หน่วยผึ้งทะเลแห่งกองทัพเรือสหรัฐฯ สร้างความร่วมมือที่แข็งแกร่งในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม
นับเป็นเวลาเกือบ 80 ปีหลังจากที่กองพันดังกล่าวได้รับการจัดตั้งขึ้นเพื่อสร้างฐานทัพในเขตการต่อสู้ของสงครามโลกครั้งที่สอง หน่วยผึ้งทะเลแห่งกองทัพเรือสหรัฐอเมริกายังคงแบ่งปันความเชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างเพื่อเสริมสร้างและสนับสนุนชุมชนทั่วทั้งภูมิภาคอินโดแปซิฟิกและภูมิภาคอื่น ๆ
เมื่อไม่นานมานี้ หน่วยผึ้งทะเลจากกองพันก่อสร้างเคลื่อนที่ทหารเรือ-5 ได้ดำเนินโครงการโครงสร้างพื้นฐานสำหรับโรงเรียนในติมอร์-เลสเตและฟิลิปปินส์จนสำเร็จลุล่วง ในขณะเดียวกันก็เริ่มดำเนินการก่อสร้างสถานทันตกรรมในปาปัวนิวกินี
หน่วยผึ้งทะเลได้ร่วมมือกับกองทัพติมอร์-เลสเตและกองพันทหารช่างที่ 1 แห่งกองทัพออสเตรเลีย เพื่อสร้างโรงเรียนขนาด 4 ห้องเรียนในเมืองเบาเกา ประเทศติมอร์-เลสเต ให้แล้วเสร็จภายในเวลา 4 เดือน ตามรายงานข่าวของกองพันก่อสร้างเคลื่อนที่ทหารเรือ-5 โครงการดังกล่าวนับเป็นโครงการที่ 103 ของหน่วยผึ้งทะเลในประเทศติมอร์-เลสเตที่มีประชากร 1.4 ล้านคน ซึ่งทหารช่างและทีมงานก่อสร้างของกองทัพสหรัฐฯ ได้ก่อสร้างและปรับปรุงคลินิกสุขภาพ โรงเรียน และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ภายในช่วงประจำการ 6 เดือนนับตั้งแต่ พ.ศ. 2552 เป็นต้นมา
“ไม่มีสิ่งใดแสดงถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะช่วยให้ติมอร์-เลสเตมีอนาคตที่สดใสสำหรับคนหนุ่มสาวและมิตรภาพของเรากับติมอร์-เลสเตได้ดีไปกว่าการสร้างห้องเรียนใหม่เหล่านี้อีกแล้ว” นายโทมัส ดาเลย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศติมอร์-เลสเต กล่าวระหว่างพิธีเปิดเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2564
ในเดือนเดียวกันนั้น บุคลากรของกองพันก่อสร้างเคลื่อนที่ทหารเรือ-5 และเจ้าหน้าที่ทหารของกองทัพฟิลิปปินส์ได้ดำเนินการปรับปรุงห้องเรียน 2 ห้องเพื่อสร้างคลินิกสุขภาพที่โรงเรียนกลางบากุมบายันในเมืองเลกัซปี ประเทศฟิลิปปินส์ โรงเรียนที่มีนักเรียนกว่า 1,500 คนแห่งนี้เป็นศูนย์อพยพสำหรับชาวบ้านในหมู่บ้านใกล้เคียงในกรณีที่เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ ตามรายงานของกองพันก่อสร้างเคลื่อนที่ทหารเรือ-5
โครงการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในการฝึกซ้อมทางทหารของความร่วมมือแปซิฟิกระหว่างพันธมิตรทั้งสอง “ความร่วมมือแปซิฟิกช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ของฟิลิปปินส์และสหรัฐฯ ขณะที่ทหารรุ่นเยาว์ของทั้งสองประเทศฝึกซ้อมร่วมกัน ไม่เพียงเพื่อเรียนรู้ทักษะที่จำเป็นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงวัฒนธรรมของทั้งสองประเทศด้วย” ร.ท. คลิมาโก รามิเรซ แห่งกองทัพฟิลิปปินส์ กล่าวในข่าวประชาสัมพันธ์
