ติดอันดับอินโดแปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้างเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ

ญี่ปุ่นและสหภาพยุโรปเรียกร้องให้มีการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมโดยการร่วมมือกันในอินโดแปซิฟิก

ดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ผู้นำญี่ปุ่นและสหภาพยุโรปได้ตกลงที่จะผลักดันมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย และแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนในอินโดแปซิฟิก

ผู้นำทั้งสองพยายามที่จะเสริมสร้างความร่วมมือและเพิ่มการมีส่วนร่วมในการเผชิญหน้ากับความก้าวร้าวที่เพิ่มขึ้นของสาธารณรัฐประชาชนจีน

นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ซึ่งจัดการเจรจากับนางเออร์ซูลา ฟอน แดร์ เลเยิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และนายชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป ที่กรุงโตเกียวเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2565 กล่าวว่า ญี่ปุ่นสนับสนุนมาตรการคว่ำบาตรที่เข้มงวดต่อรัสเซียและสนับสนุนยูเครนอย่างเพียงพอเนื่องจากสงคราม “ทำให้รากฐานความสงบเรียบร้อยของโลกสั่นคลอน ไม่ใช่แค่ในยุโรปเท่านั้นแต่ยังรวมถึงเอเชียด้วย”

นายคิชิดะกล่าวว่า “ความมั่นคงในยุโรปและในอินโดแปซิฟิกเป็นสิ่งที่แยกออกจากกันไม่ได้” (ภาพ: จากซ้าย นายชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และนางเออร์ซูลา ฟอน แดร์ เลเยิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ก่อนการเจรจาในกรุงโตเกียว)

ผู้นำสหภาพยุโรปทั้งสองกล่าวว่าตนต้องการมีบทบาทมากขึ้นในภูมิภาคนี้และตกลงที่จะเสริมสร้างความร่วมมือในด้านต่าง ๆ รวมถึงการพลิกโฉมด้านดิจิทัล พลังงานหมุนเวียน และสภาพภูมิอากาศ

“อินโดแปซิฟิกเป็นภูมิภาคที่เจริญรุ่งเรือง และยังเป็นสมรภูมิแห่งความตึงเครียดอีกด้วย เราต้องการแสดงความรับผิดชอบมากขึ้นในภูมิภาคที่มีความสำคัญยิ่งต่อความเจริญรุ่งเรืองของเรา” นางฟอน แดร์ เลเยินกล่าว

พร้อมเสริมว่า “สงครามป่าเถื่อน” ของรัสเซียต่อยูเครนก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับอิทธิพลและความมุ่งมั่นที่เพิ่มขึ้นของจีน

นายมิเชลกล่าวว่า ความร่วมมือกับยูเครนมีความสำคัญอย่างยิ่งในยุโรป และในอินโดแปซิฟิกก็สำคัญเช่นกัน

“เราเชื่อว่าจีนจะต้องยืนหยัดเพื่อปกป้องระบบพหุภาคีที่ได้รับประโยชน์จากการพัฒนาประเทศของตน” นายมิเชลกล่าว พร้อมระบุว่าสหภาพยุโรปต้องการ “กระชับความร่วมมือกับจีนที่มีความแน่วแน่มากขึ้น”

เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นกล่าวว่า การเคลื่อนไหวของสหภาพยุโรปสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากจีนท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับปัญหาสิทธิมนุษยชนของรัฐบาลจีนและปัญหาอื่น ๆ ในภูมิภาคนี้

ญี่ปุ่นได้เข้าร่วมกับประเทศอื่น ๆ อย่างรวดเร็วในการคว่ำบาตรหลังจากการรุกรานยูเครนของรัสเซียในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 มีความกลัวมากขึ้นเรื่อย ๆ ในกรุงโตเกียวว่าสงครามดังกล่าวอาจทำให้จีนต้องดำเนินการที่ก้าวร้าวมากขึ้นในทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้ ซึ่งการอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนของรัฐบาลจีนซ้อนทับกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีขนาดเล็กกว่า

ญี่ปุ่นได้อายัดสินทรัพย์ของผู้นำรัสเซีย รวมถึงนายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย และเจ้าหน้าที่ของรัฐและมหาเศรษฐีที่ใกล้ชิดกับเขา ตลอดจนธนาคารที่สำคัญ นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังได้จำกัดการค้าขายและประกาศการตัดสินใจที่จะยกเลิกการนำเข้าถ่านหินและน้ำมันดิบจากรัสเซีย

ภาพจาก: แอสโซซิเอทเต็ด เพรส

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

บทความที่เกี่ยวข้อง

Back to top button