องสงสัยว่ากระทำผิดดังกล่าว

มาตรการเผด็จการที่รัฐบาลจีนบังคับใช้ทำให้การปกครองตนเองของฮ่องกงล้มเหลว พร้อมทั้งปลุกระดมให้เกิดการประท้วงไปพร้อม ๆ กัน นายพาร์ตันระบุในบทความเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2565 ที่มีชื่อว่า “ความสำคัญของการเยือนฮ่องกงของนายสี จิ้นผิง” ซึ่งตีพิมพ์โดยสภาภูมิยุทธศาสตร์แห่งสหราชอาณาจักร มาตรการเหล่านี้เริ่มบังคับใช้ใน พ.ศ. 2546 ซึ่งเป็นเวลา 6 ปีหลังจากฮ่องกงเปลี่ยนสถานะจากอาณานิคมของสหราชอาณาจักรเป็นเขตบริหารพิเศษของสาธารณรัฐประชาชนจีน

พรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งอยู่ภายใต้การดำรงตำแหน่งของนายสี เลขาธิการใหญ่ของพรรค ได้ปิดปากผู้ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลจีนในด้านการเมืองและสื่อของฮ่องกง นายพาร์ตันระบุ ในด้านการศึกษา “สมาคมนักเรียนถูกยกเลิกและตำราเรียนได้รับการแก้ไขใหม่ อีกทั้งครูและอาจารย์ที่รัฐบาลจีนมองว่าไม่น่าเชื่อถือได้สูญเสียตำแหน่งของตนเองไป” สหภาพแรงงาน กลุ่มประชาสังคม และองค์กรพัฒนาเอกชนถูกควบคุมหรือปิดตัวลงภายใต้การควบคุมของรัฐบาลจีน บรรดาผู้พิพากษาจำต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลจีนมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อตัดสินคดี การเฝ้าระวังทางอิเล็กทรอนิกส์ก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน

หนังสือพิมพ์ดิอีโคโนมิสต์ รายงานเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2565 ว่า ผู้สนับสนุนประชาธิปไตยรายสำคัญของฮ่องกงเกือบทุกคนถูกคุมขังหรืออาศัยอยู่ต่างประเทศในปัจจุบัน

นายพาร์ตันระบุว่า สาธารณรัฐประชาชนจีนได้ประโยชน์จากการทำธุรกรรมทางธุรกิจในฮ่องกง ที่ดำเนินการในสกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกง ซึ่งสามารถแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศได้ต่างจากหยวนจีน อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของฮ่องกงลดลงจากเกือบร้อยละ 20 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศทั้งหมดของจีนใน พ.ศ. 2540 เหลือน้อยกว่าร้อยละ 3 ในปัจจุบัน แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นทางเศรษฐกิจของฮ่องกงต่อจีนแผ่นดินใหญ่ แต่นายพาร์ตันเน้นย้ำว่าการปราบปรามของรัฐบาลจีนส่งผลให้ฮ่องกงกลายเป็นสถานที่ที่น่าลงทุนด้านธุรกิจน้อยลงสำหรับหลาย ๆ คน รวมถึงชาวต่างชาติด้วย (ภาพ: เจ้าหน้าที่ตำรวจลาดตระเวนใกล้สำนักงานใหญ่ของรัฐบาลจีนในฮ่องกง เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2565)

การสำรวจความคิดเห็นของหอการค้าอเมริกันในประเทศจีนพบว่าร้อยละ 26 ของธุรกิจและร้อยละ 44 ของสมาชิกหอการค้าในฮ่องกงกำลังพิจารณาที่จะอพยพออกจากฮ่องกง โดยเกือบครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสำรวจมีความคิดเห็นที่คล้ายกันในการสำรวจของหอการค้ายุโรป ประชาชนกว่า 100,000 คนจากฮ่องกงยื่นขอหนังสือเดินทางสัญชาติบริติชโพ้นทะเลใน พ.ศ.2564 ซึ่งเป็นวีซ่าที่จะอนุญาตให้พวกเขาอาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักร ตามรายงานของดิอีโคโนมิสต์ ใน พ.ศ. 2564 จำนวนข้าราชการฮ่องกงลาออกจากตำแหน่งเป็นประวัติการณ์ ขณะที่จำนวนผู้สมัครใหม่ลดลงถึงร้อยละ 30

นอกจากนี้ การลงทะเบียนเรียนในโรงเรียนก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน นายพาร์ตันกล่าว โดยเสริมว่า “ดูเหมือนว่าผู้คนจะไม่อยากให้บุตรหลานของตนเติบโตขึ้นมาในบรรยากาศแบบนี้”

ทอม แอบกี เป็นผู้สื่อข่าวสมทบของฟอรัม รายงานจากประเทศสิงคโปร์

 

ภาพจาก: เอเอฟพี/เก็ตตี้อิมเมจ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button