ติดอันดับ

สหรัฐฯ เรียกร้องให้เกาหลีเหนือเข้ามามีส่วนร่วมทางการทูต

วอยซ์ออฟอเมริกานิวส์

สหรัฐฯ กล่าวว่าพร้อมที่จะมีส่วนร่วมทางการทูตกับรัฐบาลเกาหลีเหนือ เพื่อให้บรรลุการปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี หลังจากทบทวนนโยบายของสหรัฐฯ เกี่ยวกับเกาหลีเหนือนานหลายเดือนเสร็จสิ้น

นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ (ภาพ) กล่าวในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2564 ระหว่างการแถลงข่าวเสมือนจริงกับนายโดมินิก ราบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักรในลอนดอน ว่า “สิ่งที่เรามีในตอนนี้คือนโยบายที่เรียกร้องให้มีแนวทางปฏิบัติที่ตรวจสอบแล้ว ซึ่งเปิดกว้างต่อและจะแสวงหาการทูตกับเกาหลีเหนือ เพื่อพยายามสร้างความคืบหน้าที่จะเพิ่มความมั่นคงให้แก่สหรัฐฯ เหล่าพันธมิตร และกองกำลังที่ส่งออกไปแล้ว”

นายราบกล่าวว่า สหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ “แบ่งปันแบบจำลองกลยุทธ์” และจะสนับสนุนความพยายามของกันและกัน

เจ้าหน้าที่บริหารของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศเมื่อปลายเดือนเมษายน พ.ศ. 2564 ว่า รัฐบาลได้ทบทวนนโยบายเกี่ยวกับเกาหลีเหนือเรียบร้อยแล้ว โดยได้แสดงความเปิดกว้างในการเจรจากับประเทศคอมมิวนิสต์ที่โดดเดี่ยวแห่งนี้ นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังคาดการณ์ว่าจะแต่งตั้งนักการทูตพิเศษสำหรับปัญหาสิทธิมนุษยชนของเกาหลีเหนือ

ด้านเกาหลีเหนือกลับโจมตีสหรัฐฯ และพันธมิตรของสหรัฐฯ ในแถลงการณ์หลายครั้ง โดยกล่าวว่า ความคิดเห็นล่าสุดจากรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นหลักฐานของนโยบายที่เป็นปฏิปักษ์

แถลงการณ์ของนายควอน จองกัน หัวหน้าแผนกอเมริกาเหนือของกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือ เตือนว่า รัฐบาลเกาหลีเหนือจะแสวงหา “มาตรการที่สอดคล้องกัน” และรัฐบาลสหรัฐฯ จะเผชิญกับวิกฤตที่มีค่าใช้จ่ายสูงในเร็ว ๆ นี้ หากรัฐบาลสหรัฐฯ พยายามขยับความสัมพันธ์กับรัฐบาลเกาหลีเหนือผ่าน “นโยบายที่เก่าแก่และล้าสมัย” จากมุมมองของสงครามเย็น

นายบลิงเคนกล่าวว่า “ผมหวังว่าเกาหลีเหนือจะใช้โอกาสดังกล่าวเข้ามามีส่วนร่วมทางการทูต และเพื่อดูว่าจะมีแนวทางใดบ้างที่นำไปสู่การบรรลุวัตถุประสงค์ของการปลดอาวุธนิวเคลียร์จากคาบสมุทรเกาหลี” และเสริมว่า “ดังนั้น เราจะไม่เพียงดูว่าเกาหลีเหนือจะว่าอย่างไร แต่จะดูว่าแท้จริงแล้วเกาหลีเหนือจะทำอย่างไรในอีกหลายวันและหลายเดือนที่จะถึงนี้”

จากแถลงการณ์ของนายบลิงเคนหลังการประชุมร่วมกับนายโทชิมิตสึ โมเทกิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น และนายชอง อึยยง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศดังกล่าวได้ให้คำมั่นว่าจะให้ความร่วมมือไตรภาคีต่อการปลดอาวุธนิวเคลียร์ของคาบสมุทรข้างต้น

นายบลิงเคนเดินทางไปยังลอนดอนเพื่อประชุมกับเจ้าหน้าที่ระดับเดียวกันจากกลุ่มชาติผู้นำอุตสาหกรรมหลักของโลก 7 ประเทศ (จี-7) รวมถึงสาธารณรัฐประชาชนจีนและรัสเซียในวาระสำคัญว่าด้วยการหารืออย่างเป็นทางการและการอภิปรายเพิ่มเติมเป็นเวลาสามวันท่ามกลางการระบาดของไวรัสโคโรนา

นายราบกล่าวว่า “ผมคิดว่าเป็นการยุติธรรมที่จะกล่าวว่าเราเห็นตรงกันเรื่องความจำเป็นในการยืนหยัดเพื่อค่านิยมของเรา ยึดมั่นในพันธกิจที่รัฐบาลได้ให้ไว้ แม้ว่ารัฐบาลจีนจะมีความสัมพันธ์กับฮ่องกงภายใต้พันธสัญญาปฏิญญาร่วมระหว่างจีนและอังกฤษหรือพันธกิจที่กว้างกว่า”

นายราบกล่าวเพิ่มเติมว่า อังกฤษและสหรัฐฯ กำลังแสวงหาแนวทางที่เป็นโครงสร้างเพื่อร่วมมือกับจีน “ในลักษณะที่สมเหตุสมผลและเป็นด้านบวก” ในประเด็นต่าง ๆ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเมื่อเป็นไปได้

เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯ กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของสหรัฐฯ ไม่ใช่เพื่อยับยั้งจีน แต่เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยตามกฎระเบียบระหว่างประเทศ

ประธานาธิบดีไบเดนระบุว่า การแข่งขันกับจีนเป็นความท้าทายด้านนโยบายต่างประเทศที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในการปราศรัยครั้งแรกต่อรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อปลายเดือนเมษายน พ.ศ. 2564 นายไบเดนได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะรักษาสถานะทางทหารที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ในอินโดแปซิฟิก และกระตุ้นการพัฒนาด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ

นอกจากนี้ นายบลิงเคนกล่าวในเดือนเมษายนว่า สหรัฐฯ กังวลเกี่ยวกับการกระทำที่รุนแรงของจีนต่อไต้หวัน และเตือนว่าจะเป็น “ความผิดพลาดร้ายแรง” สำหรับทุกฝ่ายที่พยายามใช้กำลังเปลี่ยนสถานภาพในอินโดแปซิฟิก

การเจรจาระดับรัฐมนตรีจากกลุ่มจี-7 ได้วางรากฐานสำหรับการประชุมสุดยอดผู้นำจากประเทศเหล่านั้นเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2564 รวมทั้งในประเทศอังกฤษ นอกเหนือจากสหรัฐฯ และอังกฤษแล้ว กลุ่มจี-7 ยังรวมถึงแคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และญี่ปุ่น ยิ่งไปกว่านั้น ออสเตรเลีย บรูไน อินเดีย แอฟริกาใต้ และเกาหลีใต้ยังได้เป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาระดับรัฐมนตรีดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ นายบลิงเคนยังเข้าพบนายเอรีวัน ยูซอฟ ที่ 2 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศบรูไน และนายซูบราห์มาเนียม ไจชานการ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินเดียอีกด้วย

 

ภาพจาก: ดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button