หัวหน้าฝ่ายสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติเยือนจีนท่ามกลางข้อกล่าวหาถึงการละเมิดซินเจียง
ดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส
ข้อกล่าวหาถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชนกลุ่มน้อยในเขตซินเจียงโดดเด่นเหนือกว่าการเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนของเจ้าหน้าที่ด้านสิทธิระดับสูงแห่งองค์การสหประชาชาติ
การเดินทางของนางมิเชล บาเชเล็ต ถือเป็นการเยือนจีนครั้งแรกโดยข้าหลวงใหญ่แห่งองค์การสหประชาชาติเพื่อสิทธิมนุษยชนนับตั้งแต่ พ.ศ. 2548 โดยกลุ่มปกป้องสิทธิต่างเกรงว่านี่อาจเป็นการกลบเกลื่อนการละเมิดของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
สมาชิกของอุยกูร์ คาซัค และชนกลุ่มน้อยมุสลิมอื่นประมาณ 1 ล้านคนถูกกักขังอยู่ในสิ่งที่ได้มีการอธิบายว่าเป็นการรณรงค์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเพื่อกำจัดอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของพวกเขา เจ้าหน้าที่จีนอ้างการกระทำของตนว่าเป็นการฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยและส่งเสริมความสามัคคีทางชาติพันธุ์
ประเทศต่าง ๆ รวมถึงเบลเยียม แคนาดา เนเธอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศว่าการละเมิดอุยกูร์และชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ ของรัฐบาลจีนถือเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2565 หลักฐานปรากฏให้เห็นว่านายสี จิ้นผิง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนรับทราบถึงการรณรงค์การกักขังและสนับสนุนความต่อเนื่องและการขยายตัวของการรณรงค์อย่างจริงจัง ตามรายงานของนิตยสารออนไลน์ ไชน่าไฟล์ ซึ่งจัดพิมพ์โดยศูนย์ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่สถาบันเอเชียโซไซตี บันทึกคำปราศรัยของรัฐบาลภายในโดยนายจ้าว เค่อจื้อ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน ชี้ให้เห็นถึงความรู้ของนายสีเกี่ยวกับสิ่งที่เรียกอีกอย่างว่าเป็นการรณรงค์ลัทธิหัวรุนแรงสุดโต่งและการปรับทัศนคติ รวมถึงบทบาทของนายสีในการให้เงินทุนและจัดหาพนักงานในสถานกักกันต่าง ๆ ไชน่าไฟล์ รายงานเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2565
องค์กรสิทธิมนุษยชนไม่แสวงหากำไรที่ได้รับอนุญาตจากรัฐสภาสหรัฐฯ ได้รวบรวมคำปราศรัย ภาพ และเอกสารหลายพันรายการที่รั่วไหลออกมาจากเครือข่ายตำรวจจีนภายในที่เป็นความลับและตั้งชื่อว่า แฟ้มตำรวจซินเจียง โดยยืนยันข้อพิสูจน์ว่าเป็น “ลักษณะคล้ายคุกของค่ายปรับทัศนคติ” และแสดงให้เห็นว่านายสีและ “ผู้นำระดับสูงของจีนคนอื่น ๆ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรณรงค์การกักขังจำนวนมากดังกล่าว” มูลนิธิรำลึกถึงผู้เสียหายจากลัทธิคอมมิวนิสต์ได้เผยแพร่ไฟล์ดังกล่าวที่ระบุว่าได้รับการรับรองโดยนักวิชาการและผู้สื่อข่าวแล้ว ผ่านทางออนไลน์ที่ www.xinjiangpolicefiles.org (ภาพ: เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังผู้ถูกคุมขังชาวอุยกูร์ที่ค่ายกักกันในเขตซินเจียงทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีนเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2561)
