ความขัดแย้ง/ความตึงเครียดติดอันดับเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ

มหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกงกำหนด “การศึกษาความมั่นคงของชาติ”

เรดิโอฟรีเอเชีย

มหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกงจะกำหนดให้นักเรียนทุกคนที่เข้าศึกษาใน พ.ศ. 2565 เข้าร่วมโครงการการศึกษาความรักชาติของพรรคคอมมิวนิสต์จีน แหล่งข่าวแห่งหนึ่งกล่าวกับเรดิโอฟรีเอเชีย

ภายใต้ข้อกำหนดหลักสูตรหลักฉบับปรับปรุงใหม่ นักเรียนทุกคนต้องสำเร็จหลักสูตร “เข้าใจประเทศจีนในวันนี้” จึงจะสำเร็จการศึกษาได้ แหล่งข่าวกล่าว

มหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกงยืนยันว่าจะมีการเปิดตัวหลักสูตรภายใต้ข้อกำหนดเพื่อเสนอ “การศึกษาความมั่นคงแห่งชาติ” ซึ่งมีผลบังคับใช้ในสถานศึกษาทั้งหมดที่เริ่มต้นในระดับชั้นอนุบาล หลังจากที่รัฐบาลจีนประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติต่อฮ่องกงเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2563 ซึ่งนำไปสู่การปราบปรามผู้ไม่เห็นด้วยและฝ่ายค้านทางการเมืองในที่สาธารณะ

“ตามมาตรา 10 ของกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติของฮ่องกง เราจำเป็นต้องดำเนินการศึกษาความมั่นคงแห่งชาติผ่านการสอนในห้องเรียนและวิธีการอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมความตระหนักด้านความมั่นคงของชาติ ตลอดจนส่งเสริมพฤติกรรมที่สอดคล้องกับกฎหมายของชาวฮ่องกง” ตามรายงานของมหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกง

โครงการดังกล่าวจะประกอบด้วยการบรรยายในหัวข้อความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปฐมนิเทศนักศึกษาและการฝึกอบรมที่เกี่ยวข้องสำหรับผู้ดำเนินกิจกรรมปฐมนิเทศ

การประกาศดังกล่าวทำให้มีการดำเนินการในทำนองเดียวกันที่มหาวิทยาลัยโพลีเทคนิค มหาวิทยาลัยแบ๊บติสต์ มหาวิทยาลัยหลิงหนาน และมหาวิทยาลัยการศึกษาในฮ่องกง

นอกจากนี้ นักวิชาการหลายคนประกาศเกษียณอายุจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในฮ่องกง โดยอ้างถึงความไม่สบายใจต่อระบอบการปกครองใหม่ในระบบการศึกษาของประเทศ

“เหตุผลที่ผมเกษียณอายุนั้นน่าหดหู่ยิ่งกว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในวงกว้างที่ฮ่องกง และผู้คนไม่ให้การยอมรับวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกงอีกต่อไป” นายอิวาน ชอย อดีตอาจารย์ด้านการเมืองประจำมหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกง กล่าว

“ในช่วงปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้ยุบสหภาพนักศึกษาฮ่องกงและสั่งรื้อถอนรูปปั้น ‘เทพีประชาธิปไตย'” นายชอยกล่าว “สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดทำให้ผมเศร้ามาก และผมรู้สึกว่าถึงเวลาที่จะเกษียณอายุก่อนกำหนดแล้ว ผมต้องการเกษียณอายุก่อนกำหนดและหาสิ่งอื่นทำเพื่อให้รู้สึกดีกับตนเอง”

(ภาพ: นักศึกษาเขียนบันทึก ณ บริเวณที่ตั้งเดิมของเทพีประชาธิปไตย ซึ่งเป็นอนุสรณ์แก่เหยื่อของการสังหารหมู่ที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน พ.ศ. 2532 ที่ถูกรื้อถอนออกจากมหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกงในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2564)

นายชอยได้ยุติการตีพิมพ์คอลัมน์ประจำของตนในหนังสือพิมพ์หมิงเป้า ซึ่งถูกประณามในหนังสือพิมพ์ต้ากุงเปาของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเมื่อไม่นานมานี้ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดความกลัวว่าหนังสือพิมพ์หมิงเป้าอาจประสบชะตากรรมเช่นเดียวกับ แอปเปิล เดลี และสื่อเพื่อประชาธิปไตยอื่น ๆ ในฮ่องกงที่ถูกบังคับให้ปิดหรือย้ายในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

ต้ากุงเปากล่าวหาว่าหมิงเป้าต้องการ “เข้ามามีบทบาทแทน แอปเปิล เดลี โดยการปลุกระดมผู้อื่น” หลังจากที่ได้ตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับการรื้อถอน “เทพีประชาธิปไตย” “เสาแห่งความอัปยศ” และรูปปั้นอื่น ๆ ที่เป็นสัญลักษณ์ของการสังหารหมู่ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั่วฮ่องกง

นายชอยกล่าวว่า สภาพการณ์ใหม่ทำให้นักวิชาการมีแนวโน้มน้อยลงที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับประเด็นทางสังคมหรือการเมือง

“นักวิชาการโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่อาจมีความกลัวเกี่ยวกับอาชีพหรือความปลอดภัยส่วนบุคคลของตนเอง” นายชอยกล่าว “นอกจากนี้ยังมีการเซ็นเซอร์ตนเองมากขึ้นในสื่อ ซึ่งหมายความว่ามีผู้แสดงความคิดเห็นน้อยลง”

กฎหมายความมั่นคงแห่งชาตินำไปสู่การปราบปรามผู้เห็นต่างและผู้ประท้วงอย่างสันติทั่วทั้งเกาะ ซึ่งรวมถึงการกระทำที่ถือว่า “กัดกร่อน” หรือเป็นการบ่อนทำลายอำนาจ นักการเมืองฝ่ายค้าน นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน และนักข่าวหลายสิบคนถูกจำคุก ตลอดจนสหภาพแรงงานและองค์กรภาคประชาสังคมที่มีชื่อเสียงหลายแห่งถูกปิดตัวลง

ภาพจาก: ดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส

แสดงความคิดเห็นที่นี่

ความเป็นส่วนตัวของคุณเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเรา หากคุณเลือกที่จะระบุที่อยู่อีเมลของคุณ เจ้าหน้าที่ของ ฟอรัม จะใช้เพื่อติดต่อกับคุณเท่านั้น เราจะไม่เปิดเผยหรือเผยแพร่ที่อยู่อีเมลของคุณ เฉพาะชื่อและเว็บไซต์ของคุณเท่านั้นที่จะปรากฏในความคิดเห็นของคุณ ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

บทความที่เกี่ยวข้อง

Back to top button