ติดอันดับ

เที่ยวบินทางทหารประเมินความเสียหายของตองงาหลังภูเขาไฟระเบิด

ดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส

ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ส่งเที่ยวบินลาดตระเวนของกองทัพไปยังตองงาในช่วงกลางเดือนมกราคม พ.ศ. 2565 เพื่อประเมินความเสียหายที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟขนาดใหญ่ใต้ทะเล ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนอย่างน้อย 3 คนในประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกดังกล่าว

เถ้าภูเขาไฟที่สูงตระหง่านจากการปะทุเมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมาทำให้เที่ยวบินก่อนหน้านี้ไม่สามารถลงจอดได้ นิวซีแลนด์ส่งเสบียงที่จำเป็นต่าง ๆ อาทิ น้ำดื่ม ผ่านทางเครื่องบินขนส่งทางทหาร (ภาพ: เครื่องบิน โอไรออน ของกองทัพนิวซีแลนด์เตรียมออกเดินทางจากโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ ไปยังตองงาในวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2565)

สถานทูตสหรัฐฯ กล่าวในแถลงการณ์ว่า สำนักงานเพื่อการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมขององค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศแห่งสหรัฐฯ กำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาด้านความต้องการสถานที่พักพิงฉุกเฉิน ตลอดจนจัดเตรียมน้ำดื่มที่ปลอดภัย ชุดสิ่งของเพื่อสุขอนามัย และสิ่งจำเป็นอื่น ๆ ให้แก่ชาวตองงา นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังอนุมัติความช่วยเหลือฉุกเฉินมูลค่า 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6.6 ล้านบาท) เพื่อช่วยเหลือผู้อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบจากเถ้าถ่านและอุทกภัย

การสื่อสารกับตองงายังคงถูกจำกัดเป็นอย่างมาก บริษัทที่เป็นเจ้าของสายใยแก้วนำแสงใต้น้ำเส้นเดียวที่เชื่อมต่อประเทศหมู่เกาะดังกล่าวกับส่วนอื่น ๆ ของโลก กล่าวว่า สายเคเบิลดังกล่าวน่าจะถูกตัดขาดจากการปะทุ และการซ่อมแซมอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์

ชาวตองงาส่วนใหญ่ไม่สามารถใช้อินเทอร์เน็ตหรือโทรออกไปต่างประเทศได้ ประชาชนที่สามารถส่งข้อความออกไปยังต่างประเทศได้อธิบายว่า ตองงาดูเหมือนพื้นผิวดวงจันทร์ ขณะที่พวกเขาเริ่มเก็บกวาดซากความเสียหายจากคลื่นสึนามิและเถ้าถ่านภูเขาไฟที่ตกลงมา

คลื่นสึนามิซึ่งมีความสูงกว่า 80 เซนติเมตรซัดเข้าชายฝั่งของตองงา นางจาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ อธิบายถึงความเสียหายต่อเรือและร้านค้าต่าง ๆ บนชายฝั่งของตองงา คลื่นดังกล่าวเคลื่อนตัวข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก โดยส่งผลให้มีผู้จมน้ำเสียชีวิต 2 รายในเปรู ตลอดจนก่อให้เกิดความเสียหายเล็กน้อยตั้งแต่นิวซีแลนด์ไปจนถึงซานตาครูซ รัฐแคลิฟอร์เนีย

ภาพถ่ายดาวเทียมเผยให้เห็นกลุ่มเถ้าถ่าน ไอน้ำ และก๊าซที่ลอยตัว โดยมีลักษณะเหมือนเห็ดยักษ์เหนือน่านน้ำแปซิฟิกใต้

เสียงโซนิคบูมสามารถได้ยินไกลถึงรัฐอะแลสกาและส่งคลื่นกระแทกแรงดันไปรอบโลกถึง 2 ครั้ง ซึ่งเปลี่ยนแปลงความดันบรรยากาศที่อาจช่วยให้เมฆหมอกในซีแอตเทิลจางลงในเวลาสั้น ๆ ตามรายงานของสำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งสหรัฐอเมริกา มีการตรวจพบคลื่นขนาดใหญ่ไกลถึงทะเลแคริบเบียน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงแรงดันที่เกิดจากการปะทุดังกล่าว

นายซามูเอลลา ฟอนัว ประธานบริษัท ตองกา เคเบิล จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของสายเคเบิลเส้นเดียวที่เชื่อมต่อตองงากับโลกภายนอกผ่านทางฟิจิ กล่าวว่า สายเคเบิลดังกล่าวฉีกขาดประมาณ 10 นาทีหลังจากการปะทุ นายฟอนัวกล่าวว่า สายเคเบิลดังกล่าวทอดตัวอยู่ด้านบนและภายในแนวปะการังซึ่งอาจมีลักษณะแหลมคม

นายฟอนัวเสริมว่า ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเมื่อใดจึงจะปลอดภัยสำหรับเรือที่จะเข้าไปสำรวจใกล้กับภูเขาไฟใต้ทะเลเพื่อนำสายเคเบิลออกมาและตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้น

นอกจากนี้ สายเคเบิลใต้ทะเลสายที่สองที่เชื่อมต่อระหว่างเกาะต่าง ๆ ในตองงาดูเหมือนจะฉีกขาดเช่นกัน แม้ว่าเครือข่ายโทรศัพท์ในท้องถิ่นจะยังใช้งานได้ก็ตาม นายฟอนัวกล่าว อย่างไรก็ตาม นายฟอนัวกล่าวว่า กลุ่มเถ้าถ่านที่ลอยตัวอยู่ทำให้การโทรผ่านดาวเทียมทำได้ยาก

ตองงา ซึ่งมีประชากร 105,000 คน ได้หารือกับนิวซีแลนด์เกี่ยวกับการจัดหาสายใยแก้วนำแสงระหว่างประเทศสายที่สองเพื่อให้แน่ใจว่าเครือข่ายโทรศัพท์มีความแข็งแกร่งมากขึ้น แต่ตำแหน่งที่ตั้งของประเทศซึ่งตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวทำให้การหาวิธีการในระยะยาวเป็นเรื่องยาก นายฟอนัวกล่าว

 

ภาพจาก: ดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button