สหภาพยุโรปกล่าวโทษจีนที่ทำให้สันติภาพในทะเลจีนใต้ตกอยู่ในอันตราย

รอยเตอร์

สหภาพยุโรปต่อว่าที่จีนทำให้สันติภาพในทะเลจีนใต้ตกอยู่ภาวะเสี่ยงอันตราย และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามคำวินิจฉัยศาล พ.ศ. 2559 ที่ปฏิเสธการอ้างสิทธิอธิปไตยของจีนในทะเลส่วนใหญ่

เมื่อปลายเดือนเมษายน พ.ศ. 2564 สหภาพยุโรปออกนโยบายใหม่ที่มีเป้าหมายจะยกระดับอิทธิพลในภูมิภาคอินโดแปซิฟิกของตนเพื่อต่อต้านอำนาจที่เพิ่มขึ้นของจีน

ในสัปดาห์เดียวกัน ฟิลิปปินส์ได้คัดค้านจีนที่ไม่ยอมถอนกองเรือที่ “กำลังคุกคาม” โดยเชื่อว่ามีพลเรือนติดอาวุธทางทะเลคอยควบคุมบริเวณแนวปะการังวิธซัน ซึ่งฟิลิปปินส์เรียกว่าแนวปะการังจูเลียน เฟลิเป (ภาพ: เรือของกองกำลังรักษาชายฝั่งฟิลิปปินส์ออกลาดตระเวน และพบเรือจีนจอดอยู่ที่แนวปะการังวิธซันในทะเลจีนใต้เมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2564)

โฆษกสหภาพยุโรปกล่าวในการแถลงการณ์เมื่อวันที่ 24 เมษายนว่า “ความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ รวมถึงการปรากฏตัวของเรือขนาดใหญ่ของจีนที่บริเวณแนวปะการังวิธซันอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคแห่งนี้”

สหภาพยุโรปเน้นย้ำการคัดค้านอย่างรุนแรงต่อ “การกระทำฝ่ายเดียวที่อาจทำลายเสถียรภาพของภูมิภาคและความสงบเรียบร้อยตามกฎระเบียบระหว่างประเทศ” โดยเรียกร้องให้ทุกฝ่ายแก้ไขข้อพิพาทอย่างสันติตามกฎหมายระหว่างประเทศ และเน้นย้ำถึงอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ พ.ศ. 2559 ที่ตัดสินโดยเป็นประโยชน์แก่ฟิลิปปินส์ในขณะที่ถือว่าการอ้างสิทธิ์ส่วนใหญ่ของจีนในทะเลจีนใต้เป็นโมฆะ

จีนเขียนแถลงการณ์ต่อสหภาพยุโรปโดยย้ำถึงการอ้างสิทธิ์ของจีนว่า แนวปะการังเป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะหนานชาของจีนหรือหมู่เกาะสแปรตลี อีกทั้งยังถือเป็นเรื่อง “สมเหตุสมผลและถูกต้องตามกฎหมาย” สำหรับเรือประมงจีนที่จะทำการประมงและหลบภัยจากลมพายุที่นั่น

นอกจากนี้ แถลงการณ์ดังกล่าวยังอ้างว่าอธิปไตย สิทธิ์ และผลประโยชน์ของจีนในทะเลจีนใต้ก่อตั้งขึ้นใน “ประวัติศาสตร์อันยาวนานและสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ” รวมถึงปฏิเสธคำวินิจฉัยของศาล พ.ศ. 2559 ที่ตัดสินว่าเป็น “สูญเปล่าและเป็นโมฆะ”

จีนกังวลมากยิ่งขึ้นที่ประเทศในยุโรปและประเทศอื่น ๆ กำลังให้ความสนใจต่อการเรียกร้องของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้มี “แนวทางการประสานงาน” ต่อจีน ซึ่งจนถึงขณะนี้มีการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อการปราบปรามความมั่นคงของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในฮ่องกง และการปฏิบัติต่อชาวมุสลิมอุยกูร์ในภูมิภาคซินเจียง

เมื่อเดือนมีนาคม นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯ “ยืนหยัดเคียงข้างฟิลิปปินส์ที่เป็นพันธมิตรของตน” ในการเผชิญหน้ากับพลเรือนติดอาวุธทางทะเลจำนวนมากของจีนที่แนวปะการังวิธซัน

ภาพจาก: ดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส