ความท้าทาย เชิงกลยุทธ์

ผู้บัญชาการกองบัญชาการยุทธศาสตร์สหรัฐฯ: คู่แข่งที่มีความสามารถด้านนิวเคลียร์ คือต้นเหตุของภัยคุกคามที่ซับซ้อน
เจ้าหน้าที่ ฟอรัม
กองบัญชาการทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ที่ฐานทัพอากาศอัฟฟุต ซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองโอมาฮา รัฐเนแบรสกา ได้ผนวกรวมการควบคุมทางนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ และภารกิจการบังคับบัญชา เข้ากับความรับผิดชอบระดับโลก ในภารกิจโจมตีและป้องกันขีปนาวุธ กองบัญชาการดังกล่าวมีหน้าที่รับผิดชอบในการช่วยให้ผู้นำสหรัฐฯ มีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับภัยคุกคามจากทั่วโลก ตลอดจนวิธีการและตัวเลือกที่เป็นไปได้ในการตอบสนองต่อภัยคุกคามอย่างรวดเร็ว
กองบัญชาการยุทธศาสตร์สหรัฐฯ ยับยั้งการโจมตีเชิงยุทธศาสตร์และส่งกำลังพลเพื่อรับประกันความมั่นคงของสหรัฐฯ และพันธมิตร โดยมีหน้าที่เกลี้ยกล่อมความขัดแย้งทางยุทธศาสตร์ใด ๆ ที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังรับผิดชอบในการพัฒนาเงินทุนทางปัญญาเพื่อสร้างการป้องปรามเชิงยุทธศาสตร์ในศตวรรษที่ 21

กองบัญชาการแห่งนี้คือศูนย์ปฏิบัติการระดับโลก ซึ่งสร้างความตระหนักถึงสถานการณ์และมอบกลไกให้แก่ผู้บัญชาการกองบัญชาการยุทธศาสตร์สหรัฐฯ ในการบัญชาการและควบคุมกองกำลังยุทธศาสตร์แห่งชาติ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ฟอรัม ได้ดำเนินการสัมภาษณ์ผู้บัญชาการกองทัพเรือสหรัฐฯ พล.ร.อ. ชาร์ลส์ “ชาส์” เอ ริชาร์ด และหารือเกี่ยวกับการป้องปรามในยุคแห่งการแข่งขันทางยุทธศาสตร์
ฟอรัม: สภาพแวดล้อมเชิงกลยุทธ์ระดับโลกมีความท้าทายใดบ้างในการยับยั้งการรุกรานและการบีบบังคับ คุณช่วยอธิบายได้หรือไม่ว่าความท้าทายด้านความมั่นคงในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก ในแง่ของเทคโนโลยีและระบบยุทโธปกรณ์เกิดขึ้นได้อย่างไร

พล.ร.อ. ริชาร์ด: นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของเรา ที่สหรัฐฯ กำลังเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้ามทางยุทธศาสตร์ซึ่งมีอาวุธนิวเคลียร์ถึงสองประเทศในเวลาเดียวกัน โดยทั้งสองฝ่ายต้องถูกป้องปรามด้วยวิธีที่ต่างกัน ปัจจุบัน ทั้งจีนและรัสเซียต่างมีความสามารถในการยกระดับความขัดแย้งเพียงฝ่ายเดียวไปสู่ระดับความรุนแรงต่าง ๆ ในทุกขอบเขตและในพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ใด ๆ ก็ตาม เราไม่เคยเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่มีความสามารถเช่นนี้มาก่อนในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จีนมีความก้าวร้าวมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ตามที่ระบุในคู่มือแนวทางยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงแห่งชาติชั่วคราว ฉบับล่าสุด ของสหรัฐฯ จีนไม่ควรถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามที่ด้อยกว่ารัสเซีย หากแต่เป็นภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์ที่รุกคืบเข้ามา โดยรวมแล้ว การขยายการปรับปรุงความทันสมัยของนิวเคลียร์เชิงยุทธศาสตร์ของจีนก่อให้เกิดความกังวลและช่วยเสริมสร้างการเติบโตของขีดความสามารถทั่วไป ซึ่งรายงานโดยกองบัญชาการสหรัฐฯ ประจำภาคพื้นอินโดแปซิฟิกและหน่วยบัญชาการพลรบอื่น ๆ
นอกจากนี้ ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา รัสเซียได้เพิ่มกองกำลังนิวเคลียร์เชิงยุทธศาสตร์ขึ้นประมาณร้อยละ 80 โดยเสริมสร้างศักยภาพในการสู้รบด้วยการรวมความพยายามในการปรับปรุงความทันสมัยและโครงการอาวุธใหม่ ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อรับรองความสามารถในการตอบโต้โดยนิวเคลียร์ทั้งสามเหล่า
พื้นฐานการป้องปรามภัยคุกคามดังกล่าวในเบื้องต้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลย และเรามุ่งมั่นที่จะป้องกันไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามบรรลุเป้าหมาย ตลอดจนกำหนดค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าสิ่งที่พวกเขาแสวงหา เพื่อให้ผลประโยชน์จากการยับยั้งชั่งใจมีค่ามากกว่าผลประโยชน์ที่รับรู้ได้จากการกระทำต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น พื้นฐานการป้องปรามเหล่านี้ได้รับการปรับใช้จากพื้นที่สีเทาตลอดช่วงของความขัดแย้ง ซึ่งในปัจจุบันทั้งไม่ใช่ความขัดแย้งเชิงเส้นและไม่สามารถคาดเดาได้ มีการดำเนินการป้องปรามอย่างต่อเนื่องทั้งในยามสงบ ไปจนถึงพื้นที่สีเทา ทั่วโลก ทุก ขอบเขต และในปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ ซึ่งจำเป็นต้องมีการวางแผนแบบบูรณาการและการจัดหาทรัพยากรจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ทั่วทั้งรัฐบาล และด้วยความร่วมมือกับพันธมิตรและหุ้นส่วน
ฟอรัม: บทบาทของกองบัญชาการยุทธศาสตร์สหรัฐฯ ในการป้องปรามและรักษาความมั่นคงในภูมิภาคอินโดแปซิฟิกคืออะไร
พล.ร.อ. ริชาร์ด: ภารกิจของกองบัญชาการยุทธศาสตร์สหรัฐฯ คือการยับยั้งการโจมตีเชิงยุทธศาสตร์และส่งกำลังพลตามคำสั่ง เพื่อรับประกันความมั่นคงของประเทศและสร้างความมั่นใจให้แก่พันธมิตรและหุ้นส่วนของเรา ในบทบาทดังกล่าว กองบัญชาการยุทธศาสตร์สหรัฐฯ กำหนดเงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติการของกองกำลังร่วมทั่วโลก แผนปฏิบัติการและขีดความสามารถทั้งหมดของกองบัญชาการถือได้ว่ายึดหลักด้านการป้องปรามเชิงยุทธศาสตร์ ไม่มีแผนใดและไม่มีขีดความสามารถใดของเราจะสามารถทำงานได้ตามที่ออกแบบไว้ หากการป้องปรามเชิงยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องปรามนิวเคลียร์ ล้มเหลว
