จีนสงวนข้อมูลพลเมืองของตนไว้ตามกฎหมายความเป็นส่วนตัว

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม

กฎหมายความเป็นส่วนตัวของข้อมูลฉบับใหม่ของรัฐบาลจีน คือความพยายามของทางการจีนที่จะเป็นผู้นำในการสร้างมาตรฐานการจัดการข้อมูลระดับโลก ซึ่งอาจส่งผลกระทบในวงกว้างสำหรับบริษัทต่าง ๆ ที่ดำเนินธุรกิจในประเทศ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระบุ

กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของจีนซึ่งมีผลบังคับใช้ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2564 อาจยุติขั้นตอนการดำเนินงานมาตรฐานบางอย่าง เช่น การส่งข้อมูลลูกค้าจากจีนแผ่นดินใหญ่ไปยังสำนักงานระดับภูมิภาคในฮ่องกงหรือสิงคโปร์ ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ ปัจจุบันการถ่ายโอนข้อมูลเหล่านั้นอาจอยู่ภายใต้เกณฑ์วิธีที่เข้มงวดและการตรวจสอบตามกฎระเบียบ ซึ่งทำให้ธุรกิจหยุดชะงัก

“กฎหมายฉบับใหม่จะผลักดันให้ผู้รับข้อมูลที่อยู่นอกประเทศปฏิบัติตามกฎหมายของจีนอย่างจริงจังยิ่งขึ้น โดยการใช้เขตอำนาจศาลนอกดินแดน” นายยู ยุนติง หุ้นส่วนอาวุโสของบริษัทกฎหมายเซี่ยงไฮ้ ดีบุนด์ กล่าวกับหนังสือพิมพ์ดังกล่าว

กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมุ่งเน้นไปที่แอปที่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อกำหนดเป้าหมายผู้บริโภคหรือเสนอราคาผลิตภัณฑ์และบริการที่เฉพาะบุคคล ตามแบบกฎหมายการคุ้มครองข้อมูลทั่วไปของสหภาพยุโรป กฎหมายดังกล่าวได้รับแรงหนุนจากคดีในประเทศหลายคดีที่เป็นเป้าสายตาของสาธารณะชน

• นักศึกษาทุนของวิทยาลัยในประเทศจีนเสียชีวิตใน พ.ศ. 2559 จากภาวะหัวใจหยุดเต้น หลังเงินเก็บของครอบครัวเธอถูกโจรกรรมไปโดยการหลอกลวงทางโทรศัพท์ซึ่งเกิดจากข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล นิตยสารข่าวออนไลน์เดอะดิโพลแมตรายงาน
• นายกัว บิง รองศาสตราจารย์ด้านกฎหมาย จากมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเจ้อเจียง ในนครหางโจว ประเทศจีน ยื่นฟ้องคัดค้านการใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าที่สวนสัตว์ซาฟารีแห่งหนึ่ง เอเจนซ์ ฟรานซ์-เพรส รายงาน
• ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายที่มหาวิทยาลัยชิงหัว ในกรุงปักกิ่ง ฟ้องร้องสมาคมเจ้าของบ้านเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2563 ฐานติดตั้งการจดจำใบหน้าในชุมชนที่มีรั้วรอบขอบชิดของเธอ ตามรายงานของสื่อหลายแห่ง

กฎหมายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวฉบับใหม่กำหนดว่าต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้เมื่อมีการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลในต่างประเทศ และบริษัทที่มีข้อมูลส่วนบุคคลของพลเมืองจีนจะไม่สามารถส่งมอบให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลจีน

นายชาร์ล หยู ทนายความของบริษัทกฎหมายระหว่างประเทศ พิลลาร์ ลีกัล กล่าวกับเดอะวอชิงตันโพสต์ว่ากฎระเบียบดังกล่าวจะกีดกันบริษัทจีนจากการแบ่งปันข้อมูลกับพันธมิตรในต่างประเทศ เนื่องจากอาจนำไปสู่บทลงโทษทางการเงินที่สูงลิบลิ่ว นายหยูกล่าวว่า นี่เป็นสัญญาณว่าจีนต้องการกำหนดมาตรฐานสากลเกี่ยวกับการถ่ายโอนข้อมูล

การผลักดันเรื่องความเป็นส่วนตัวที่เพิ่งค้นพบดูเหมือนจะขัดแย้งกับระบอบการปกครองที่เป็นผู้นำระดับโลกด้านการเฝ้าระวังทางวิดีโอที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ รัฐบาลจีนเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับพลเมืองของตนหลายล้านคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในซินเจียง ซึ่งได้กลายเป็นรัฐตำรวจภายใต้การเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องด้วยกล้องและการเฝ้าติดตามในชีวิตประจำวันของประชาชนทั่วไป นอกเหนือจากชาวมุสลิมอุยกูร์จำนวนมากถึง 1 ล้านคนในค่ายกักกัน

นอกจากนี้ รัฐบาลได้พัฒนาระบบการให้คะแนนเครดิตทางสังคมโดยอิงจากพฤติกรรมของประชาชนที่ติดตามได้ทางดิจิทัล ซึ่งรวมทุกอย่างตั้งแต่ภาษีที่ยังไม่ได้ชำระ ไปจนถึงการโพสต์แสดงความคิดเห็นเชิงลบเกี่ยวกับรัฐบาลในสื่อสังคมออนไลน์

พรรคคอมมิวนิสต์จีนไม่โปร่งใสในเรื่องวิธีการทำงานของอัลกอริทึมการให้คะแนน แต่ให้รางวัลแก่ผู้ที่มีคะแนนสูงด้วยอิสระในการเดินทางไปต่างประเทศ ที่พักหรูหรา และงานที่ดีขึ้น พลเมืองที่มีคะแนนต่ำต้องเผชิญกับบทลงโทษ ซึ่งรวมถึงการถูกกีดกันจากงานบริหาร การเดินทางทางอากาศหรือทางรถไฟ และการเข้าพักในโรงแรมที่ดี

แม้ว่ากฎหมายฉบับใหม่จะได้รับการออกแบบมาเพื่อคุ้มครองความเป็นส่วนตัว แต่กฎหมายนี้ได้ยกเว้นผู้เก็บรวบรวมข้อมูลเมื่อมีเหตุผลตามกฎหมายสำหรับการเก็บรวบรวม ซึ่งไม่ได้ระบุว่ามีกฎหมายใดที่เข้าเกณฑ์ “เป็นที่สังเกตว่า การยกเว้นอาจทำได้โดยอาศัยกฎเกณฑ์ที่เอื้อต่อระบบเครดิตทางสังคมที่เป็นที่ถกเถียงกันของจีน” เดอะวอชิงตันโพสต์รายงาน

ภาพจาก: ไอสต็อก