ผู้นำระดับโลกให้คำมั่นสัญญาในที่ประชุมเอเปกว่าจะเพิ่มการต่อสู้กับการระบาดใหญ่เป็นสองเท่า
ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2564 ผู้นำกลุ่มการค้าความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก รวมถึงนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ, นายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย, และนายสี จิ้นผิง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะขยายการแบ่งปันและการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อต่อสู้กับโรคระบาดดังกล่าว
ในขณะที่ประเทศต่าง ๆ กำลังเผชิญกับการระบาดที่รุนแรงขึ้นจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์เดลตา บรรดาผู้นำกล่าวว่าพวกเขาจะสนับสนุนให้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนโดยสมัครใจ “ตามเงื่อนไขที่ตกลงร่วมกัน”
“การแพร่ระบาดใหญ่ยังคงส่งผลกระทบร้ายแรงต่อประชาชนและเศรษฐกิจของภูมิภาคของเรา” บรรดาผู้นำกล่าวในแถลงการณ์ร่วมที่ออกหลังจากการประชุมเสมือนจริง ซึ่งนิวซีแลนด์เป็นประธาน
บรรดากลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิกกล่าวว่า “เราจะเอาชนะภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพนี้ด้วยการผลักดันการเข้าถึงวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ มีคุณภาพ และราคาที่เหมาะสมอย่างเท่าเทียม”
นิวซีแลนด์กล่าวว่าตนเองจะเป็นประธานการประชุมวิสามัญก่อนการประชุมอย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2564 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการจัดการประชุมเพิ่มเติมดังกล่าว
“การอภิปรายของเราทำให้เราก้าวข้ามลัทธิชาตินิยมด้านวัคซีน ตอนนี้ เรากำลังให้ความสำคัญในทุก ๆ ด้านต่อการมีส่วนร่วมในความพยายามที่จะฉีดวัคซีนทั่วโลก ซึ่งรวมถึงการผลิต การแบ่งปัน และการใช้วัคซีน” นางจาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ กล่าว อีกทั้งเสริมว่าบรรดาผู้นำต่างเห็นพ้องกันว่าการเตรียมความพร้อมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับโรคระบาดในอนาคต
การประชุมครั้งนี้เน้นย้ำถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับโควิด-19 ซึ่งกำลังรุนแรงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เนื่องจากประเทศต่าง ๆ อาทิ ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย และไทย กำลังเผชิญกับระลอกใหม่ของการติดเชื้อ
ทำเนียบขาวกล่าวว่า ประธานาธิบดีไบเดนเน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือระดับพหุภาคีและความมุ่งมั่นของตนเองที่มีต่ออินโดแปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง
“ประธานาธิบดีไบเดนยังได้หารือถึงความสำคัญของการลงทุนในการรักษาความปลอดภัยและการเตรียมพร้อมด้านสุขภาพระดับโลกที่ดีขึ้น เพื่อให้เรามีความพร้อมในการเผชิญกับโรคระบาดใหญ่ครั้งถัดไป” ตามแถลงการณ์ของทำเนียบขาว
นายปูตินกล่าวกับกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิกว่า อุปสรรคทั่วโลกในการผลิตและการส่งมอบวัคซีนต้องถูกขจัดออกไป
แม้จะมีการแสดงให้เห็นถึงการแก้ไขปัญหา แต่ความตึงเครียดในหมู่สมาชิกเอเปกยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างชาติตะวันตกและจีนในประเด็นต่าง ๆ ตั้งแต่ต้นกำเนิดของไวรัสโคโรนาไปจนถึงการค้า รวมทั้งการปราบปรามของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในภูมิภาคซินเจียงและฮ่องกง และการอ้างสิทธิ์อย่างกว้างขวางในทะเลจีนใต้
ตามข้อสรุปของการประชุมดังกล่าว สหรัฐฯ ได้ประกาศคว่ำบาตรต่อชาวจีน 7 คนในข้อหาการปราบปรามอย่างรุนแรงต่อระบอบประชาธิปไตยในฮ่องกงโดยรัฐบาลจีน ซึ่งเป็นความพยายามล่าสุดที่จะทำให้รัฐบาลจีนรับผิดชอบต่อสิ่งที่เรียกว่า การกัดกร่อนหลักนิติธรรม ในประเทศอดีตอาณานิคมของอังกฤษ
ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2564 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าของเอเปกตกลงที่จะทบทวนการกีดกันทางการค้าและผลักดันการขนส่งวัคซีนป้องกันโควิด-19 และสินค้าที่เกี่ยวข้องข้ามพรมแดน แต่ลังเลที่จะแสดงความมุ่งมั่นในวงกว้างเกี่ยวกับการยกเลิกภาษี ซึ่งนิวซีแลนด์เป็นผู้สนับสนุน
ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภายในพรมแดนของเอเปกมีมากกว่า 50 ล้านราย โดยเสียชีวิตแล้วมากกว่า 1 ล้านราย
ภาพจาก: รอยเตอร์