ยิ่งไปกว่านั้น ขีดความสามารถของกองบัญชาการยุทธศาสตร์สหรัฐฯ ยังสนับสนุนพันธกิจในการป้องปรามที่ขยายออกไปอย่างเป็นทางการของประเทศ ซึ่งสร้างความมั่นใจให้แก่พันธมิตรและหุ้นส่วนในยุโรป เอเชีย และแปซิฟิก ไม่ควรมีประเทศใดสงสัยถึงความแข็งแกร่งของคำมั่นสัญญาในการป้องปรามที่ขยายออกไป ตลอดจนความแข็งแกร่งของขีดความสามารถของสหรัฐฯ และพันธมิตรในการยับยั้งการรุกรานทางนิวเคลียร์หรือที่ไม่ใช่นิวเคลียร์ที่อาจเกิดขึ้นจากฝ่ายตรงข้าม หากจำเป็น

จ.ต. คอลิน ฮอลโลเวลล์/กองทัพอากาศสหรัฐฯ
ฟอรัม: เหตุใดแนวทางแบบพหุภาคีจึงมีความสำคัญต่อความมั่นคงในภูมิภาค คุณมีแนวทางสำหรับประเทศจีนที่ไม่เหมือนใครหรือไม่ แล้วก็เกาหลีเหนือ และรัสเซีย
พล.ร.อ. ริชาร์ด: แนวทางแบบพหุภาคีมีความสำคัญต่อความมั่นคง เนื่องจากพันธมิตรของเราเป็นผู้เสริมสร้างความกว้างขวาง ความลึกซึ้ง และการแก้ไขแนวทางดังกล่าว การต่อต้านวิสัยทัศน์ระบอบเผด็จการของระเบียบโลกของพันธมิตรช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ระบบระหว่างประเทศที่อิงตามกฎและขยายผลประโยชน์ของการยับยั้งชั่งใจในประเทศคู่แข่งของเรา
เราต้องยกระดับขีดความสามารถให้มากที่สุดเพื่อป้องกันความล้มเหลวในการป้องปรามเชิงยุทธศาสตร์ ตลอดจนมองหาวิธีการลดความเสี่ยงจากการคำนวณวิกฤตที่ผิดพลาด โดยการมีส่วนร่วมของทุกองค์ประกอบของอำนาจระดับชาติเพื่อสื่อสารการแก้ปัญหาของเราต่อฝ่ายที่อาจเป็นศัตรู หน่วยบัญชาการดังกล่าวพร้อมที่จะให้การสนับสนุนความพยายามทางการทูตในฐานะที่เป็นวิถีทางแรกเริ่ม โดยใช้วิธีการในการป้องปรามภัยคุกคามเชิงยุทธศาสตร์ที่สร้างสรรค์และเชื่อถือได้ และกำหนดเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยต่อการควบคุมสภาวะแวดล้อมของโลก
ฟอรัม: คุณจะนิยามการป้องปรามเชิงยุทธศาสตร์ ในศตวรรษที่ 21 อย่างไร
พล.ร.อ. ริชาร์ด: คู่มือแนวทางยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงแห่งชาติฉบับชั่วคราวของสหรัฐฯ เน้นย้ำว่า “เราต้องต่อสู้กับความเป็นจริงที่ว่าการกระจายอำนาจทั่วโลกกำลังเปลี่ยนแปลง ซึ่งก่อให้เกิดภัยคุกคามรูปแบบใหม่” จีนและรัสเซียกำลังท้าทายความแข็งแกร่งของเราผ่านกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ นำมาซึ่งการตอบสนองในทุกภาคส่วนของรัฐบาลทั้งแบบร่วมมือกันและแบบบูรณาการ
การแข่งขันเชิงยุทธศาสตร์นี้ส่งผลให้เราต้องเตรียมพร้อมสำหรับการคุกคามใด ๆ ในทุกพื้นที่ตลอดเวลา ฝ่ายที่อาจเป็นศัตรูกำลังเสริมสร้างขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์ขั้นสูง จัดหากองกำลังแบบดั้งเดิมที่มีความสามารถเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ของระดับความขัดแย้งทางอาวุธ เพื่อพยายามให้ได้มาซึ่งข้อได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์ในการบรรลุวัตถุประสงค์ระดับชาติของตน
สหรัฐฯ ร่วมด้วยพันธมิตรและหุ้นส่วนยังต้องคำนึงถึงความขัดแย้งที่เป็นไปได้ ซึ่งนำไปสู่สภาวะที่อาจผลักดันให้ฝ่ายตรงข้ามพิจารณาว่าการใช้นิวเคลียร์เป็นตัวเลือกที่ส่งผลกระทบน้อยที่สุด

