กลุ่มสิทธิมนุษยชนเรียกร้องให้สหประชาชาติสอบสวนรัฐบาลจีนในข้อหาอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ

ดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส

กลุ่มสิทธิมนุษยชนยื่นเรื่องต่อสหประชาชาติในเดือนเมษายน พ.ศ. 2564 เพื่อสอบสวนข้อกล่าวหาว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนกำลังก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติในเขตปกครองตนเองซินเจียง

ฮิวแมนไรตส์วอตช์อ้างถึงรายงานการกักขังชาวมุสลิมจำนวนมาก การปราบปรามเกี่ยวกับการปฏิบัติทางศาสนา และมาตรการอื่น ๆ ที่ใช้ต่อต้านชนกลุ่มน้อยในภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งกล่าวว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ตามที่ระบุไว้ในสนธิสัญญาที่จัดตั้งศาลอาญาระหว่างประเทศ

สาธารณรัฐประชาชนจีนไม่ได้เป็นสมาชิกของศาลดังกล่าว และอาจใช้อำนาจยับยั้งของตนในฐานะสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เพื่อปิดกั้นการดำเนินคดีต่อทางการจีน ตามรายงานฉบับหนึ่งของฮิวแมนไรตส์วอตช์ อย่างไรก็ตาม กลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวว่าคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ควรตั้งหน่วยงานเพื่อตรวจสอบข้อกล่าวหา ชี้ตัวผู้ที่ต้องรับผิดชอบ และจัดทำแนวทางการดำเนินการเพื่อให้บุคคลเหล่านั้นรับผิดชอบ

รัฐบาลและนักวิจัยต่างชาติระบุว่า มีประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนถูกกักตัวที่ค่ายกักกันในซินเจียง เจ้าหน้าที่ถูกกล่าวหาว่าจงใจบังคับใช้แรงงานและการคุมกำเนิด (ภาพ: นักเรียนชาวมุสลิมสวมหน้ากากที่มีสีธงชาติเตอร์กิสถานตะวันออกเพื่อการเรียกร้องเอกราชในการชุมนุม ที่บริเวณด้านนอกสถานทูตจีนประจำกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2564 เพื่อประท้วงการกดขี่ชาวอุยกูร์ชาติพันธุ์ชนกลุ่มน้อยในเขตปกครองตนเองซินเจียงของจีน)

พรรคคอมมิวนิสต์จีนปฏิเสธข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการละเมิด และกล่าวว่าค่ายเหล่านี้เป็นสถานฝึกอบรมเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและต่อสู้กับลัทธิหัวรุนแรงอิสลาม รัฐบาลจีนกำลังกดดันให้แบรนด์เสื้อผ้าและรองเท้าจากต่างประเทศยุติการตัดสินใจยกเลิกการใช้ผ้าฝ้ายจากซินเจียง เนื่องจากมีรายงานเกี่ยวกับการบังคับใช้แรงงาน

จากนั้นนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2564 ว่าจีนกำลังก่อเหตุฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในซินเจียง นายแอนโตนี บลิงเกน ผู้สืบทอดตำแหน่งของนายปอมเปโอภายใต้การแต่งตั้งของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังคงยืนหยัดในประกาศดังกล่าว

รัฐสภาของเบลเยียม แคนาดา และเนเธอร์แลนด์ยังกล่าวหาว่ารัฐบาลจีนฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

ฮิวแมนไรตส์วอตช์ ซึ่งกล่าวว่าได้รับความช่วยเหลือจากคลินิกสิทธิมนุษยชนของโรงเรียนกฎหมายมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ระบุว่า ยังไม่มีเอกสารใดที่ชี้ให้เห็นถึงเจตนาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ อย่างไรก็ตาม รายงานนั้นระบุว่า “หากมีหลักฐานดังกล่าว การกระทำต่อชาวเติร์กมุสลิมในซินเจียง ก็อาจเพิ่มน้ำหนักให้แก่ข้อค้นพบเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ได้เช่นกัน”

จีนปฏิเสธไม่ให้องค์การสหประชาชาติเข้าตรวจสอบเขตปกครองดังกล่าว

“องค์การสหประชาชาติใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อเรา และกล่าวว่าต้องการมาที่นี่เพื่อดำเนินการสืบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ผมคิดว่านี่เป็นข้อสันนิษฐานความผิดแบบตื้น ๆ” นายเลอ หยู่เฉิง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าว

สหรัฐอเมริกาได้บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรด้านการเดินทางและการเงินต่อเจ้าหน้าที่จีนที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการการละเมิดสิทธิมนุษยชนในซินเจียง รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ปิดกั้นการนำเข้าจากบริษัทหลายแห่ง รวมถึงการนำเข้าผลิตภัณฑ์ฝ้ายและมะเขือเทศจากภูมิภาคนี้

รายงานของฮิวแมนไรตส์วอตช์ได้เรียกร้องให้คณะกรรมาธิการยุโรประงับการยื่นข้อเสนอสนธิสัญญาการลงทุนระหว่างสหภาพยุโรปและจีนต่อรัฐสภายุโรป เพื่อขอความเห็นชอบจนกว่าจะมีการตรวจสอบข้อกล่าวหาการบังคับใช้แรงงาน มีการจัดการการละเมิดสิทธิ มีการชดเชยแก่ผู้เสียหาย และมีความคืบหน้าในการดำเนินการกับผู้ที่ต้องรับผิดชอบ

ภาพจาก: ดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส