ติดอันดับ

การประชุมกองกำลังภาคพื้นดินแปซิฟิกได้เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของกองกำลังทางบกในด้านเสถียรภาพของอินโดแปซิฟิก

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม

กองกำลังทางบกยังคงมีความสำคัญในการสร้างสันติภาพและเสถียรภาพในอินโดแปซิฟิก แม้ว่าพื้นที่ดังกล่าวจะมีลักษณะเฉพาะที่เป็นมหาสมุทรและทะเลขนาดใหญ่ก็ตาม ผู้บัญชาการกองทัพบกสหรัฐฯ ประจำภูมิภาคแปซิฟิก กล่าวต่อผู้เข้าร่วมการประชุมครั้งใหญ่ที่สุดของภูมิภาคสำหรับกองทัพเมื่อกลางเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2565

“มหาอำนาจทางบกในภูมิภาคนี้มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งมาเป็นเวลานานแล้ว” พล.อ. ชาร์ลส์ ฟลินน์ (ภาพ) กล่าวในระหว่างการเปิดการประชุมสัมมนาและนิทรรศการของกองทัพบกในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งเป็นงานกิจกรรมของสมาคมกองทัพบกสหรัฐอเมริกา

ภูมิภาคอินโดแปซิฟิกมีจำนวนประชากรมากถึงร้อยละ 60 ของประชากรโลกและมีภัยพิบัติถึงร้อยละ 80 ของภัยพิบัติทางธรรมชาติ ภูมิภาคดังกล่าวได้รับผลกระทบจากข้อพิพาทพรมแดน ระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น ลัทธิหัวรุนแรง และการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นในด้านทรัพยากร เช่น น้ำ แร่ธาตุ และอาหาร ตลอดจน “ความท้าทายที่เพิ่มขึ้นและมีการรุกรานอื่น ๆ ที่ขัดต่อสิทธิอธิปไตยและชาติอธิปไตย” พล.อ. ฟลินน์ระบุ

เมื่อเผชิญกับปัจจัยที่ไม่มีเสถียรภาพดังกล่าว ความสัมพันธ์และความพร้อมของเครือข่ายมหาอำนาจทางบกจะทำให้เกิด “ความรู้สึกทางไหวพริบหรือสัญชาตญาณและความรู้สึกถึงรากฐานว่าเกิดอะไรขึ้นอย่างแท้จริง” พล.อ. ฟลินน์ระบุ “ด้วยมหาอำนาจทางบกนี้ เราจะปกป้องประเทศของเรา รักษาพรมแดนของเรา ทำความเข้าใจถึงกระแสอำนาจของภูมิภาค และความท้าทายต่าง ๆ เราเข้าใจสิ่งเหล่านี้ในลักษณะที่เกิดขึ้นเมื่อทหารทำงานร่วมกับทหารบนบกเท่านั้น”

ผู้นำและบุคลากรทางทหาร ตลอดจนเจ้าหน้าที่ของรัฐ และตัวแทนด้านอุตสาหกรรมกลาโหมเกือบ 2,000 คนจากประมาณ 24 ประเทศได้รวมตัวกันที่เมืองโฮโนลูลู รัฐฮาวาย เพื่อจัดการประชุมกองกำลังภาคพื้นดินแปซิฟิก ประจำ พ.ศ. 2565 ถือเป็นครั้งแรกของการพบปะกันในสถานที่จริงนับตั้งแต่ พ.ศ. 2562 ที่มีการจัดงานกิจกรรมของสมาคมกองทัพบกสหรัฐอเมริกาเนื่องจากการระบาดใหญ่

พล.ท. ริก เบอร์ ผู้บัญชาการกองทัพออสเตรเลีย กล่าวในระหว่างการปราศรัยสำคัญของตนว่า สำหรับกองกำลังทางบกของออสเตรเลีย ช่วงเวลาที่มีการแทรกแซงนั้นส่วนใหญ่ถูกใช้ไปกับวิกฤตการณ์ภายในประเทศ เช่น โควิด-19 และไฟป่าที่รุนแรง “การมีอยู่ ความเพียรพยายาม และการที่ยังคงมีอำนาจอยู่นั้นล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญของสิ่งที่กองกำลังทางบกสามารถจัดหาให้ได้” พล.ท. เบอร์ ระบุ