จ.อ. ไบรอัน ทอมฟอร์ด/กองทัพเรือสหรัฐฯ
ฟอรัม: สหรัฐฯ ต้องทำอย่างไรเพื่อรักษาความได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
พล.ร.อ. ริชาร์ด: สหรัฐฯ ต้องการกองกำลังด้านนิวเคลียร์ที่ทันสมัยเต็มรูปแบบและโครงสร้างพื้นฐานที่ช่วยสนับสนุนเพื่อให้แน่ใจว่าภาระผูกพันอย่างเคร่งครัดในการคุ้มครองความมั่นคงของชาวอเมริกันได้รับการสนับสนุน
ตามที่ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีทุกสมัยให้การยืนยันมาตลอด 60 ปีที่ผ่านมา กองกำลังนิวเคลียร์ที่ปลอดภัย มั่นคง และมีประสิทธิภาพยังคงเป็นการผสมผสานความสามารถที่น่าเชื่อถือที่สุดในการป้องปรามการโจมตีเชิงยุทธศาสตร์ ซึ่งโครงการที่ได้รับการบันทึกต่าง ๆ ในปัจจุบันได้แสดงให้เห็นหลายต่อหลายครั้งว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการปฏิบัติตามข้อกำหนดเหล่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น จุดแข็งของเรายังอยู่ที่ความสามารถในการทำงานร่วมกันอีกด้วย การบูรณาการแผนงานและทรัพยากรของเราตามยุทธศาสตร์ทางการทหารเกี่ยวกับภัยคุกคามตามที่กำหนดโดยทั่วไป รวมถึงข้อมูลจากทุกองค์ประกอบของอำนาจระดับชาติ จะทำให้เรารับมือกับภัยคุกคามในระยะยาวได้
ฟอรัม: คุณจะอธิบายลำดับความสำคัญในการบรรลุการป้องปรามเชิงยุทธศาสตร์แบบบูรณาการและสำหรับปฏิบัติการแบบบูรณาการทั่วโลกอย่างไร
พล.ร.อ. ริชาร์ด: กองบัญชาการยุทธศาสตร์สหรัฐฯ จะยังคงมีส่วนร่วมกับผู้บัญชาการทหารคนอื่น ๆ เพื่อบูรณาการการวางแผน การปฏิบัติการ และกิจกรรมต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ตลอดจนเน้นย้ำความสำคัญของการสอดประสานการใช้เครื่องมือทั้งหมดของอำนาจระดับชาติเพื่อการป้องปรามเชิงยุทธศาสตร์
ความสำคัญของพันธมิตรในสมการการป้องปรามเชิงยุทธศาสตร์จะต้องได้รับการกล่าวถึงตามจริง กล่าวคือ ภัยคุกคามดังกล่าวสามารถปรากฏได้ทั้งในอวกาศหรือพื้นที่ไซเบอร์ และการมีส่วนร่วมของพันธมิตรในการพัฒนาการป้องปรามที่เหมาะสมช่วยให้เราบรรลุการรักษาความมั่นคงโดยรวมของเราได้

ฟอรัม: เรือดำน้ำมีความสำคัญต่อการป้องกันอินโดแปซิฟิกอย่างไร
พล.ร.อ. ริชาร์ด: นิวเคลียร์สามเหล่าประกอบขึ้นมาจากคุณลักษณะสามประการ (ทางบก ทางทะเล และทางอากาศ) เรือดำน้ำติดตั้งขีปนาวุธทิ้งตัวพลังงานนิวเคลียร์เป็นรูปแบบการโจมตีด้วยนิวเคลียร์ที่มีความสามารถในการอยู่รอดและทนทานที่สุดของประเทศ เอสเอสบีเอ็น ซึ่งย่อมาจากเรือดำน้ำติดตั้งขีปนาวุธทิ้งตัวพลังงานนิวเคลียร์ มีส่วนช่วยในการป้องปรามและการส่งข้อความรับรองผ่านกองเรือของเราบางส่วนหรือทั้งหมด เรือดำน้ำติดตั้งขีปนาวุธทิ้งตัวพลังงานนิวเคลียร์ของเราจะลาดตระเวนไปตามมหาสมุทรต่าง ๆ ทั่วโลกโดยแทบจะไม่ถูกตรวจจับ พร้อมด้วยขีดความสามารถในการตอบสนองที่มั่นใจได้ในทุกสถานการณ์ด้วยขีปนาวุธข้ามทวีป ไทรเดนท์ ทู ดี-5
