บี-1บี แลนเซอร์ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ เสร็จสิ้นภารกิจของหน่วยทิ้งระเบิดเฉพาะกิจในอินโดแปซิฟิก
เจ้าหน้าที่ฟอรัม
กองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด บี-1บี แลนเซอร์ จำนวน 4 ลำ เพื่อปฏิบัติภารกิจของหน่วยทิ้งระเบิดเฉพาะกิจในภูมิภาคอินโดแปซิฟิกร่วมกับพันธมิตรและหุ้นส่วนที่สำคัญตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายน ถึง 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เครื่องบินทิ้งระเบิดเชิงยุทธศาสตร์ดังกล่าวได้รับการสังกัดฝูงบินทิ้งระเบิดนอกประเทศที่ 34 ปีกทิ้งระเบิดที่ 28 ที่ฐานทัพอากาศเอลส์เวิร์ธ รัฐเซาท์ดาโคตา และบินไปยังฐานทัพอากาศแอนเดอร์เซนในกวมเพื่อสนับสนุนภารกิจของหน่วยทิ้งระเบิดเฉพาะกิจ
เครื่องบินทิ้งระเบิด บี-1 ดำเนินภารกิจหลายอย่าง ได้แก่ การป้องปรามปรปักษ์และการรวมกำลังทางอากาศกับกองกำลังป้องกันตนเองทางอากาศของญี่ปุ่น และปฏิบัติการเติมเชื้อเพลิงขณะที่กำลังปฏิบัติการกับกองทัพอากาศออสเตรเลียที่ฐานทัพอากาศดาร์วินของกองทัพอากาศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นครั้งแรกของเครื่องบิน บี-1บี แลนเซอร์ (ภาพ: เครื่องบินซูเปอร์ฮอร์เน็ต เอฟ/เอ-18เอฟ ของกองทัพอากาศออสเตรเลียบินเคียงข้างเครื่องบินทิ้งระเบิด บี-1บี แลนเซอร์ ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ในระหว่างการซ้อมรบไดมอนด์สตอร์ม พ.ศ. 2565 ซึ่งดำเนินการที่ฐานทัพอากาศดาร์วินและทินดัลตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม ถึง 24 มิถุนายน)
ภารกิจเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของเครื่องบิน บี-1 ในการปฏิบัติตามแนวคิดการรบแบบคล่องตัวด้วยบุคลากรจำนวนน้อยและจากสถานที่ที่ไม่ใช่มาตรฐาน พ.ท. รอสส์ ฮอบส์ ผู้บัญชาการฝูงบินทิ้งระเบิดนอกประเทศที่ 34 กล่าวว่า “ในขณะที่เราฝึกฝนและมีความชำนาญมากขึ้นในปฏิบัติการต่อสู้แบบคล่องตัว เราได้เพิ่มขีดความสามารถของหน่วยบัญชาการอินโดแปซิฟิกสหรัฐฯ ในการตอบโต้ศัตรูในภูมิภาคหรือภัยคุกคามที่ศัตรูมีต่อเสรีภาพของประเทศที่เสรีต่าง ๆ”
ฝูงบินดังกล่าวได้ทำการบินไป 30 เที่ยว รวมมากกว่า 300 ชั่วโมงในเวลา 30 วัน โดยสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุดและเป็นไปตามแนวคิดของปฏิบัติการต่อสู้แบบคล่องตัว
กองบัญชาการยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ดำเนินภารกิจของหน่วยทิ้งระเบิดเฉพาะกิจเป็นประจำทั่วโลกเพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของสหรัฐฯ ที่มีต่อการป้องกันร่วมกัน รวมทั้งเพื่อเข้าร่วมปฏิบัติการและกิจกรรมของกองบัญชาการรบทางภูมิศาสตร์ของสหรัฐฯ
แต่ละภารกิจของหน่วยทิ้งระเบิดเฉพาะกิจสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของยุทธศาสตร์กลาโหมแห่งชาติของสหรัฐฯ ในด้านความสามารถในการคาดการณ์เชิงกลยุทธ์และความสามารถในการป้องกันการคาดการณ์เชิงปฏิบัติการ และภารกิจดังกล่าวเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของสหรัฐฯ ที่มีต่อพันธมิตรและหุ้นส่วนในภูมิภาค ตลอดจนแสดงให้เห็นถึงความพร้อมและความสามารถในการปฏิบัติการทั่วโลกของเครื่องบิน บี-1 การส่งกำลังไปยังกวมซึ่งเป็นดินแดนของสหรัฐฯ ที่อยู่ห่างจากแคลิฟอร์เนียไปทางตะวันตกประมาณ 9,300 กิโลเมตร และห่างจากฟิลิปปินส์ไปทางตะวันออก 2,600 กิโลเมตร ทำให้เครื่องบินทิ้งระเบิดสามารถปฏิบัติการรุดหน้าไปในภูมิภาคอินโดแปซิฟิกได้จากสถานที่ต่าง ๆ ของสหรัฐฯ ทั้งในต่างประเทศและในทวีปด้วยความพร้อมรับมือและความยืดหยุ่นในการปฏิบัติการที่เพิ่มขึ้น
“การปรากฏตัวในกวมของเราและการบินทั่วทั้งภูมิภาคมีจุดประสงค์เชิงกลยุทธ์สองประการ” พ.ท. ฮอบส์กล่าว “คือ การสร้างหลักประกันให้แก่พันธมิตรในภูมิภาคของเราผ่านการปรากฏตัวอย่างสม่ำเสมอและการร่วมมือกันแบบพหุภาคี และการป้องปรามปรปักษ์ของสหรัฐฯ ที่ยังคงคุกคามเสถียรภาพของเขตอิทธิพลทางการทูต การทหาร และเศรษฐกิจของโลก”