ติดอันดับ

ผู้นำควอดควอดแถลงข่าวเกี่ยวกับอินโดแปซิฟิกที่เสรี พร้อมจับตาจีน

รอยเตอร์

ผู้นำของออสเตรเลีย อินเดีย ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา ได้ให้คำมั่นเมื่อปลายเดือนกันยายน พ.ศ. 2564 ว่าจะดำเนินการเพื่อบรรลุภูมิภาคอินโดแปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง “อย่างไม่สะทกสะท้านจากการบีบบังคับ” ในการประชุมสุดยอดครั้งแรก ซึ่งเป็นการรวมตัวกันเป็นแนวร่วมท่ามกลางความกังวลที่มีร่วมกันเกี่ยวกับสาธารณรัฐประชาชนจีน

การประชุมสองชั่วโมงที่ทำเนียบขาวของกลุ่มควอด ซึ่งเป็นการจัดกลุ่มของประเทศระบอบประชาธิปไตยสี่ประเทศที่สำคัญ จะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดโดยรัฐบาลจีน ซึ่งวิจารณ์ว่ากลุ่มดังกล่าว “ถึงวาระที่จะล้มเหลว”

นายสก็อตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย, นายนเรนทระ โมที นายกรัฐมนตรีอินเดีย, นายโยชิฮิเดะ ซูกะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น, และนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวในแถลงการณ์ร่วมหลังการเจรจาว่า “เรายืนหยัดเพื่อหลักนิติธรรม เสรีภาพในการเดินเรือและการบิน การระงับข้อพิพาทโดยสันติ ค่านิยมประชาธิปไตย ตลอดจนบูรณภาพแห่งดินแดนของรัฐ” (ภาพ จากซ้าย: นายสก็อตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย, นายนเรนทระ โมที นายกรัฐมนตรีอินเดีย, นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ, และนายโยชิฮิเดะ ซูกะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เข้าร่วมการประชุมผู้นำควอดที่ทำเนียบขาวเมื่อปลายเดือนกันยายน พ.ศ. 2564)

แม้ว่าจะไม่ได้มีการเอ่ยชื่อประเทศจีนตรง ๆ แต่ทุกคนนึกถึงรัฐบาลจีนก่อนเป็นอันดับแรก

ถ้อยแถลงข้างต้นได้กล่าวถึงการยืนกรานของผู้นำควอดในเรื่องพฤติกรรมตามกฎระเบียบในภูมิภาคที่จีนพยายามจะอวดอ้างแสนยานุภาพของตนเอง

“เราร่วมมือกันและมุ่งมั่นต่อการส่งเสริมความสงบเรียบร้อยตามกฎระเบียบที่เสรีและเปิดกว้าง ซึ่งมีรากฐานมาจากกฎหมายระหว่างประเทศและไม่สะทกสะท้านจากการบีบบังคับ ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองในอินโดแปซิฟิกและภูมิภาคอื่น ๆ” ผู้นำควอดกล่าว

ผู้นำควอดยังแสดงการสนับสนุนต่อการเพิ่มความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมของประเทศหมู่เกาะขนาดเล็ก โดยเฉพาะประเทศในมหาสมุทรแปซิฟิก

นอกจากนี้ ผู้นำควอดยังเรียกร้องให้เกาหลีเหนือเข้ามามีส่วนร่วมในการทูตเกี่ยวกับโครงการอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธ ซึ่งรัฐบาลเกาหลีเหนือไม่ยอมปฏิบัติตามเว้นแต่จะมีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรจากนานาชาติ

หลังการประชุม นายซูกะกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าประเทศสมาชิกควอดต่าง ๆ ตกลงที่จะร่วมมือด้านวัคซีน พลังงานสะอาด และอวกาศ ตลอดจนจัดการประชุมสุดยอดขึ้นทุกปี

นายโมทีกล่าวต่อผู้นำควอดว่า อินเดียจะอนุญาตให้มีการส่งออกวัคซีนโควิด-19 จำนวน 8 ล้านโดสภายในสิ้นเดือนตุลาคม พ.ศ. 2564 ภายใต้ข้อตกลงที่กลุ่มได้ตกลงกันไว้ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2564 เพื่อส่งออกวัคซีน 1 พันล้านโดสไปยังภูมิภาคอินโดแปซิฟิก นายฮาร์ช วาร์ดัน ชลิงลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย กล่าว

อินเดีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดของโลก สั่งห้ามการส่งออกในเดือนเมษายนท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 ในประเทศของตน อินเดียกล่าวว่า ตนจะให้ความสำคัญกับโครงการริเริ่มวัคซีนโคแว็กซ์ระหว่างประเทศและประเทศเพื่อนบ้านเมื่อกลับมาทำการส่งออกได้อีกครั้ง

ควอดประกาศข้อตกลงใหม่หลายฉบับ รวมถึงการเพิ่มความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานสำหรับสารกึ่งตัวนำ การต่อสู้กับการทำประมงผิดกฎหมาย และการเพิ่มความตระหนักรู้ในขอบเขตทางทะเล

นอกจากนี้ ควอดยังเปิดตัวพันธมิตรด้านเทคโนโลยี 5จี และวางแผนที่จะติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

“ด้วยการยอมรับบทบาทของรัฐบาลในการส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการสร้างความหลากหลายของ 5จี เราจะทำงานร่วมกันเพื่ออำนวยความสะดวกความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน และแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการขยายตัวและความมั่นคงทางไซเบอร์ของเทคโนโลยีอิงมาตรฐาน” เหล่าผู้นำควอดกล่าว

การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ ประกาศข้อตกลงด้านความมั่นคงที่จะจัดหาเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ให้แก่ออสเตรเลีย

 

ภาพจาก: ดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button