พล.ท. เบอร์เน้นย้ำถึงความพยายามของออสเตรเลียในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางพันธมิตรและหุ้นส่วน รวมถึงการขยายการฝึกซ้อมทวิภาคีและพหุภาคี เช่น การฝึกซ้อมทาลิสมัน เซเบอร์ และการฝึกซ้อมเซาเทิร์นแจ็คคารู “เราไม่ควรชะล่าใจกับความร่วมมือต่าง ๆ” พล.ท. เบอร์กล่าวและเสริมว่า การร่วมมือกัน “ช่วยให้เราได้มุมมองความคิดที่กว้างขึ้นกว่าการคิดถึงเพียงแต่ตัวเอง… และปรับปรุงด้านความพร้อมรับมือของเราอีกด้วย”

การประชุมกองกำลังภาคพื้นดินแปซิฟิกแสดงให้เห็นถึงการอภิปรายระดับนานาชาติในหัวข้อต่าง ๆ รวมถึงการยับยั้งการรุกรานผ่านความพร้อมร่วมกันและแนวร่วม การป้องกันภัยทางอากาศและขีปนาวุธแบบบูรณาการ ตลอดจนปฏิบัติการแบบหลายมิติ กองทัพทหาร บริษัททางกลาโหม และองค์กรทางวิชาการหลายสิบแห่งได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการของตนในนิทรรศการครั้งนี้

“การประชุมกองกำลังภาคพื้นดินแปซิฟิกสร้างและดำรงรักษาสายสัมพันธ์ที่สร้างความไว้ใจในหมู่กองทัพ ซึ่งช่วยให้เรามีความเข้าใจเกี่ยวกับความคิดริเริ่มและความกังวลของพันธมิตรและหุ้นส่วนมากขึ้น” พล.ต. โจเอล “เจบี” โวเวลล์ ผู้บัญชาการกองทัพบกสหรัฐฯ ประจำภาคพื้นญี่ปุ่น กล่าวในข่าวประชาสัมพันธ์

ศูนย์ความเป็นผู้นำของสมาคมกองทัพบกสหรัฐอเมริการ่วมกับการประชุมกองกำลังภาคพื้นดินแปซิฟิก ได้ดำเนินการโซลาเรียมกับผู้นำรุ่นเยาว์เป็นครั้งแรกเพื่อให้การพัฒนาวิชาชีพแก่นายทหารชั้นสัญญาบัตร นายทหารที่ไม่ใช่ชั้นสัญญาบัตร พันจ่าเฉพาะทาง และบุคลากรพลเรือน ผู้เข้าร่วมเกือบ 100 คนซึ่งเป็นตัวแทนของประเทศพันธมิตรและหุ้นส่วน ได้แก่ ออสเตรเลีย แคนาดา ฟิจิ ญี่ปุ่น มองโกเลีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ได้ร่วมมือกันในการฝึกซ้อมที่มุ่งเน้นไปที่การใช้อำนาจทางเศรษฐกิจและการทูตของสาธารณรัฐประชาชนจีนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นอกจากนี้ ความร่วมมือแบบพหุภาคียังเป็นหัวข้อในการอภิปรายเกี่ยวกับการฝึกซ้อมร่วมแบบผสมผสานในอินโดแปซิฟิก”การฝึกซ้อมระหว่างประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกเป็นสิ่งจำเป็น” พล.ต. มาร์ค โกอินนา ผู้บัญชาการกองทัพปาปัวนิวกินี ระบุ

แม้ว่ากองกำลังป้องกันเกาะแปซิฟิกจะมีขนาดเล็กและมีขีดความสามารถจำกัดเมื่อเทียบกับพันธมิตรทางการทหารอย่างออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และสหรัฐฯ แต่กองกำลังป้องกันหมู่เกาะแปซิฟิกก็นำมาซึ่ง “ขีดความสามารถและความมุ่งมั่นเข้าสู่โต๊ะเจรจา” โดยที่ทั้งสองสิ่งนั้นถือเป็นตัวคูณกำลังรบในการรับมือกับภัยคุกคามต่อเสถียรภาพในภูมิภาค พล.ต. โกอินนากล่าว “แม้ว่าเราจะมีส่วนร่วมในภารกิจเพียงเล็กน้อย แต่เราต้องการให้พันธมิตรของเราเข้าใจ เคารพ และให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของเรา”

 

ภาพจาก: ฌอน คิมมองส์/กองทหารรักษาการณ์แห่งกองทัพบกสหรัฐฯ ประจำภาคพื้นญี่ปุ่น

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button