การเยือนของนางบาเชเล็ตเป็นเวลาหกวันเริ่มขึ้นที่เมืองกวางโจวทางใต้ และคาดว่าจะรวมถึงเมืองคัชการ์และเมืองอุรุมชีในซินเจียงทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีนด้วย
นายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนกล่าวว่านางบาเชเล็ตจะมี “การแลกเปลี่ยนกับทุกภาคส่วนอย่างครอบคลุม” จะไม่มีผู้สื่อข่าวเดินทางไปกับนางบาเชเล็ต แต่เธอจะ “อธิบายรายละเอียดโดยย่อเกี่ยวกับการเยือนของเธอเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม” นายหวังกล่าว
ไม่แน่ชัดว่านางบาเชเล็ตจะเยือนค่ายกักกันที่จีนอ้างว่าเป็นศูนย์เพื่อการฝึกอบรมและการศึกษาทางอาชีพหรือไม่ หรือเธอจะไปเจอผู้ที่ถูกคุมขังจากการแสวงหาเสรีภาพทางศาสนา การเมือง และวัฒนธรรมหรือไม่ นายอีเลียม ทอห์ที นักเศรษฐศาสตร์และผู้ได้รับรางวัลซาคารอฟเพื่อเสรีภาพทางความคิดระดับนานาชาติ ก็เป็นหนึ่งในนั้น
นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวหาจีนว่ามีการบังคับใช้แรงงาน การทำให้เป็นหมัน และการพลัดพรากเด็กไปจากพ่อแม่ อีกทั้งการถือศีลอดในเดือนรอมฎอนหรือการขายหนังสืออิสลามยังถือเป็นสิ่งต้องห้ามอีกด้วย ตามรายงานของกลุ่มตรวจสอบของมูลนิธิตุ้ยฮวา
นางบาเชเล็ต อดีตประธานาธิบดีของชิลี มีแผนที่จะหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงในระดับประเทศและระดับท้องถิ่น องค์กรภาคประชาสังคม ตัวแทนธุรกิจ และนักวิชาการต่าง ๆ
กลุ่มสิทธิมนุษยชนยังเรียกร้องข้อมูลจากจีนเกี่ยวกับนโยบายของจีนที่จำกัดสิทธิทางวัฒนธรรมของชนกลุ่มน้อยในทิเบตและมองโกเลียใน อีกทั้งการปราบปรามเสรีภาพในฮ่องกงอย่างรุนแรงยังทำให้สหรัฐฯ และประเทศอื่น ๆ คว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ของจีน
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ระบุว่า นางบาเชเล็ตต้อง “จัดการกับการทำอาชญากรรมต่อมนุษยชาติและการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่รุนแรงต่าง ๆ”
“การเยือนซินเจียงของนางมิเชล บาเชเล็ตที่ล่าช้ามายาวนานถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญในการจัดการกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเขตนี้ อย่างไรก็ตาม ยังจะเป็นการต่อสู้อย่างต่อเนื่องของรัฐบาลจีนในการพยายามปกปิดความจริงเช่นกัน” นางแอกเนส คัลลามาร์ดเลขาธิการของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชันแนล กล่าวในแถลงการณ์ “องค์การสหประชาชาติต้องดำเนินการอีกขั้นเพื่อบรรเทาปัญหานี้ และต้องต่อต้านการนำไปใช้ที่สนับสนุนการโฆษณาชวนเชื่ออย่างโจ่งแจ้ง”
การเดินทางของนางบาเชเล็ตนำมาซึ่งการคาดหวังให้มีการเปิดเผยรายงานด้านสิทธิมนุษยชนของเธอซึ่งเป็นที่รอคอยมาอย่างยาวนานในซินเจียง กลุ่มปกป้องสิทธิเกือบ 200 กลุ่มได้เรียกร้องให้นางบาเชเล็ตเผยแพร่ผลการไปเยือนของเธอ
เจ้าหน้าที่ฟอรัมมีส่วนช่วยในรายงานฉบับนี้
ภาพจาก: ฤดูหนาวอันขมขื่นที่อ่อนโยน