ขีดความสามารถในการตอบโต้การโจมตีที่มั่นใจได้นี้จะแก้ไขช่องโหว่ของการป้องปรามในรูปแบบที่แตกต่างจากส่วนอื่น ๆ ของนิวเคลียร์สามเหล่าดังกล่าว เมื่อควบคู่ไปกับความสามารถในการอยู่รอด ขีดความสามารถที่สำคัญนี้จะช่วยให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีอิสระในด้านตัวเลือกการตอบสนองอย่างมีนัยสำคัญ
ฟอรัม: คุณวางแผนที่จะปรับปรุงความทันสมัยขององค์ประกอบด้านการป้องปรามเชิงยุทธศาสตร์ทางบก ทางทะเล และทางอากาศอย่างไร
พล.ร.อ. ริชาร์ด: กองบัญชาการยุทธศาสตร์สหรัฐฯ ใช้ประโยชน์จากขีดความสามารถต่าง ๆ ที่ได้จากหน่วยงานบริการส่วนบุคคล กองบัญชาการดังกล่าวทำงานร่วมกับหน่วยงานบริการต่าง ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าการทำงานเป็นไปตามข้อกำหนดที่จำเป็น เมื่อองค์ประกอบของนิวเคลียร์สามเหล่าได้รับรวบรวมและพร้อมที่จะสั่งการและควบคุมระบบอาวุธใหม่ ๆ เหล่านี้เมื่อพร้อมใช้งาน
ฟอรัม: เป้าหมายของเทคโนโลยีการโจมตีด้วยความเร็วเหนือเสียงมีอะไรบ้าง เราตามหลังคู่แข่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเราอยู่หรือไม่
พล.ร.อ. ริชาร์ด: อาวุธที่มีความเร็วเหนือเสียง แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มความสำเร็จของการเป็นส่วนเติมเต็มสิ่งที่กองกำลังนิวเคลียร์จำเป็นต้องใช้เพื่อขัดขวางฝ่ายตรงข้ามต่อไป ตลอดจนมอบโอกาสในการดำเนินการเพื่อลดจำนวนอาวุธนิวเคลียร์ในยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงแห่งชาติ อาวุธที่มีความเร็วเหนือเสียงแบบดั้งเดิมจะเข้ามามีบทบาทสำคัญโดยให้ทางเลือกแก่ประธานาธิบดีในการควบคุมเป้าหมายที่มีมูลค่าสูง มีข้อจำกัดด้านเวลา และมีความเสี่ยงอื่น ๆ โดยไม่จำเป็นต้องผ่านเกณฑ์นิวเคลียร์
ฝ่ายที่อาจเป็นศัตรูของเราได้ยกระดับความสำคัญของการสร้างอาวุธจากเทคโนโลยีที่มีความเร็วเหนือเสียงต่าง ๆ เป็นอย่างมาก ซึ่งก่อให้เกิดช่องโหว่ด้านขีดความสามารถที่อาจเกิดขึ้น และเราต้องไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น
การพัฒนาและการจัดหาอาวุธที่มีความเร็วเหนือเสียงเป็นข้อกำหนดและลำดับความสำคัญสูงสุดของกองบัญชาการยุทธศาสตร์สหรัฐฯ มาอย่างยาวนาน กองบัญชาการยุทธศาสตร์สหรัฐฯ จะใช้ตัวเลือกการโจมตีระยะไกลแบบดั้งเดิมที่ตอบสนองต่อภัยคุกคามจากระยะไกลและได้รับการป้องกันเมื่อกองกำลังอื่นไม่พร้อมใช้งาน ปฏิเสธการเข้าถึง หรือไม่ต้องการตอบสนอง
ฟอรัม: แล้วเรื่องการป้องกันขีปนาวุธเป็นเช่นไร
พล.ร.อ. ริชาร์ด: การป้องกันขีปนาวุธยังคงเป็นองค์ประกอบที่สำคัญสำหรับการป้องปรามเชิงยุทธศาสตร์ที่เหมาะสมและครอบคลุมในระดับภูมิภาค
กองบัญชาการยุทธศาสตร์สหรัฐฯ ดำเนินการตามหน้าที่ในการประสานงานการวางแผนและการสนับสนุนปฏิบัติการด้านการป้องกันขีปนาวุธทั่วโลก รวมถึงการสนับสนุนด้านขีดความสามารถและการปรับปรุง ตลอดจนการฝึกอบรมและการศึกษาร่วมกัน โดยประสานงานกับกองบัญชาการรบ หน่วยงานบริการ และหน่วยงานต่าง ๆ