“ความร่วมมือข้างต้นเป็นประโยชน์ต่อโรงเรียน ชุมชน และประเทศชาติด้วยเช่นกัน” นางคริสตินา อาการิน ผู้อำนวยการโรงเรียนกล่าว “ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้รับ ความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นการให้บริการแก่ชุมชนในกรณีที่เกิดภัยพิบัติ เรารู้สึกขอบคุณกองทัพเรือสหรัฐฯ กองทัพฟิลิปปินส์ และความร่วมมือแปซิฟิกที่เลือกโรงเรียนกลางบากุมบายันให้เป็นโรงเรียนที่โชคดีที่สุดในประเทศ”
ในขณะที่กำลังจะทำการเปิดคลินิกสุขภาพ หน่วยผึ้งทะเลที่ถูกส่งไปประจำการยังประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกของปาปัวนิวกินี ก็ได้เริ่มสร้างสถานทันตกรรมขนาดห้าห้องที่ฐานทัพเรือลอมบรัมบนเกาะมานัส โครงการนี้เป็นการทำงานร่วมกับกองทัพปาปัวนิวกินีและกองทัพออสเตรเลีย โดยจะให้บริการแก่ชาวบ้านที่อยู่บนเกาะมานัสและหมู่เกาะโดยรอบเมื่อสร้างแล้วเสร็จใน พ.ศ. 2566 ตามรายงานของกองพันก่อสร้างเคลื่อนที่ทหารเรือ-5-5 (ภาพ: นายโรเบิร์ต นีลี เจ้าหน้าที่หน่วยผึ้งทะเลแห่งกองทัพเรือสหรัฐฯ ทำการดัดเหล็กเส้นระหว่างการก่อสร้างสถานทันตกรรมชุมชนที่ฐานทัพเรือลอมบรัม บนเกาะมานัส ประเทศปาปัวนิวกินี ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2564)
“นี่ถือเป็นหนึ่งในโครงการที่แปลกใหม่ที่สุดที่หน่วยผึ้งทะเลได้ดำเนินการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ประจำการครั้งแรกของพวกเรา” จ.อ. ริชโตเฟน ปาสกวา แห่งกองทัพเรือสหรัฐฯ กล่าวในข่าวประชาสัมพันธ์เมื่อปลายเดือนธันวาคม พ.ศ. 2564 “เราได้ใช้ทักษะทางเทคนิคทั้งหมดที่ได้เรียนรู้มาตลอดการฝึกอบรมของเราเพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพ ตลอดจนเอาชนะความท้าทายในการก่อสร้างด้วยทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดในฐานทัพแห่งนี้”
หน่วยผึ้งทะเลแห่งกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า กองพันก่อสร้าง และได้รับชื่อเล่นจากตัวอักษรแรกของคำว่า “กองพันก่อสร้าง” ได้รับการจัดตั้งขึ้นในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2485 ในช่วงที่โลกตกอยู่ในภาวะสงคราม ในช่วง 3 ปีต่อมาที่เกิดความขัดแย้งในอินโดแปซิฟิกเพียงภูมิภาคเดียว หน่วยผึ้งทะเลได้ก่อสร้างลานบินมากกว่า 100 แห่ง, ท่าเรือเกือบ 450 แห่ง, ที่พักอาศัยสำหรับทหาร 1.5 ล้านนาย ตลอดจนโรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วยกว่า 70,000 คน โดยได้รับเหรียญหัวใจสีม่วงมากกว่า 2,000 เหรียญ ตามรายงานของศูนย์ประวัติศาสตร์และมรดกทางทะเลแห่งกองทัพเรือสหรัฐฯ
ภาพจาก: จ.อ. เจนิซ ค็อปป็อก/กองทัพเรือสหรัฐฯ