เมียนมาร์: บริษัทที่อยู่ในบัญชีดำของสหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ ถูกควบคุมโดยกองทัพเมียนมาร์

สหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกาได้ออกมาตรการคว่ำบาตรกลุ่มบริษัทที่ควบคุมโดยกองทัพเมียนมาร์ (พม่า) ภายหลังการทำรัฐประหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 และการปราบปรามอย่างร้ายแรง โดยรัฐบาลสหรัฐฯ เรียกมาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวว่าเป็นการตอบโต้ต่อ “ความรุนแรงและการละเมิดที่น่ารังเกียจ”

กระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่ามาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวมุ่งเป้าไปที่บริษัทเมียนมาร์อีโคโนมิกโฮลดิงส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทเมียนมาร์อีโคโนมิกคอร์ปอเรชั่น จำกัด สหราชอาณาจักรออกมาตรการคว่ำบาตรในลักษณะที่คล้ายคลึงกันต่อบริษัทเมียนมาร์อีโคโนมิกโฮลดิงส์ จำกัด (มหาชน) โดยอ้างถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงของกองทัพต่อชาวมุสลิมโรฮีนจา

มาตรการคว่ำบาตรต่อหน่วยงานซึ่งควบคุมเศรษฐกิจส่วนใหญ่ของเมียนมาร์เป็นบทลงโทษที่สำคัญที่สุดที่เรียกเก็บผลประโยชน์ทางธุรกิจปัจจุบันของกองทัพซึ่งมีตั้งแต่เบียร์และบุหรี่ไปจนถึงโทรคมนาคม เหมืองแร่ และอสังหาริมทรัพย์

ไม่นานหลังจากการประกาศเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2564 กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ประณามการใช้กำลังร้ายแรงของทางการเมียนมาร์ต่อผู้ประท้วงซึ่งทำให้พลเรือนหลายร้อยคนเสียชีวิต (ภาพ: พลเรือนชาวเมียนมาร์ประท้วงการรัฐประหารในระหว่างการเดินขบวนในย่างกุ้งเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2564)

“การกระทำที่น่ารังเกียจและโหดร้ายเหล่านี้ต่อเด็ก ๆ โดยมีเด็กอายุ 7 ปีรายหนึ่งซึ่งถูกยิงและเสียชีวิตในบ้านของเธอขณะนั่งบนตักของพ่อ แสดงให้เห็นถึงลักษณะที่น่ากลัวของรัฐบาลทหารพม่า (เมียนมาร์) ที่ทำร้ายประชาชนของตนเอง” นายเนด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าว

รัฐบาลสหรัฐฯ เคลื่อนไหวโดยการระงับสินทรัพย์ต่าง ๆ ที่ถือครองโดยหน่วยงานของเมียนมาร์ในสหรัฐฯ และเป็นมาตรการคว่ำบาตรครั้งล่าสุดที่มุ่งเป้าไปยังธนาคารกลางและนายพลระดับสูงของเมียนมาร์ นอกจากนี้ยังห้ามบริษัทหรือพลเมืองของสหรัฐฯ ซื้อขายหรือทำธุรกรรมทางการเงินกับบริษัทในเมียนมาร์อีกด้วย รอยเตอร์